ระวัง ! ทานอาหารรสจัด เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

ระวัง ! ทานอาหารรสจัด เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

รสชาติของอาหารที่คนไทยจำนวนไม่น้อยโปรดปราน ก็คือ อาหารที่มีรสจัด อีกทั้งมีส่วนผสมอื่นๆ ที่เน้นความจัดจ้านอย่างปลาร้า เครื่องแกงต่างๆ หรือแม้กระทั่งอาหารที่มีกรรมวิธีหมักดองที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นถูกปากมากขึ้น
       รู้หรือไม่... ว่าการทานอาหารรสจัดเป็นประจำ โดยเฉพาะรสหวานและรสเค็มมีผลต่อสุขภาพ และเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ เพราะเหตุใดรสชาติที่จัดจ้านเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุที่นำไปสู่โรคดังกล่าว ไปค้นพบคำตอบกัน

    ทำไมอาหารรสจัดถึงเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
      ไม่ว่าจะทานรสไหน รสหวานหรือเค็มจัด หากทานในปริมาณที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น โดยเฉพาะเส้นเลือดที่จะได้รับผลกระทบมาเป็นอันดับแรก 'รสเค็ม' เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากร่างกายได้รับเกลือโซเดียมมากเกินไป จึงมีการสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย และทำให้เกลือในเลือดมีปริมาณสูงขึ้น จนส่งผลให้เลือดแข็งตัว และนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองในที่สุด 
        ‘รสหวาน’  ก็เป็นอีกหนึ่งรสชาติที่ใครหลายคนโปรดปราน ที่ส่งผลเสียต่อหลอดเลือด หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป ร่างกายจะเผาผลาญไม่หมดจึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หลอดเลือดแดงแข็งตัวและตีบแคบลง ทำให้เลือดไหลเวียนได้น้อยส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
       และยิ่งอาหารที่เค็มจัดและหวานจัด รวมกับ ‘อาหารมัน’ (เช่น กะทิ) หรืออาหารที่มีไขมันสูง ก็ยิ่งเป็นการเร่งให้เกิดโรคได้เช่นกัน เนื่องจากอาหารที่มีไขมันสูงจะไปเพิ่มระดับไขมันในเลือดให้สูงขึ้นและส่งผลให้ไขมันเกาะตัวตามผนังหลอดเลือดจนหนาและตีบแคบลงนั่นเอง 

    ทานอาหารอย่างไรถึงลดเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
      คงเห็นกันแล้วว่าการทานรสจัดมีผลอย่างไรต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้นการใส่ใจในเรื่องของอาหารที่ทานให้มากขึ้นเป็นสิ่งที่สำคัญ และการทานอาหารให้ห่างไกลจากโรคนี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยลดอาหารทั้ง 3 อย่าง ดังนี้

              ลดเค็ม
             จากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ได้แนะนำให้บริโภคเกลือโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในปัจจุบันพฤติกรรมของคนไทยบริโภคเกลือโซเดียมมากถึงวันละ 4,300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่าค่ามาตรฐานถึง 2 เท่า ส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา มีคนไทยจำนวนมากกว่า 20,000 คนต่อปี ต้องเสียชีวิตจากโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมไปถึงโรคหลอดเลือดสมอง ดังนั้นการลดการบริโภคอาหารที่มีรสเค็ม ปรุงอาหารให้น้อยลง ชิมก่อนเติม และอาหารต่อไปนี้เพราะมีปริมาณเกลือโซเดียมที่สูง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหล่านี้ได้

   ลดหวาน
              แม้ว่าหลายคนจะนิยมทานอาหารรสหวาน โดยเฉพาะขนมและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้ทานน้ำตาลในปริมาณไม่เกิน 6 ช้อนชาหรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน (1 ช้อนชาเท่ากับ 5 กรัม / ไม่ควรทานเกิน 30 กรัมต่อวัน) แต่จากข้อมูลของกรมอนามัยและสสส. กลับพบข้อมูลที่น่าตกใจว่าคนไทยได้ทานน้ำตาลเกินจากมาตรฐานถึง 3 เท่า หรือ 20 ช้อนชาต่อวัน 
              เพื่อสุขภาพที่ดีควรทานน้ำตาลให้พอเหมาะ ลดการดื่มน้ำหวาน และเพิ่มการทานผักผลไม้ให้มากขึ้น แต่การทานผลไม้ก็ต้องระวังผลไม้ที่หวานจัดเช่นกัน

       ลดมัน
              เมื่อลดการทานรสเค็มและหวานแล้ว อย่าลืมลดอาหารมันๆ หรืออาหารที่มีไขมันสูงด้วย โดย ‘ปริมาณไขมันที่ควรทานต่อวัน คือ ไม่เกิน 6 ช้อนชา ในผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรทานเกิน 3-4 ช้อนชา’ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณะสุข ทั้งนี้ไขมันอิ่มตัวมักพบในผลิตภัณฑ์นม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันหมู รวมถึงอาอาหารสำเร็จรูปต่างๆ ด้วย
              ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีควรทานเนื้อสัตว์ไขมันน้อย และไม่ติดหนังเพราะไขมันอิ่มตัวอยู่ที่หนังสัตว์มากเป็นพิเศษ หากเลือกซื้ออาหารควรดูฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง เพื่อดูปริมาณไขมันอิ่มตัวว่าพอเหมาะกับร่างกายหรือไม่ และเลือกทานปลามากขึ้น เพราะอุดมด้วยกรดไขมัน Omega 3 ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเลน้ำลึกอย่างปลาแองโชวี่ แซลมอน แม็คเคอร์เรล หรือปลาไทยที่หาได้ง่ายและมีราคาย่อมเยาก็ได้ประโยชน์เช่นกัน ทานให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งและทำด้วยวิธีการนึ่งจะดีที่สุดเพราะจะช่วยไม่ให้กรดไขมัน Omega 3 ในเนื้อปลาถูกทำลายด้วยความร้อน

 จะเห็นได้ว่าการทานรสจัดส่งผลต่อสุขภาพของคุณเป็นอย่างมาก โดยจะทำให้ระดับไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดตีบและอุดตันจนนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองแต่การลดเค็ม ลดหวาน และลดมันสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคนี้ได้…ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care


ขอบคุณข้อมูลจาก :

https://www.hfocus.org/content/2019/04/17106
http://nutrition.anamai.moph.go.th/ewtadmin/ewt/nutrition/images/files/หนังสือกินเค็มน้อยลงสักนิดพิชิตความดัน256112-10-61.pdf
https://www.thaihealth.or.th/Content/47223-“ลดเค็ม”%20ลดการเสียชีวิตกว่า%202.5%20ล้านคน/ปี.html
https://www.phyathai.com/article_detail/1320/th/กินอาหารอย่างไร...ห่างไกลโรคหลอดเลือดสมอง
http://thaincd.com/document/file/info/non-communicable-disease/ยุทธศาตร์ลดบริโภคและโซเดิมฯ.pdf
http://nutrition.anamai.moph.go.th/download/article/article_20160323141632.pdf
https://www.nestle.co.th/th/nhw/news/3esโอเมก้า3ในปลาไทยประโยชน์สูงไม่แพ้ปลานอก
https://www.phyathai.com/arpreview.php?id=2188

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้