สิ่งที่ต้องรู้ เพื่อปกป้องผนังหลอดเลือดของเรา
สิ่งที่ต้องรู้เพื่อปกป้องผนังหลอดเลือด
อวัยวะทุกส่วนในร่างกายต้องใช้เส้นเลือดในการลำเรียงสารอาหารและออกซิเจนไปยังอวัยวะแต่ละส่วน ผนังหลอดเลือดจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันการเสียหายของหลอดเลือด โอกาสที่เราจะมีปัญหาสุขภาพได้ก็ต่อเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น หลอดเลือดจะเสื่อมตามวัย มีหินปูนเกาะ และมีปัจจัยเสริมได้แก่ การสูบบุหรี่ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเส้นเลือดสูง เมื่อหลอดเลือดแข็ง เสียความยืดหยุ่น ปัญหาที่ตามมาคือ ความดันโลหิตจะยิ่งสูงขึ้น ถ้ายิ่งมีไขมันไปสะสมที่ผนังหลอดเลือดมากขึ้นก็จะเกิดการตีบหรือแตกได้ง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้มีส่วนให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (heart attack) โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) หรือแม้แต่หลอดเลือดโป่งพองในช่องท้อง ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อชีวิต
สนใจหัวข้อไหน... คลิกเลย
6 วิธีชะลอความเสื่อมของหลอดเลือด
วิตามินอีธรรมชาติ ช่วยได้อย่างไร
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผนังหลอดเลือดเสื่อม
6 วิธีชะลอความเสื่อมของหลอดเลือด
การป้องกันความเสื่อมของหลอดเลือดอาจไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด แต่เราสามารถชะลอความเสื่อมได้ โดยมีข้อควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
ไม่สูบบุหรี่
ควรคุมความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดให้ปกติ
หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม หรืออาหารที่มีโซเดียมมากเกินไป
หลีกเลี่ยงอาหารมัน โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์
รับประทานผัก ผลไม้ทุกวันอย่างน้อย 50% ของอาหารทั้งหมดที่รับประทานในแต่ละวัน
ออกกำลังกายให้เหมาะกับวัยและสภาพของร่างกายของแต่ละคน อย่างสม่ำเสมอทุกวัน
วิตามินอีธรรมชาติ ช่วยได้อย่างไร
วิตามินอีธรรมชาติ หรือ โทโคเฟอรอล (Tocopherol) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันและผ่านไปทั่วร่างกายมีไขมันเป็นส่วนประกอบ เช่น สมอง ผนังหลอดเลือด เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งในวิตามินจำเป็นต่อร่างกายที่ทางการแพทย์แนะนำให้รับประทานอย่างสม่ำเสมอ โดยวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระส่วนเกินที่ร่างกายผลิตขึ้นมา เพราะการมีสารอนุมูลอิสระที่มากเกินไปทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลง
วิตามินอี ยังช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดที่มีโอกาสอุดตันในเส้นเลือดของผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง และลดปัญาการทำลายผนังหลอดเลือดของคนที่มีไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดภาวะการอักเสบของเซลล์ตับที่มีปัญหาไขมันพอกตับได้ อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม
โดยการรับประทานวิตามินอีสามารถรับประทานได้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อย่าง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน เพราะวิตามินอีนั้นจะเข้าป้องกันการเสื่อมของผนังเซลล์ เพื่อลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากกลุ่มโรคที่ผนังเส้นเลือดตีบหรือแข็ง อย่างเช่น อาการหลอดเลือดในสมองแตก
อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอีมักพบอยู่ในไขมันจากพืช เช่น ธัญพืชต่างๆ เมล็ดถั่ว ถั่วเหลือง ผักใบเขียว อะโวคาโด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด และจากไขมันสัตว์อย่าง นมวัว น้ำมันตับปลา เนื้อสัตว์ ไข่ ตับ หากจะเลือกรับประทานจากอาหารสด เราอาจต้องรับประทานอาหารในปริมาณมากและไม่สามารถคาดเดาได้ว่าร่างกายจะได้รับวิตามินอีเพียงพอเพื่อซ่อมแซมและดูแลผนังหลอดเลือดหรือไม่ โดยทางเลือกในปัจจุบันมีเพื่อเสริมให้เรามั่นใจว่าได้ดูแลหลอดเลือดทั้งหมดในร่างกายอย่างสมบูรณ์ เพื่อให้ตัวเราเองและคนที่เรารักมีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีปัญหาสุขภาพแฝงอยู่ อย่ารอให้เกิดปัญหาเส้นเลือดแตก หรือตีบ เป็นอันตรายถึงชีวิตที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่คุณรัก เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าเริ่มดูแลตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้ ด้วยความห่วงใยจาก...MEGA We Care
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผนังหลอดเลือดเสื่อม
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.bangkokpattayahospital.com/th/newsroom-th/health-articles-th/item/1228-vascular-screening-th.html
https://www.vichaiyut.com/th/health/informations/ชะลอความเสื่อมจากโรคหล/
https://www.paolohospital.com/th-TH/center/Article/Details/บทความ-ระบบประสาทและสมอง/สมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง-(Vascular-Dementia)
https://www.sukumvithospital.com/content.php?id=3516
https://www.ekachaihospital.com/th/5-warning-sign-stroke/
https://www.uptodate.com/contents/vitamin-supplementation-in-disease-prevention?source=search_result&search=vitamin%20e%20antioxidant&selectedTitle=2~150
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=33#:~:text=วิตามินอี%20หรือ%20โทโค,อื่นๆ%20อีกมากมาย%20มี
