หยุดอาการจามจากภูมิแพ้

  “ตื่นเช้ามาจามไม่หยุดทุกวัน”

     “เจอฝุ่นทีไร จามจนน้ำตาไหลทุกที”


   อาการจามเหล่านี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร?
         อาการจาม เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป บางคนจามหลังตื่นนอนในตอนเช้า บางคนอาจจามเมื่อได้กลิ่นฉุนของอาหารหรือน้ำหอม และอาจมีบางคนที่มักจะจามทุกครั้งเมื่อเจอฝุ่นละออง ซึ่งการจาม เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในโพรงจมูก เมื่อเราสูดเอาฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกเข้าไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อเมือกในจมูก ร่างกายจึงทำการขับสิ่งแปลกปลอมออกมาทำให้เกิดการจาม ทั้งนี้แม้ว่าการจามจะเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งจนกลายเป็นเรื่องคุ้นชิน แต่รู้หรือไม่ว่าการจามที่เกิดขึ้นนั้นอาจไม่ใช่เรื่องปกติ


   จามแบบไหนจึงผิดปกติ?
        โดยทั่วไป การที่เราจามติดต่อกัน 3-5 ครั้ง เมื่อสูดดมเอาสิ่งกระตุ้นเข้าไปนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งอาการจามเช่นนี้สามารถหายเองได้ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการจามหนักกว่าปกติ เช่น จามทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่ที่มีฝุ่น จามเมื่อต้องอยู่ในสภาพอากาศเย็น หรือจามเรื้อรังติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์ อาการเหล่านี้มักนำไปสู่อาการแทรกซ้อน เช่น หายใจเหนื่อยหอบ โพรงจมูกอักเสบ หรือมีผื่นขึ้นบริเวณผิวหนังร่วมด้วย และนี่คือความผิดปกติอันเป็นสัญญาณของ โรคภูมิแพ้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วย

   วิธีหยุดอาการการจาม
   
           หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการจาม
             เมื่อพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยจนรู้แล้วว่าเป็นภูมิแพ้ชนิดใดและเกิดจากปัจจัยใด ก็ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยนั้น ๆ เช่น หากแพ้ควันรถยนต์หรือควันบุหรี่ ก็ควรป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกไปในที่สาธารณะ หรือหากแพ้ฝุ่นจากสิ่งสกปรกก็ควรรักษาความสะอาดในบ้านอยู่เสมอ

           ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
            การออกกำลังกายเป็นวิธีง่าย ๆ ที่เริ่มต้นได้ยาก เพราะต้องปรับเปลี่ยนตารางเวลาในแต่ละวันเพื่อแบ่งเวลาให้สำหรับการออกกำลังกาย แต่เชื่อไหมว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ เพราะถึงแม้การออกกำลังกายจะไม่ใช่วิธีรักษาเหมือนการใช้ยา แต่เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับระบบของร่างกาย ทำให้ไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้นแบบผิดปกติ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ง่าย ส่งผลให้มีสุขภาพดีทั้งกายและใจอย่างเป็นธรรมชาติ


           สร้างภูมิต้านทานด้วยอาหารที่มีประโยชน์
            การสร้างภูมิต้านทานจากอาหารเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย เพราะการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ เป็นวิธีในการดูแลตัวเองจากภายใน คุณประโยชน์ที่ดีในอาหารที่เราเลือก จะเข้าไปช่วยซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น ผัก ผลไม้ และพืชสมุนไพรหลายชนิด รวมถึงนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตที่มีโพรไบติกส์เป็นส่วนประกอบ แต่หากคุณไม่มีเวลาเพียงพอที่จะเลือกสรรอาหารคุณภาพดี ปัจจุบันนี้ก็มีอีกหนึ่งทางเลือก นั่นคือ อาหารที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานที่ดีให้แก่ร่างกาย ซึ่งมีอยู่หลากหลายสูตรในท้องตลาด

          พักผ่อนให้เพียงพอ
            ความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย อาจทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อความสดชื่นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคภูมิแพ้ด้วย


          พบแพทย์และปฎิบัติตามคำแนะนำ
            เมื่อปรึกษาแพทย์แล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งการทานยาตามแพทย์สั่งและควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง

  โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่ไม่ควรปล่อยไว้โดยไม่รักษา เพราะอาการภูมิแพ้ที่เรื้อรังอาจก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงยิ่งกว่าตามมาได้ด้วย แม้ว่าอาการจามจากภูมิแพ้จะก่อให้เกิดความรำคาญใจเพียงเล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ดังนั้นหมั่นดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ เพื่อการมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care

ขอบคุณข้อมูลจาก :

https://www.pobpad.com/%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD/%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A1

https://www.medicalnewstoday.com/articles/321305#takeaway

https://www.samitivejhospitals.com/th/%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%88%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a0%e0%b8%b9%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%89/

http://www.siphhospital.com/th/news/article/share/608