เหนือกว่าหน้ากาก มากกว่าการล้างมือ คือการเสริมภูมิคุ้มกัน

เหนือกว่าหน้ากาก มากกว่าการล้างมือ คือร่างกายต้องมีภูมิต้านทานเพื่อต่อสู้กับ COVID-19

     ไวรัส COVID-19 คือวิกฤติที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั่วโลก มีจำนวนผู้เสียชีวิตในหลายประเทศจำนวนหลายพันคน และตอนนี้การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสนี้ก็ยังไม่มีวิธีมาหยุดการระบาดได้
     ณ ตอนนี้การป้องกันตัวเองทำได้จากทั้งภายนอก เช่น การล้างมือบ่อยๆ การสวมหน้ากากอนามัย การหลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน ส่วนการดูแลจากภายในแพทย์และผู้เชี่ยวชาญแนะนำวิธีที่ดีที่สุดก็คือ... การสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
     การดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงด้วยการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายสามารถทำได้ด้วย การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังสามารถเติมเกราะป้องกันร่างกายให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้นจากคุณสมบัติของวิตามินและสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ซึ่งมีข้อมูลทางการแพทย์สนับสนุนให้มั่นใจว่าสามารถเสริมภูมิต้านทานสามารถต้านเชื้อไวรัสได้

    วิตามินซี
         วิตามินที่แพทย์ทั่วโลกแนะนำให้ทานเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานในการต่อสู้กับ COVID-19 ก็คือ วิตามินซีจริงๆ แล้ววิตามินชนิดนี้มีความจำเป็นสำหรับทุกเพศทุกวัยและต้องทานเป็นประจำทุกวัน นอกเหนือจากช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้โดยตรงแล้ว ยังสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันหวัดและภูมิแพ้ ช่วยให้เม็ดเลือดขาวต่อสู้กับไวรัสต่างๆ ได้ดีขึ้น

    สมุนไพรเอ็คไคนาเซีย
         “นี่คือหนึ่งในสมุนไพรที่ได้รับการค้นหาถึงประโยชน์มากที่สุดในวิกฤตของ COVID-19”
‘เอ็กไคนาเซีย’สมุนไพรที่ได้ความนิยมในยุโรปและอเมริกามามากกว่า 100 ปี ใช้รักษาและป้องกันโรคติดต่อที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสเป็นสมุนไพรที่ช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง รวมทั้งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มเองได้


    น้ำมันกระเทียม
         อีกหนึ่งในสมุนไพรที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีเม็ดเลือดขาวมากขึ้นก็เปรียบเสมือนร่างกายมีเกราะป้องกันเชื้อโรคเพิ่มขึ้น และสามารถช่วยฆ่าเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย รวมทั้งบรรเทาโรคระบบทางเดินหายใจได้

ข้อมูลอ้างอิง :

Damien Downing  and Gert Schuitemaker, Vitamin C and COVID-19 Coronavirus, Orthomolecular Medicine News Service, Feb 28, 2020 

http://orthomolecular.org/resources/omns/v16n14.shtml