การสวมใส่หน้ากากอนามัยจะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป เพราะนอกจากจะสามารถช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19และปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆได้แล้ว ยังป้องกันเรื่องการสูดดมฝุ่นพิษ PM2.5 อีกด้วย และต่อไปพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบปกติของคนในสังคมจะเปลี่ยนไป หรือที่เรียกว่า New Normal ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ
แต่สาวๆอย่างเราก็ไม่เคยหยุดคิดเรื่องความสวยความงาม แม้แต่หน้ากากอนามัยที่ต้องสวมทุกวันเพื่อป้องกันตัวเอง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นเครื่องแต่งกายของใครหลายๆคน เรียกว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และยังเป็นวิธีช่วยผ่อนคลายความเครียดได้อีกทางหนึ่ง
หลายคนอาจบอกว่า การสวมหน้ากากอนามัย มีข้อดีที่นอกเหนือจากการป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายคือ ทำให้ไม่เปลืองเครื่องสำอาง หลายคนใช้โอกาสนี้ในการไม่แต่งหน้า หรือแต่งหน้าแค่ครึ่งบนเท่านั้น ขณะที่บางคนละเลยการทาครีมบำรุงผิว เพราะคิดว่าไม่มีใครเห็นหน้าสดภายใต้หน้ากากอนามัย
แต่ความเป็นจริงแล้วหากละเลยการดูแลผิว อาจทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา ทั้งสิว ผิวโทรม สีผิวไม่สม่ำเสมอ จนทำให้ไม่กล้าโชว์หน้าสดในที่สุด อย่าลืมว่าไม่มีใครสวมหน้ากากอนามัยได้ตลอดเวลา ดังนั้น การดูแลผิวหน้าให้เนียนใสอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ มาลองถอดหน้ากากอนามัยแล้วเช็คกันหน่อยดีกว่าว่า ผิวของคุณกำลังส่งสัญญาณบอกปัญหาอะไรกับคุณบ้าง?
A1: “สิว” ที่ขึ้นบริเวณรอบๆ หรือขึ้นภายใต้หน้ากากอนามัย เป็นสัญญาณแรกที่บอกว่าผิวหน้ากำลังได้รับผลกระทบจากการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเกิดจากการสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานเกินไป จนเกิดความอับชื้น เกิดความมันบนใบหน้า หรืออาจเกิดจากการสวมหน้ากากอนามัยที่สกปรก การใช้ซ้ำหลายๆครั้ง จนเกิดการสะสมของแบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อ และอักเสบของสิว รวมไปถึงการแต่งหน้าร่วมกับการสวมหน้ากากอนามัย ที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนสาเหตุหนึ่งของสิว
วิธีแก้ปัญหาสิวที่เกิดจากการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง คือ การรักษาความสะอาด ล้างมือก่อนสัมผัสหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ไม่ใช้มือแกะเกาใบหน้า ไม่ควรสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ หลีกเลี่ยงการใช้ซ้ำ ป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และทางลัดในการแก้ปัญหาสิวคือ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยสารอาหารสูตร APC Complex ที่แก้ปัญหาสิวจากภายใน ช่วยลดความมันบนใบหน้าสาเหตุของการเกิดสิว ลดการอักเสบของสิว พร้อมกับสมานแผลจากสิว ป้องกันการเกิดรอยดำ รอยแผลเป็นจากสิว รวมกับการใช้เจลแต้มสิวสูตรพิเศษ ที่มีส่วนผสมของสารธรรมชาติ ช่วยลดสิวและรอยดำจากสิว เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
A2 : เนื่องจากการสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหน้าไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และผิวบริเวณใบหน้าดูหมองคล้ำ ไม่มีเลือดฝาด นอกจากนี้การสวมหน้ากากอนามัยนานๆยังทำให้เกิดภาวะผิวขาดออกซิเจน ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพลง ส่งผลต่อการผลัดเซลล์ผิว และทำให้กระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ตามธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป คอลลาเจน และอิลาสตินสูญเสียไป ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหน้าดูโทรม และหมองคล้ำกว่าปกติ
