ยาหยอดตา ต้นเหตุโรคต้อหิน

ยาหยอดตา ต้นเหตุโรคต้อหิน

อันตราย! จากยาหยอดตาที่คุณยังไม่รู้     

     เมื่อเกิดอาการคัน ระคายเคืองตา หรือตาแดง สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงก็คือ ‘ยาหยอดตา’ ซึ่งมีวางจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป และแน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องยากที่หลายคนจะตัดสินใจแก้ปัญหาสุขภาพตาที่เกิดขึ้น ด้วยการซื้อยาหยอดตามาใช้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก
     แต่รู้หรือไม่... บางครั้งการซื้อยาหยอดตาใช้เอง อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเสมอไป หนำซ้ำยังอาจเป็นการเพิ่มปัญหา และทำให้การเจ็บป่วยบริเวณดวงตารุนแรงขึ้นไปอีก

เพราะยาหยอดตาบางชนิดมีส่วนประกอบของ 'สารสเตียรอยด์' ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และยังเป็นอันตรายต่อดวงตาส่งผลให้เกิดต้อหิน (Glaucoma) ได้อีกด้วย

     ปัจจุบันต้อหิน (Glaucoma) เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดภาวะตาบอดเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก และเป็นสาเหตุของตาบอดชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ การใช้ยาสเตียรอยด์ก่อให้เกิดภาวะไม่สมดุลในการสร้างและระบายออกของน้ำในลูกตา ทำให้ความดันลูกตาสูงและตาบอดได้หากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

     สาเหตุของการเจ็บป่วยบริเวณดวงตาโดยมากมักเกิดจากพฤติกรรมของผู้ป่วยเอง โดยเฉพาะการใช้สายตาอย่างหนัก การใช้ยาหยอดตาอาจเป็นวิธีที่ง่ายในการรักษาแต่เมื่อพิจารณาถึงผลข้างเคียงที่จะตามมา อาจไม่คุ้มค่าที่จะต้องสูญเสียการมองเห็น ดังนั้นการจะหลีกเลี่ยงการใช้ยาหยอดตาที่อาจส่งผลเสียต่อดวงตา ควรเริ่มจากการดูแลดวงตาให้แข็งแรงอยู่เสมอ ดังนี้

1.  พักสายตาเป็นประจำ 
     การใช้สายตาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยไม่พักสายตา อาจส่งผลให้ตาล้า ตาแห้ง หรือเกิดการอักเสบจนในที่สุดต้องบรรเทาอาการด้วยยาหยอดตา ดังนั้นหากต้องใช้สายตาควรปฏิบัติตามหลักการ 20:20:20 คือพักสายตาทุก ๆ 20 นาที ด้วยการมองไปไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณดวงตา
2.  ทำงานในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ 
     เพราะแสงจากหน้าจอไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ล้วนประกอบไปด้วยแสงสีฟ้าที่สามารถทำลายดวงตาได้ ยิ่งอยู่ในที่มืดยิ่งส่งผลต่อดวงตามากขึ้น ดังนั้นหากต้องใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ควรเปิดไฟใฟ้มีแสงสว่างเพียงพอจนรู้สึกสบายตา
3.  สวมแว่นกันแดด 
     เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด ควรสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันรังสียูวีที่จะทำร้ายดวงตา
4.  ดื่มน้ำสะอาด และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 
     โดยเฉพาะอาหารจำพวกผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า ผลไม้สีส้มหรือสีเหลือง อย่างแครอท ฟักทอง และข้าวโพด ซึ่งมีสารอาารที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตา
5.  ไม่ซื้อยาหยอดตาใช้เอง 
     หากเกิดความผิดปกติต่อดวงตา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำในการรักษาและดูแลดวงตาอย่างถูกวิธี

     ดูแลดวงตาให้ถูกวิธี และเสริมสร้างความแข็งแรงของดวงตาด้วยสารอาหารสำคัญอย่างลูทีน บิลล์เบอร์รี่สกัด และเบต้าแคโรทีนที่จะออกฤทธิ์ร่วมกันเพื่อบำรุงสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ดวงตาสดใส มองเห็นเรื่องราวดี ๆ ไปได้อย่างยาวนาน_ ด้วยความห่วงใยจาก iiCare_ MEGA We care

 


ขอบคุณข้อมูลจาก :

1.  http://www.metta.go.th/mobile/knowledge/knoweye/eyevdo/92-eyecare

2.  https://www.thaihealth.or.th/Content/43914-เตือน%20ไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้เอง.html


3.  https://www.rajavithi.go.th/rj/?p=3776

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้