ในชีวิตประจำวัน เราต้องเผชิญกับความเครียดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยธรรมชาติมนุษย์สามารถทนต่อความเครียดได้เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และปล่อยให้สะสมมากเกินความสามารถที่จะปรับตัวได้จะเป็นภัยเงียบที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ
“ความเครียด” ภัยร้ายทำลายสุขภาพ
จัดการความเครียดด้วย 'วิตามินบี' ปริมาณสูง
วิตามินบี ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ฉับไว อารมณ์แจ่มใส
วิตามินบี ช่วยให้พลังงาน เพื่อพร้อมรับวันใหม่
ปัจจัยที่ส่งผลทำให้วิตามิน บี ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ใครบ้างที่ควรได้รับ 'วิตามินบี' เพิ่มเติม
ความเครียด... เริ่มต้นจากอารมณ์ ความรู้สึก และสภาพจิตใจทางด้านลบ เช่น รู้สึกวิตกกังวล คับข้องใจ อารมณ์เสีย ขาดสมาธิ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อเนื่องไปยังร่างกาย เช่น ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นต้น ถ้าปล่อยให้ความเครียดเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อนุมูลอิสระและสารเคมีที่หลั่งออกมาในภาวะเครียด จะเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง เบาหวาน เป็นต้น จะเห็นว่าผู้ที่มีความเครียดเป็นประจำ ไม่ได้เพียงกระทบต่อชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่อาจเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ ที่ทำร้ายสุขภาพโดยไม่รู้ตัวในระยะยาว
การผ่อนคลายความเครียดทำได้หลายวิธี นอกจากการพักผ่อน ออกกำลังกาย ทำสมาธิแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่มีผลการวิจัยทางการแพทย์ว่าสามารถช่วยบรรเทาความเครียด และทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ คือ การรับประทานวิตามินบี ปริมาณสูง (1)
วิตามินบี เป็นกลุ่มวิตามินที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานที่เป็นปกติของสมองและระบบประสาท มีบทบาทสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาทที่ควบคุมการตื่นตัว ความจำและอารมณ์ จะเห็นว่าวิตามินบี มีบทบาทสำคัญในการผลิตสารสื่อประสาทที่ช่วยให้ผ่อนคลาย และยังช่วยให้สมองปลอดโปร่ง มีสมาธิ
การเรียนรู้ และอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วย
วิตามินบี ทุกชนิดจะทำงานร่วมกัน และเป็นส่วนประกอบสำคัญช่วยการเผาผลาญอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ให้เป็นพลังงานสำหรับใช้ใน
กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และวิตามินบียังมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตและขบวนการสร้างเม็ดเลือดเพื่อให้สามารถนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ร่างกายพร้อมเผชิญกับภารกิจได้อย่างสดชื่นตลอดวัน
ในภาวะที่ร่างกายเผชิญกับความเครียด สมองและระบบประสาทต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก และต้องใช้วิตามินบีมากขึ้นด้วยเพื่อเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการขบวนการสร้างพลังงานจากสารอาหาร ดังนั้นในขณะเครียดวิตามินบีจึงถูกใช้หมดลงอย่างรวดเร็ว ผลก็คือสมองจะขาดพลังงานในการทำงาน ซึ่งนำไปสู่ภาวะเครียดที่รุนแรงยิ่งขึ้น ผู้อยู่ในภาวะเครียดจึงควรได้รับวิตามินบี ปริมาณสูงเพียงพอเพื่อใช้เปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงานแก่สมองได้ทันที
วิตามินบี เป็นวิตามินที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองไม่ได้ ต้องได้รับจากอาหารหรือวิตามินเสริมเท่านั้น และด้วยวัฒนธรรมการบริโภคอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าน้อยลง การนิยมบริโภคข้าวขัดสี การหุงต้มที่สูญเสียวิตามินบี 10-50 เปอร์เซ็นต์ สังคมที่มีการดื่มสังสรรค์บ่อยครั้งมากขึ้น ซึ่งพบว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำมักขาดวิตามินบี ปัจจัยที่ยากจะหลีกเลี่ยงเหล่านี้ ล้วนส่งผลทำให้ร่างกายได้รับวิตามินบีลดลง
นอกจากนี้การดำเนินชีวิตในสังคมเมืองที่มีการแข่งขันสูง ส่งผลให้เผชิญกับความเครียดจากการทำงาน การเรียน ทำให้ร่างกายมีความต้องการใช้วิตามินบีมากขึ้น จนอาจเป็นสาเหตุให้วิตามินบีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ผู้บริหารทุกระดับ
ผู้ที่มีความเครียดเป็นประจำ
นักเรียน นักศึกษาที่เรียนหนัก
ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
ผู้ป่วยพักฟื้นจากการผ่าตัด
ผู้ที่มีอาการชา ปลายมือปลายเท้า
ควรพิจารณาเลือกสูตรที่ประกอบด้วยวิตามินบีหลายชนิดและครบถ้วน เพราะวิตามินบีจะทำหน้าที่ร่วมกันในการทำให้ปฏิกิริยาต่างๆ มากมายในร่างกาย เป็นไปอย่างต่อเนื่องสมบูรณ์ โดยวิตามินบีที่สำคัญ 10 ชนิด ได้แก่ ไธอะมีน (บี1), โรโบฟลาวิน (บี2), นิโคตินามายด์ (บี3), กรดแพนโทเทนิค (บี5), ไพริดอกซิน (บี6), ไบโอติน (บี7), อินโนซิทอล (บี8), กรดโฟลิค (บี9), โคลีน (บี11) และ ไซยาโนโคบาลามิน (บี12)
นอกจากนี้ควรมีปริมาณของวิตามินบีสูงเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยขนาดแนะนำของวิตามินบี แต่ละชนิด คือ 25-300 มิลลิกรัม/วัน ( 25-300 ไมโครกรัม สำหรับวิตามินบี7 บี9 และบี12) ควรเลือกสูตรสมดุล คือ วิตามินบีแต่ละชนิดมีปริมาณเท่ากัน เพื่อไม่ให้ขัดขวางการ ดูดซึมซึ่งกันและกัน หรืออาจกล่าวได้ว่า การได้รับวิตามินบีชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป จะไปแย่งการดูดซึมวิตามินบีตัวอื่นได้