โรคตา 4 โรคที่คนทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องระวัง!

     ในชีวิตการทำงานนอกจากสมองและสองมือที่ช่วยบรรลุงานให้เสร็จสิ้นแล้ว ยังมีดวงตาที่ต้องรับศึกหนักกับการจ้องจอคอมพิวเตอร์ตลอดวัน ซึ่งส่งผลให้แสงสีฟ้าทำร้ายดวงตาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบางพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของคนทำงานที่หลายคนไม่รู้ส่งผลเสียต่อสุขภาพตาอีกด้วย เช่น ดื่มน้ำน้อย ใช้สายตาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการพัก  หรือการสูบบุหรี่ก็ยิ่งทำให้สุขภาพตาแย่ลงและเกิดโรคตาต่างๆ ตามมา

 สนใจหัวข้อไหน... คลิกเลย

  โรคตาแห้ง

  วุ้นในตาเสื่อม

  ต้อกระจก

โรคตาแห้ง

     เคยไหม? รู้สึกระคายเคืองตา เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ตลอดเวลา หรือแสบตา น้ำตาไหลมากผิดปกติ…หากมีอาการแสดงว่ามีพฤติกรรมการจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือจอโทรศัพท์เป็นระยะเวลานานจนเกินไป หรือเกิดความผิดปกติของต่อมไขมันที่เปลือกตา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนก็มีผลเช่นกัน
     ดังนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยโดยละเอียด เพราะหากปล่อยไว้การมองเห็นจะแย่ลง ตาพร่ามัว หรือมีการอักเสบของเยื่อบุตาและกระจกตาได้

     นอกจากต้อกระจกจะเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาที่คนไทยเป็นมากที่สุดแล้ว ‘โรคทางจอประสาทตา’ ก็มีสถิติของผู้ป่วยมากเช่นกันโดยมีอัตราร้อยละ 13.2  โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานและต่อเนื่อง อีกทั้งเล่นโทรศัพท์ในที่มืด จนมีอาการของจอประสาทตาเสื่อมตามมา เช่น มีจุดดำหรือเงาตรงกลางภาพ มีอาการมองภาพไม่ชัด ตาพร่ามัว อาการเหล่านี้เกิดจากจุดรับภาพบริเวณกลางจอประสาทตาเสื่อม หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีการมองเห็นจะแย่ลงจนรบกวนชีวิตประจำวันได้

วุ้นในตาเสื่อม

     หลายคนคงสงสัยว่าวุ้นในตาคืออะไร? อยู่ตรงไหนของดวงตา? วุ้นในตามีลักษณะเป็นเจลหนืดใสอยู่ส่วนหลังของลูกตาและติดกับจอประสาทตา หากวันหนึ่งที่วุ้นในตาเสื่อมจะแปลงสภาพบางส่วนเป็นของเหลว บางส่วนจับเป็นก้อนหรือเป็นเส้นหยากไย่ และอาจหดตัวลอกออกจากผิวจอประสาทตา เราจึงเห็นเงาดำ จุดเล็กๆ เส้นหยากไย่ลอยไปมา หรือแสงวาบเหมือนแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูป

    วุ้นในตาเสื่อมเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันตัวเลขอายุของผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าหนุ่มสาวในวัยทำงานเป็นโรคนี้มากขึ้น เนื่องจากมีการใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้นตามลำดับความสั้นของสายตา

ต้อกระจก

     ‘ต้อกระจก’ โรคเกี่ยวกับดวงตาที่คนไทยเป็นมากที่สุดถึงร้อยละ 69.7 พบมากในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้คนอายุน้อยหรือผู้ที่ใช้สารสเตียรอยด์ติดต่อเป็นเวลานานก็สามารถป่วยเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน

     โรคต้อกระจกเกิดจากเลนส์แก้วตาขุ่นมัวลง ทำให้แสงผ่านเข้าไปยังจอประสาทตาได้น้อยลง จนทำให้มองภาพไม่ชัด ตาเริ่มพร่ามัวเหมือนมีหมอกหรือฝ้าบัง สู้แสงสว่างไม่ได้ มองสีต่างๆ ผิดเพี้ยนไป รวมถึงผู้ป่วยมีพฤติกรรมในการเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อยผิดปกติ เนื่องจากค่าสายตาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

     ‘ต้อกระจก’ ถือเป็นโรคที่อันตรายต่อระบบการมองเห็น เพราะหากปล่อยไว้หรือไม่รักษา สามารถทำให้ตาบอดได้อย่างถาวร

     จะเห็นได้ว่าการใช้ดวงตาอย่างหนักและต่อเนื่อง รวมถึงมีพฤติกรรมทำร้ายดวงตาที่ทำไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคตาดังกล่าวได้ แต่หากเราหันมาใส่ใจสุขภาพตาตั้งแต่วันนี้ โดยปรับพฤติกรรมเสี่ยงลงก็สามารถป้องกันโรคตาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต…แค่เพียงพักสายตาจากการจ้องจอบ้าง โดยใช้กฎ 20-20-20 คือทำงาน 20 นาที ,พักสายตามองไกลๆ 20 ฟุต นาน 20 วินาที ทำแบบนี้เป็นประจำจะช่วยถนอมสายตาได้ดี หรือจิบน้ำเป็นระยะๆ เพื่อเติมความชุ่มชื้นของตา รวมไปถึงงดสูบบุหรี่และเลี่ยงควันบุหรี่ด้วย

     นอกจากนี้แพทย์ยังแนะนำให้ทานอาหารที่หลากหลายเพื่อให้ได้รับสารอาหารบำรุงดวงตาต่างๆ อย่างสารประกอบกลุ่มคาโรทีนอยด์ที่ชื่อว่า “ลูทีน” ซึ่งมีหน้าที่ดูดซับและกรองแสงสีฟ้าได้ดี เหมาะกับไลฟ์ไตล์การทำงานของชาวออฟฟิศเป็นอย่างมาก สามารถเจอในผักใบเขียวต่างๆ อย่างคะน้า ผักโขม และอีกสารอาหารอีกกลุ่มที่มีบทบาทบำรุงดวงตาเช่นกันคือ “เบต้าแคโรทีน” ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายจอประสาทตาของเรา สามารถหาได้จากผักผลไม้สีแดง ส้ม หรือเหลืองอย่างพริกหวาน แครอท…อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะดูแลอย่างรอบด้านแล้วก็อย่าลืมเข้ารับการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำด้วย เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าดวงตาของเรายังสมบูรณ์ดีไม่มีโรคร้ายซ่อนอยู่…ด้วยความห่วงใยจาก MEGA WE Care

ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.bangkokhospital.com/content/8-eye-diseases-must-be-careful
https://www.phyathai.com/article_detail/1692/th/5_พฤติกรรมเสี่ยงของมนุษย์ออฟฟิศ_ที่ทำร้ายดวงตาโดยไม่รู้ตัว
https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/บทความ-โรคตา/ต้อกระจก-มองภาพไม่ชัด-ตามัว-รักษาได้
https://www.bangkokbiznews.com/recommended/detail/1118
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/วุ้นในลูกตาเสื่อม-เกิ/