เบิร์นแบบไหน ให้ไขมันกระจุย

ไม่ใช่แค่คนที่น้ำหนักเกิน แต่รู้หรือไม่…ใครๆก็มีไขมันส่วนเกินได้!

ใครที่เป็นสายออกกำลังกายคงจะพอรู้ว่าการเบิร์นไขมัน หรือการเผาผลาญไขมัน (Fat Burning) คือ การดึงเอาไขมันที่สะสมจากการรับประทานอาหารซึ่งอยู่บริเวณหน้าท้อง รอบเอว ต้นขา ต้นแขน หรือสะโพก มาสลายเพื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงาน ซึ่งพฤติกรรมในประจำวันปกติ เช่น การเดิน การวิ่ง การขยับร่างกายถือว่ามีการเบิร์นไขมัน หรือเผาผลาญพลังงานอยู่แล้ว แต่หากร่างกายมีจำนวนไขมันมีมากเกินไปจนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้เอง จึงควรต้องหาวิธีในการเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น เพื่อให้ไขมันส่วนเกินลดลงได้เร็วขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญในด้านการดูแลรูปร่างได้แนะนำวิธีในการเพิ่มการเผาผลาญให้ร่างกายได้มากขึ้นไว้ 4 วิธีคือ

1. เน้นรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนสูง

เป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำหากต้องการหลีกเลี่ยงไขมันส่วนเกิน ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนสูง เพราะจะทำให้อิ่มท้อง ลดความอยากอาหาร มีประโยชน์สำหรับคนที่ควบคุมปริมาณแคลอรี่และทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ผลงานวิจัยเกี่ยวกับโภชนาการระบุว่า “อาหารที่ให้โปรตีนสูงมีส่วนช่วยสนับสนุน และรักษามวลกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยเรื่องการเบิร์นไขมันในระหว่างการลดน้ำหนักได้” รวมทั้งข้อดีของการเลือกรับประทานอาหารที่ให้โปรตีนสูงแทนการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารก็คือ จะไม่ทำให้ร่างกายโทรม มีมวลกล้ามเนื้อมากกว่า ทำให้ผิวไม่ดูเหี่ยวหลังจากการลดน้ำหนัก

2. เบิร์นไขมัน ด้วยการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

นอกจากการควบคุมเรื่องอาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับที่มีคุณภาพก็ถือเป็นทำให้กระบวนการเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในขณะที่กำลังนอนหลับนอกจากร่างกายจะฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอแล้ว ร่างกายจะเบิร์นไขมันแคลอรี่ไปด้วย และการนอนหลับที่ดีจะมีความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัว และช่วยลดน้ำหนักได้ดีขึ้น
เนื่องจากการนอนดึก หรือหลับไม่เพียงพอจะไปกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายที่ทำให้เกิดความหิว หากลองสังเกตดี ๆ จะพบว่าคนที่นอนดึกหลายคนจะต้องลุกขึ้นมาเปิดตู้เย็นเพื่อหาของกินกลางดึก เพราะมีความอยากอาหารมากกว่าคนที่นอนตั้งแต่หัวค่ำ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่ระบุว่าการอดนอนเป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน รวมถึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายอีกด้วย โดยยืนยันจากผลงานวิจัยที่ระบุว่าและการนอนหลับอย่างน้อยอย่างเพียงพอต่อคืนช่วยเพิ่มโอกาสในการลดน้ำหนักในผู้คนที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว 33%

3. ออกกำลังกายเข้มข้นด้วยการ HIIT Training

อีกหนึ่งวิธี เบิร์นไขมัน ที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งเป็นลักษณะของการออกกำลังกายที่ผสมผสานกันระหว่างการออกกำลังกายอย่างหนักและรวดเร็ว สลับกับการออกกำลังกายแบบเบาๆ ซึ่งในแต่ละครั้งใช้เวลาเพียงแค่ 10-30 นาทีเท่านั้น การออกกำลังกายในรูปแบบนี้จะทำเพื่อให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นกว่าปกติ ทำให้เลือดสูบฉีดได้มากกว่า มีผลงานวิจัยที่ระบุว่า “การฝึก HIIT สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากถึง 30% เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายประเภทอื่นภายในระยะเวลาเท่ากัน” ส่วนวิธีการออกกำลังแบบ HIIT นั้น มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย เช่น เลือกวิ่งเร็ว ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก หรือบอดี้เวท เป็นต้น

4. ใช้ CLA เพื่อช่วย เบิร์นไขมัน

Conjugated Linoleic Acid หรือกรดไขมัน CLA ตัวช่วยในการเบิร์นไขมัน และกระชับสัดส่วน ซึ่งเป็นที่ยอมรับและนิยมใช้ทั้งในอเมริกาและยุโรป โดย CLA ที่เข้มข้นจะอยู่ในน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน โดยมีผลการวิจัยในต่างประเทศของคนที่มีปัญหาน้ำหนักเกินระบุว่า “CLA สามารถลดมวลไขมันของคนอ้วนและช่วยลดสัดส่วนของสะโพกและรอบเอวได้จริง” ซึ่งประโยชน์ของ CLA จะไปช่วยยับยั้งการเกิดไขมันใหม่ที่จะมาสะสม (BLOCK) และช่วยสลายไขมันส่วนเกิน เพื่อเร่งการเผาผลาญ (BURN) และช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ (BUILD) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