วิธีฟื้นฟูผิวโทรม ให้กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น คือ การบำรุงผิวอย่างอย่างเหมาะสมทั้งจากภายในและภายนอก เริ่มต้นด้วยการดูแลจากภายนอกอย่างการทาครีมบำรุงผิวเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ไม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานๆ หาโอกาสถอดหน้ากากอนามัยเพื่อให้ผิวได้รับออกซิเจน ล้างหน้าให้สะอาด บริหารหรือนวดบริเวณใบหน้าเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อเป็นการบำรุงอย่างล้ำลึก คือ การบำรุงผิวจากภายใน ด้วยการเลือกรับประทานอาหารสูตรครบถ้วนในการดูแลผิวโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งสารอาหารที่เสริมสร้างคอลาเจน และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจน ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวให้สมบูรณ์แข็งแรง ดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ไม่หมองคล้ำ ผิวดูมีเลือดฝาดอมชมพูขึ้น
A3 : เมื่อสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แล้วถอดออกเชื่อว่าหลายคนคงสังเกตเห็นรอยที่เกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ซึ่งรอยดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณบอกว่า เซลล์ผิวภายในของคุณกำลังเสื่อมสภาพ มีการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในปริมาณที่น้อยลง ซึ่งคอลลาเจนและอีลาสตินนี่เองที่มีหน้าทำให้ผิวยืดหยุ่น แข็งแรง เมื่อมีปริมาณน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ผิวจึงเป็นรอยได้ง่าย และนี่คือสาเหตุของการเกิดริ้วรอย ผิวหนังหย่อนคล้อยตามมา
วิธีแก้ปัญหาที่จะช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดี คือ เติมคอลลาเจน ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สำคัญของผิว เมื่อปริมาณคอลลาเจนในผิวเพิ่มมากขึ้น จะช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น ผิวเด้ง เต่งตึง ริ้วรอยลดลง ซึ่งการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเริ่มต้นง่ายๆด้วยการเลือก คอลลาเจนที่เป็นสูตรสำหรับผิวโดยเฉพาะ เพื่อที่จะได้ประโยชน์ต่อผิวที่แข็งแรง ยืดหยุ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง นอกจากการเลือกในรูปแบบที่เฉพาะซึ่งมีคุณภาพสูงแล้ว ควรพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่ได้ จากการวิจัยที่น่าเชื่อถือด้วย
A4 : ใบหน้าหมอง สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เป็นอีกผลกระทบที่เกิดจากการสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากหลายคนละเลยการทาครีมบำรุง ไม่ทาครีมกันแดด ทำให้ผิวหน้าบริเวณที่อยู่นอกหน้ากากอนามัยคล้ำเสียจากแดด ผิวหน้าแลดูหมองคล้ำ
วิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ คือ เริ่มต้นด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ หรือหลีกเลี่ยงแสงแดด แต่อย่างไรแล้วอีกวิธีที่จะช่วยขจัดปัญหาเรื่องสีผิวนั้นคือ การยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินไม่ให้มากเกินไป พร้อมกับเพิ่มการสร้างเม็ดสีฟีโอเมลานิน เพื่อให้ผิวขาวกระจ่างขึ้น ด้วยกลูต้าไธโอนจากธรรมชาติ ซึ่งร่างกายเราสร้างได้เอง เพียงแค่เลือกรับประทานสารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน หรือที่เรียกกันว่า ตัวแม่กลูต้าฯ อย่างเช่น แอลซีสเตอีน ทำให้ผิวไม่หมองคล้ำ เนียนใสขึ้นอย่างปลอดภัย สีผิวสม่ำเสมอ ไม่ต้องกังวลว่าผิวจะบางหรือกลับมาดำคล้ำอีก
และทั้งหมดนี้คือการเช็คปัญหาผิวเบื้องต้น ที่จะเป็นสัญญาณบ่งบอกปัญหาผิว อย่าละเลยที่จะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อให้คุณมีผิวหน้าสวย กระจ่างใส ไม่หมอง ไม่โทรม ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care
ข้อมูลอ้างอิงจาก :
https://intermountainhealthcare.org/blogs/topics/covid-19/2020/04/face-masks-gloves-and-protecting-your-skin/
www.matichon.co.th/lifestyle/news_133184