ในปัจจุบันชีวิตคนทำงานมีความหลากหลาย ทั้งการทำงานในออฟฟิศ หรือการทำงานจาก Co-working space ที่แพร่หลายขึ้นอย่างมากมาย ลักษณะงานบางประเภทสามารถเนรมิตสถานที่ทุกแห่งให้เป็นที่ทำงานได้ ทำให้พฤติกรรมการทำงานของหนุ่มสาวในปัจจุบันเปลี่ยนไป หรืออย่างที่ทราบกัน การทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในช่วงสถานกาณณ์ของโรคโควิด-19 จึงเห็นได้ว่า โลกในยุคปัจจุบันนี้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนๆ เราก็สามารถทำงานได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากเรื่องสถานที่แล้ว คือตัวเราเอง ที่ยังคงต้อง “แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย พร้อมทำงานได้ในทุกที่เต็มที่ได้ทุกวัน” ความพร้อมของร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด MEGA We care จึงขอนำเสนอวิธีเตรียมร่างกายให้พร้อมไม่ว่าจะ work ที่ไหนก็ตาม
สนใจหัวข้อไหน... คลิกเลย
วิธีเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับวัยทำงาน
แบบทดสอบสมรรถภาพของร่างกายในการทำงาน
วัยทำงาน ต้องทานวิตามินรวม และสารอาหารอะไรบ้าง?
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
ประสิทธิภาพในการทำงานจะเต็มที่ได้อย่างไร หากร่างกายและสมองไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่า “การนอนหลับมีความสำคัญกับสุขภาพ เนื่องจาก 1 ใน 3 ของชีวิตคนเราในแต่ละวันเป็นเรื่องการพักผ่อนด้วยการนอนหลับ หรือ 8 ชั่วโมง จาก 24 ชั่วโมง ในแต่ละวัน การนอนมีความหมายมากที่จะทำให้เรามีสุขภาพที่ดี”
หากใครที่มีปัญหาในการนอน ด้วยสาเหตุนอนไม่หลับหรือเป็นคนนอนหลับยากต้องรีบแก้ปัญหานี้เพราะหากปล่อยไว้จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความเครียดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ และเมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว นอนหลับยาก และหากเครียดเป็นระยะเวลานานจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานลดลง ในที่สุดร่างกายก็อ่อนแอจนล้มป่วย สำหรับคนทำงานต้องจำไว้ว่าคุณภาพของการนอนที่ดีขนาดไหน ย่อมจะทำให้ร่างกายพร้อมในทำงานดีขึ้นขนาดนั้น
2. ทานให้ครบหมู่และทานให้ถูกเวลา
พื้นฐานของการเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ได้สารอาหารที่ร่างกายต้องการอย่างครบถ้วน ทั้ง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และที่สำคัญที่สุดคือวิตามินและเกลือแร่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถึงแม้ร่างกายจะต้องการน้อยกว่าอาหารหมู่อื่นๆ แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย
จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า แม้คนไทยกว่า 85% บอกว่าตนเองทานอาหารครบทั้ง 3 มื้อ แต่มีเพียง 13% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่คำนึงถึงโภชนาการที่ได้รับเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ 60% ยังขาดการทานผักและผลไม้อย่างเป็นประจำ ที่เป็นแหล่งที่อุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ นี่แสดงให้เห็นว่า แม้จะทานอาหารครบทั้ง 3 มื้อ แต่ยังได้สารอาหารไม่ครบถ้วน
การขาดวิตามินและแร่ธาตุทำให้ระบบการทำงานของร่างกายไม่สมดุล จึงต้องได้รับสารอาหารจากผักผลไม้ต่างๆเช่น ผักคะน้า ผักโขม แครอท รวมถึง โปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว ธัญพืช ที่อุดมด้วยวิตามินบี ที่ใช้ในการทำงานของสมองและระบบประสาท โดยผลสำรวจดังล่าวพบว่ามีเพียง 10 % เท่านั้น ที่ทานโปรตีนจากแหล่งที่มีประโยชน์
นอกจากนี้การได้รับวิตามินและเกลือแร่อย่างครบถ้วน มีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้เป้ฯไปตามปกติเช่นกัน โดยมีการศึกษาวิจับพบว่า ผู้ที่ขาดวิตามินและเกลือแร่จะมีภูมิคุ้มกันที่ลดน้อยลง และนอกจากนี้ การได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ครบถ้วนในแต่ละวัน สามารถลดการติดเชื้อได้ถึง 30% อีกด้วย
3. ขับถ่ายให้เป็นเวลา
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายประเทศต่างเห็นตรงกันว่า “การขับถ่ายของเสียถือว่าเป็นกระบวนการหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้” ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการกำจัดของเสียออกก็คือ ช่วงเช้า และช่วงก่อนอน เนื่องจากถ้าขับถ่ายในช่วงเช้าช่วงประมาณเวลา 5.00-7.00 น. จะเป็นช่วงที่ร่างกายขับสารพิษออกมา เพราะขณะที่เรานอนอยู่ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่กำลังย่อยอาหารและดูดซึมเพื่อเตรียมให้ร่างกายได้ขับของเสียที่ไม่ต้องการออก
