การจ้องจอทั้งวัน ทำให้หนุ่มสาวชาว office ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เสี่ยงต่อการเป็นโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม บางรายเกิดอาการตาแห้ง ตาล้า จนต้องหยอดน้ำตาเทียมทุกวัน และยิ่งช่วงฤดูร้อนในเมืองไทยที่ร้อนขึ้นทุกปี ยังเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ต้องดูแลดวงตาให้มากขึ้น ทั้งนี้เพราะแสงแดดจ้าที่ดูสดใส คือตัวการสำคัญที่สามารถทำร้ายดวงตาของเราได้อย่างคาดไม่ถึง
ในแสงแดดที่เราเห็นอยู่ทุกวัน ประกอบไปด้วย 'รังสีอัลตราไวโอเลต' (Ultraviolet) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ ‘รังสี UV’ หากรังสีชนิดนี้กระทบกับดวงตาของเรามากเกินไปอาจก่อให้เกิดโรคดวงตา ดังนั้นในช่วงเวลาที่แสงแดดแรงอย่างในช่วงหน้าร้อน จึงเป็นช่วงที่เราต้องดูแลและปกป้องดวงตามากเป็นพิเศษ เพราะหากปล่อยให้ดวงตาของเราเจอกับรังสี UV เป็นประจำ จะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา ดังนี้
1. เปลือกตา
เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำรอบดวงตา และยังพบว่าสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งบริเวณเปลือกตามาจากการได้รับรังสี UV อย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน
2. กระจกตา
การรับรังสี UV มากเกินไปโดยขาดการป้องกัน จะทำให้กระจกตาอักเสบแบบเฉียบพลัน เกิดอาการปวดตาและน้ำตาไหล
3. เยื่อบุตา
แสงแดดจะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุตา ซึ่งทำให้เกิดโรคต้อลม หากปล่อยไว้จะลุกลามไปยังตาดำและกลายเป็นโรคต้อเนื้อ เมื่อเกิดการอักเสบจะปวดตาและไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
4. เลนส์ตา
โรคต้อกระจก เกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตาซึ่งจะเกิดขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่มีข้อมูลว่าร้อยละ 20ของการเกิดโรคต้อกระจกมีสาเหตุมาจากรังสี UV
5. จอตา
รังสี UV สามารถเข้าไปทำลายจอตาได้โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นเม็ดสีธรรมชาติที่ช่วยปกป้องดวงตาจะเสื่อม จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จุดรับภาพในดวงตาของผู้สูงวัยเสื่อมลงนั่นเอง
เมื่อแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคดวงตา หลายคนจึงเป็นกังวลว่าจะหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างไรให้ดวงตาปลอดภัยทั้งที่ยังคงต้องใช้ชีวิตประจำวันอยู่ภายใต้แสงแดดของเมืองไทยที่ร้อนระอุเช่นนี้ MEGA We care จึงขอแนะนำวิธีดูแลดวงตาให้ปลอดภัย ดังนี้
1. ป้องกันแสงแดดจากภายนอก
วิธีที่ดีและง่ายที่สุดที่จะปกป้องดวงตาของคุณก็คือ ‘การสวมแว่นกันแดด’ เพราะแว่นกันแดด ไม่ใช่แค่แฟชั่นไอเท็มที่ช่วยให้ดูโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยปกป้องดวงตาของผู้ที่สวมใส่ให้ปลอดภัยจากรังสี UV ดังนั้นนอกเหนือจากเรื่องความสวยความงามแล้ว การเลือกแว่นกันแดดจึงควรพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
- กรอบใหญ่และแข็งแรงทนทาน กรอบและเลนส์ที่มีขนาดใหญ่จะช่วยป้องกันฝุ่นและ UV ได้กว้างกว่ากรอบและเลนส์ที่มีขนาดเล็ก ส่วนความแข็งแรงก็จะช่วยป้องกันการแตกหักเมื่อถูกกระแทกได้ด้วย
- ป้องกันรังสี UVได้จริง การเลือกแว่นทุกครั้งควรสังเกตสลากกำกับที่ระบุว่ากันแสง UVด้อย่างน้อย 95% หรือระบุว่ากัน UVได้ถึง 400 nm ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA B และ C ได้
- สวมใส่สบาย เลือกแว่นที่พอดีและกระชับกับใบหน้า แต่ต้องไม่แน่นจนบีบหรือกดทับบริเวณสันจมูกและขมับจนก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้
2. ปกป้องดูแลดวงตาจากภายใน
การปกป้องดวงตาจากภายใน ด้วยการเลือกทานผักผลไม้เป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญมากที่ไม่ควรละเลย เพราะในผักผลไม้หลากสี มีสารอาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มความแข็งแรงให้ดวงตาของคุณ ดังนี้
- ลูทีน (Lutein) เป็นสารชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มคาโรทีนอยด์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ไปทำลายเลนส์ตาและจอประสาทตา และยังทำหน้าที่กรองแสงต่าง ๆ ก่อนจะผ่านไปยังจอประสาทตาด้วย
- บิลเบอร์รี่ (Billberry) เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบยุโรป ในอดีตผู้คนนิยมนำมาทำแยมและชาเพื่อสุขภาพ เพราะสรรพคุณของบิลเบอร์รี่จะช่วยในเรื่องการมองเห็นยามกลางคืนได้ดี ลดความเหนื่อยล้าของดวงตา ช่วยให้เส้นเลือดฝอยในตาแข็งแรง และยังมีส่วนในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายจอประสาทตา
- เบต้าแคโรทีน (Betacarotene) เป็นสารอาหารสำคัญที่เมื่อร่างกยได้รับแล้วจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยให้จอประสาทตาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการมองเห็นกลางคืน และต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายดวงตา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในสถานการณ์ของโรคระบาดที่หลายคนอาจจะ work from home และไม่ต้องเผชิญกับแสงแดด แต่การดูแลดวงตาก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญเพราะคุณยังคงต้องใช้สายตาไปกับการจ้องมองหน้าจอตลอดวัน ดังนั้นหมั่นบำรุงสายตาของคุณด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ดวงตาสดใส แข็งแรง และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการมองเห็นอยู่เสมอ ด้วยความห่วงใยจาก MEGAWecare
ขอบคุณข้อมูลจาก :
1. https://www.samitivejhospitals.com/th/อาหาร-ต้อกระจก/
2. https://goodlifeupdate.com/healthy-body/health-education/64554.html/2
3. https://www.bangkokpattayahospital.com/th/newsroom-th/health-articles-th/item/2681-the-dangers-of-sun-exposure-to-the-eyes-th.html