ปัจจุบันโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุค New Normal หรือชีวิตวิถีใหม่ที่หลายคนหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพของตนและคนใกล้ชิดมากขึ้น เพราะคงไม่มีใครอยากเผชิญกับความเจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นโรคทั่วไปหรือโรคระบาดที่อาจกลับมาแพร่กระจายได้ทุกเมื่อ การดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
แต่ร่างกายของแต่ละคนล้วนมีความเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงของโรคที่แตกต่างกัน หลายคนอาจจะมีภูมิต้านทานที่ดี ไม่เจ็บป่วยง่าย ในขณะที่บางคนอาจจะเจ็บป่วยบ่อยครั้งแม้จะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ดังนั้นสารอาหารจากธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในสารอาหารที่มีความสำคัญต่อทั้งสมองและหัวใจที่ร่างกายควรได้รับ นั่นคือ กรดไขมัน Omega-3
'Omega-3' เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวประกอบไปด้วยอีพีเอ (EPA) และดีเอชเอ (DHA) ที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ทั้งวัยเด็ก วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงวัย ซึ่งกรดไขมัน Omega-3 นี้มีอยู่ในน้ำมันปลา และต่อไปนี้คือเหตุผลที่จะบอกว่า ทำไมเราจึงควรทานน้ำปลา
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด
ไตรกลีเซอร์ไรด์จะก่อให้เกิดไขมันร้ายอย่างคอเลสเตอรอลที่สะสมในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยผลวิจัยทางการแพทย์พบว่ากรดไขมัน Omega-3 จะมีส่วนช่วยลดปริมาณของไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ถึงร้อยละ 20-50 โดยไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ลดความดันโลหิต
การทานกรดไขมัน Omega-3 ในปริมาณ 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดขยายตัวได้ดีมีผลทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ความดันโลหิตจึงลดลง
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ช่วยให้เกล็ดเลือดไม่เกาะตัว
Omega-3 ในน้ำมันปลา เป็นสารตั้งต้นของสารในกลุ่มไอโคซานอยด์ (Eicosanoids) ที่จะช่วยยับยั้งการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ป้องกันไขมันเกาะผนังหลอดเลือด
Omega-3 จะช่วยลดอัตราการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือดแดง ซึ่งลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแข็งตัว
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ป้องกันภาวะหลอดเลือดตีบ แตก ตัน
เนื่องจาก Omega-3 ช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด จึงป้องกันภาวะหลอดเลือดตีบ แตก ตัน ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและสมองขาดเลือด
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ป้องกันโรคเบาหวาน
นักวิจัยชาวเนเธอร์แลนด์พบว่า อีพีเอ (EPA) ซึ่งเป็นส่วนประกอบในกรดไขมัน Omega-3 จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ผู้ป่วยมักมีอายุ 40 ปีขึ้นไปและมีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ ซึ่งพบมากถึงร้อยละ 95 ของผู้ป่วยเบาหวานในประเทศไทย
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ลดอาการอักเสบของข้อ
กรดไขมัน Omega-3 ในน้ำมันปลา ช่วยลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณข้อ และยังมีอีพีเอ (EPA) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้าง PGE 3 ที่ช่วยลดการอักเสบของข้อ จึงช่วยบรรเทาอาการข้อเสื่อมและรูมาตอยด์ได้
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ป้องกันภาวะสมองเสื่อม
ในน้ำมันปลามีดีเอชเอ (DHA) ที่จะช่วยเพิ่มสาร LH 11 โปรตีนที่ช่วยยับยั้งการสร้าง Plaques ในสมองที่จะไปทำลายใยประสาทส่วนความจำ ส่งผลให้ความจำเสื่อม หลงลืมง่าย โดยมีผลวิจัยทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัย UCLA ยืนยันว่าการทานน้ำมันปลาจะช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... ลดภาวะซึมเศร้า
ความสมดุลของกรดไขมันในร่างกายมีผลต่อความรุนแรงของอาการซึมเศร้า ผู้ที่มีกรดไขมัน Omega-3 ในร่างกายอยู่ในระดับต่ำ จะมีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าปกติ การทานน้ำมันปลาจึงช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้
เพราะน้ำมันปลามีส่วนช่วย... บรรเทาอาการหอบหืด
การทานน้ำมันปลาจะช่วยลดการเกิดสารลิวโคไตรอินและสารพรอสตาแกลนดิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการหอบหืด ดังนั้นการทานน้ำมันปลาจึงช่วยบรรเทาและลดการเกิดอาการหอบหืดได้
คุณประโยชน์ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้น้ำมันปลา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่ควรมีติดบ้านไว้ในยุคนี้ เพื่อให้เสริมความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของคุณและคนที่คุณรัก ที่จะก้าวเข้าสู่ยุคชีวิตวิถีใหม่ด้วยความเป็น Strong New Normal ต่อไปในอนาคต ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.healthline.com/nutrition/17-health-benefits-of-omega-3#section7
https://www.si.mahidol.ac.th/th/tvdetail.asp?tv_id=106