วิตามินดีสำคัญต่อภูมิคุ้มกัน และลดการเสี่ยงอาการรุนแรง
ถึงแม้ว่ายังไม่มีการยืนยัน 100% ว่าวิตามินดีช่วยป้องกันและรักษาการติดเชื้อได้ แต่การขาดวิตามินชนิดนี้ในร่างกายมีความเชื่อมโยงกับการติดเชื้อ COVID-19
ทีมนักวิจัยขอมหาวิทยาลัยบาร์อีลัน (Bar-Ilan University) และศูนย์การแพทย์กาลิลี (GMC) ในประเทศอิสราเอล ได้ทำการวิจัยเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการติดเชื้อ COVID-19 ของคนในประเทศพบว่า คนที่ขาดวิตามินดีหากติดเชื้อจะมีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยที่รุนแรง บางรายถึงขั้นเสียชีวิต โดยทีมนักวิจัยได้มีการศึกษาจากการตรวจหาค่าวิตามินดีในร่างกายของผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงเมื่อเข้ารับการรักษาหลังติดเชื้อพบว่าผู้ป่วยเหล่านี้มีภาวะขาดวิตามินดี เมื่อเทียบกับคนที่มีอาการติดเชื้อเล็กน้อยอย่างชัดเจน นอกจากนี้ผลการวิจัยยังย้ำชัดในเรื่องของการใช้วิตามินดีร่วมกับยาอื่นๆ รักษาผู้ที่ติดเชื้อสามารถทำให้ผู้ป่วยกว่า 50% สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น อีกทั้งยังผู้ป่วยที่ติดเชื้อแต่มีระดับวิตามินดีเพียงพอ ก็มีความเสี่ยงต่อผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ และลดเสียชีวิตลงได้
ไม่เพียงแต่งานวิจัยชิ้นนี้เท่านั้น งานวิจัยที่เชื่อถือได้มากมายยังสรุปไปในทิศทางเดียวกันว่า ”การมีระดับวิตามินดีที่ดีต่อสุขภาพสามารถช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง และมีส่วนป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจโดยทั่วไปได้” นอกจากนี้ศาสตร์จารย์ Jon Rhodes แห่งมหาวิทยาลัย Liverpool ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “วิตามินดีมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และมีส่วนช่วยลดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อไวรัสที่อาจมีความสัมพันธ์กับผู้ป่วยอาการรุนแรง ซึ่งปอดได้รับความเสียหาย”
ส่วนแหล่งวิตามินดีในธรรมชาติหาได้จากแสงแดด อาหารประเภท น้ำมันตับปลา ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ไข่แดง เห็ด และเมล็ดธัญพืช แต่หากไม่สะดวกในการหาอาหารข้างต้นมารับประทานในแต่ละมื้อ และต้องการรับวิตามินดีในรูปแบบอาหารเสริมเข้าสู่ร่างกายก็ควรจะต้องเลือกในแบบ ‘วิตามินดี 3’ (Vitamin D3) ซึ่งจากข้อมูลของวารสารการแพทย์รายสัปดาห์ของสมาคมการแพทย์อังกฤษ (BMJ) แนะนำให้รับประทานเพื่อป้องกันวันละ 1,000-2,000 IU