ส่วนการถ่ายในช่วงก่อนนอน จะช่วยให้ของเสียค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่น้อยลงจึงทำให้การดูดซึมของเสียเข้าสู่ร่างกายก็น้อยลงตามมาด้วย ในทางกลับกันถ้าไม่ถ่ายก่อนนอนจะทำให้ลำไส้ทำงานหนักเพราะมีสิ่งตกค้างในลำไส้เยอะ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
เมื่อขับถ่ายเป็นเวลาให้เป็นนิสัยแล้ว การดูดซึมของสารอาหารได้อย่างเต็มที่และขับสารพิษออกจนหมด จะช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ร่างกายก็แข็งแรงขึ้นกว่าที่เคย
4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะ Work ที่ไหนสิ่งสำคัญที่ไม่แพ้การพักผ่อนและการทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ คือ “การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่หักโหม” ประโยชน์ของการออกกำลังกายมีมากกว่าที่คุณคิด เมื่อออกกำลังกายแบบแอโรบิค (Aerobic) 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ในเวลา 30-40 นาทีต่อครั้ง จะทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้อย่างคล่องเเคล่ว เลือดไม่ข้นหนืด ลดเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ เพราะการออกกำลังกายช่วยลดไขมันคอเลสเตอรอล อีกทั้งจะช่วยเพิ่มมวลกระดูกทำให้ข้อต่อและกระดูกแข็งแรงในคนวัยทำงาน
ไม่เพียงเเต่สุขภาพกายเท่านั้นที่การออกกำลังกายช่วยได้ “สุขภาพจิตยังดีขึ้นด้วย” เนื่องจากร่างกายได้หลั่งสารเอ็นโดฟินส์ (Endophins) หรือที่รู้จักกันในชื่อสารแห่งความสุขออกมา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด ความวิตกกังวลนั่นเอง
ถ้าใครไม่มีเวลาไปตรวจสุขภาพ ลองทำแบบทดสอบนี้เพื่อประเมินสมรรถภาพของร่างกาย
อาการลักษณะนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนวัยทำงาน ที่มีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบและไม่มีโอกาสเลือกสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตได้มากนัก เพียงท่านมีข้อหนึ่งข้อใดในหัวข้อที่กล่าวมา จะต้องระมัดระวังว่าท่านมีกลุ่มอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเรียกว่าโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่มีข้อมูลว่า อาจเกี่ยวข้องกับภาวะที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง
คนวัยทำงานมักจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลสุขภาพกันเท่าไรนัก การเสริมด้วยวิตามินและเกลือแร่รวม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและไม่สามารถบริโภคอาหารได้ครบถ้วน แล้วมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าจากการทำงาน การให้วิตามินรวมและ แร่ธาตุเสริมทุกวัน สามารถลดอุบัติการณ์การติดเชื้อและการหยุดงานจากการติดเชื้อได้ และการรับประทานวิตามินในระดับที่มากกว่าความต้องการของร่างกายจะสามารถป้องกันภาวะขาดวิตามินและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้
จากหลายการวิจัย ชี้ให้เห็นว่า การให้วิตามินรวมและแร่ธาตุเสริมทุกวัน สามารถลดอุบัติการณ์ของการติดเชื้อและหยุดงานจากการจาการติดเชื้อลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งผลการศึกษานี้สามารถเป็นแนวทางการดูแลร่างกายของคนที่ต้องทำงานหนักทุกวัน ให้มีโอกาสมีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมต่อสู้กับการทำงานที่เร่งรีบในทุกวันได้อย่างแข็งขัน
ทั้งหมดนี้คือวิธีการเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการทำงานไม่ว่าจะ Work ที่ไหนก็ตาม หากลองนำไปประยุกต์ใช้กับตนเองแล้วรับรองว่าร่างกายจะแข็งแรงพร้อมสู้งานตรงหน้าแน่นอน แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือการมีพฤติกรรมการทานอาหารทีดีทานให้ครบหมู่ จึงจะมีสุขภาพที่ดีได้ “แข็งแรงไม่ป่วยง่าย พร้อมทำงานได้ทุกที่ เต็มที่ได้ทุกวัน”
ขอบคุณข้อมูลจาก :
1. สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, การสำรวจอนามัย สวัสดิการ และพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560, กรุงเทพฯ. 2560
2. Barringer TA, Kirk JK, Santaniello AC, Foley KL, Michielutte R. Effect of a multivitamin and mineral supplement on infection and quality of life: A randomized, double-blind, placebo-controlled trial. Annals of internal medicine. 2003 Mar 4;138(5):365-71.
3. https://www.health.harvard.edu/blog/eating-during-covid-19-improve-your-mood-and-lower-stress-2020040719409
4. https://www.thaihealth.or.th/Content/40531-นอนอย่างไรให้สุขภาพดี.html
5. https://www.thaihealth.or.th/Content/44262-ประโยชน์ของการออกกำลังกาย.html