สมุนไพรแก้หวัด เจ็บคอ น้ำมูกไหล เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลง

การใช้ สมุนไพรแก้หวัด คือ วิธีดูแลสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วยมานานหลายศตวรรษ เนื่องจากในสมุนไพรมีสารสำคัญหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส การอักเสบ ตลอดจนเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จึงมักนำมาใช้รักษา และบรรเทาอาการเจ็บคอ น้ำมูกไหล หรือไอจากโรคหวัดที่มักเป็นได้บ่อยเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง และภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลง

อาการหวัด เจ็บคอ น้ำมูกไหล

ไข้หวัด (Common Cold) คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น จมูก ลำคอ ไซนัส และกล่องเสียง ซึ่งไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านปาก ตา จมูก และแพร่กระจายในอากาศโดยเฉพาะเมื่ออากาศมีอุณหภูมิต่ำ ทำให้ร่างกายไม่ได้รับความอบอุ่นที่เพียงพอ เช่น ช่วงอากาศหนาวเย็น ฝนตก การนอนเปิดแอร์หรือเปิดพัดลมจ่อร่างกาย และการเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างรวดเร็วจะทำให้ติดเชื้อไวรัสและเป็นหวัดได้ง่าย เมื่อร่างกายได้รับไวรัสและติดไข้หวัดจะมีอาการดังต่อไปนี้

• อ่อนเพลีย และรู้สึกไม่สบายตัว
• เจ็บคอ เสียงแหบ
• ไอและจาม
• คัดจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวกเนื่องจากมีน้ำมูกอุดตันในโพรงจมูก

อาการเหล่านี้จะมีระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน ตามหลักแพทย์แผนปัจจุบันสามารถรักษาให้หายด้วยการรับประทานยา เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้คัดจมูก ยาแก้ไอ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถรับประทาน สมุนไพรแก้หวัด อย่าง เอ็กไคนาเซีย (Echinacea) เพื่อบรรเทาอาการหวัดให้ทุเลาได้เร็วขึ้น 

สมุนไพรแก้หวัด เอ็กไคนาเซีย มีสรรพคุณอะไรบ้าง?

เอ็กไคนาเซีย (Echinacea) เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการของโรคหวัด และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพร 1 ใน 5 ที่มีการนำมาใช้มากที่สุดในทวีปยุโรป อีกทั้งยังมีบทความที่ตีพิมพ์มากกว่า 300 งานวิจัย ที่พบว่าเอ็กไคนาเซียสามารถลดโอกาสการเป็นหวัดซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสได้ถึง 50% และช่วยลดระยะเวลาการเป็นหวัดได้ภายใน 1-2 วันเท่านั้น ด้วยสรรพคุณทางยา ดังนี้

1. เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

สมุนไพรแก้หวัดอย่างเอ็กไคนาเซียนั้นประกอบไปด้วยสารเคมีธรรมชาติหลายชนิด เช่น อัลไคลาไมด์ (Acrylamide) กรดซิโคริก (Chicoric acid) โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) และไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งมีส่วนกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว (Phagocytosis) และเพิ่มการผลิตเซลล์ (T-Lymphocyte) เพื่อต่อสู้สิ่งแปลกปลอมได้ดีมากยิ่งขึ้น

2. ลดความถี่ของอาการและระยะเวลาในการเป็นหวัด

สมุนไพรเอ็กไคนาเซียมีฤทธิ์ช่วยลดความถี่และระยะเวลาในการเป็นหวัด รวมถึงช่วยลดอาการและความรุนแรงของหวัดได้ จากการทดลองทางคลินิกพบว่า การรับประทานเอ็กไคนาเซียขนาด 1,800 มิลลิกรัมต่อวัน สามารถช่วยบรรเทาอาการจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรแก้หวัดที่มีความปลอดภัยสูงและไม่พบผลข้างเคียงที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย 

3. บรรเทาอาการหวัดลงคอ

เอ็กไคนาเซียมีส่วนช่วยลดความรุนแรงของอาการหวัด ไอ เจ็บคอ คันคอได้ 24% รวมถึงอาการเจ็บคอที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียและรักษาอาการเริมได้อีกด้วย

4. มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) 

ในดอกเอ็กไคนาเซียมีสารต้านอนุมูอิสระที่จะช่วยปกป้องเซลล์ โดยเข้าไปกำจัดอนุมูลอิสระที่จะสร้างความเสียหายให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

วิธีรับประทาน สมุนไพรแก้หวัด เอ็กไคนาเซีย

ปัจจุบันมีสมุนไพรเอ็กไคนาเซียแบบเม็ดที่สามาถรับประทานได้สะดวก ไม่ส่งผลข้างเคียงต่อเด็ก ผู้ป่วยโรคตับ ไต และสตรีตั้งครรภ์

1. รับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร สำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการหวัด เจ็บคอ น้ำมูก และไอ 
2. รับประทาน ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร สำหรับผู้ที่อาการรุนแรงหรือติดเชื้อไวรัส เช่น เริมหรืองูสวัด 

โดยแนะนำให้รับประทานต่อเนื่อง 2 เดือน จากนั้นให้เว้น 1 สัปดาห์และสามารถกลับมารับประทานต่อได้ตามปกติ
เพื่อให้ร่างกายไม่เกิดการคุ้นชินต่อการกระตุ้นภูมิมากเกินไป

จึงนับได้ว่า เอ็กไคนาเซีย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการใช้สมุนไพรแก้หวัดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อลดปัญหาการดื้อยา ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการรักษา  และลดโอกาสที่ตับจะถูกทำลาย นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการหวัดได้แล้ว ยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นโดยไม่เป็นพิษต่อร่างกายในระยะยาวอีกด้วย 

อ่านต่อ : วิธีแก้เจ็บคอ บรรเทาอาการไอ ไอแห้ง และไอมีเสมหะ