“ฝ้า” เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าหนักใจ กว่า 40% ของผู้หญิงไทย (อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป) ยอมรับว่ามีความกังวลใจและต้องสูญเสียความมั่นใจไปเพราะมีปัญหาเรื่องฝ้า!! หลายคนนิยามว่าฝ้าเป็นปัญหาผิวที่เกิดได้ง่าย เพราะเพียงแค่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด ผิวก็โดนทำร้ายจนทำให้เกิดฝ้าได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ฝ้า ไม่ได้เกิดจากแสงแดดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลจากแสงต่างๆ เช่น แสงไฟภายในบ้าน แสงในที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งแสงจากจอโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงจอทีวี นอกจากแสงต่างๆเหล่านี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุเของการเกิดฝ้าได้ เช่น ฮอร์โมน ความเครียด ความแข็งแรงของผิว เป็นต้น
ขณะเดียวกันฝ้าก็เป็นปัญหาผิวที่แก้ไขให้หายขาดได้ยาก เพราะแม้จะสามารถรักษาจนทำให้ฝ้าดูจางลงได้แต่ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นฝ้าซ้ำได้ ทั้งยังต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงของวิธีการรักษาฝ้า เช่น ผิวบาง ผิวลอก ผิวอักเสบ เกิดอาการแพ้ เพราะชั้นผิวหนังถูกทำร้ายจนอ่อนแอลง มีผลให้กลับมาเป็นฝ้าซ้ำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อคลายความกังวลใจ และทำให้ทุกวันของคุณมีความมั่นใจได้มากกว่าที่เคย ครั้งนี้ MEGA We care ขออาสามาให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ปัญหาฝ้ากัน พร้อมบอกข้อดีข้อเสียของวิธีการรักษาฝ้าแต่ละแบบ วิธีฝ้าแบบไหนที่คุ้มค่า ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ตามไปหาคำตอบพร้อมๆกัน
สนใจหัวข้อไหน... คลิกเลย
ทำไมผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ใช้วิธีบำรุงจากภายในเพื่อแก้ไขปัญหาฝ้า?
เมื่อพูดถึงสาเหตุของการเกิด “ฝ้า” เชื่อว่าหลายคนยังคงมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก หลายคนคิดว่าฝ้าเกิดขึ้นจากการที่ผิวถูกทำลายจากรังสี UV ในแสงแดดเท่านั้น หากปกป้องผิวจากแสงแดดได้ก็จะไม่เกิดฝ้า?!!…
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแม้ว่าผิวของคุณจะไม่ได้สัมผัสกับแสงแดดเลยก็สามารถมีปัญหาเรื่องฝ้าได้เช่นกัน เพราะตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้า คือ “เซลล์ผิวที่อ่อนแอ ผิวที่เสื่อมสภาพ” จนทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากกว่าปกติในบางบริเวณของผิวหนัง หรือมีการกระจายตัวของเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทา หรือที่เราเรียกกันว่า”ฝ้า” นั่นเอง สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระตุ้นให้เกิดฝ้า ได้แก่
อนุมูลอิสระ ที่มีมากเกินไปในร่างกาย
ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
การกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์จนขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและผิว
การใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานานๆ
ความเครียดหรือการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
สารเคมีจากเครื่องสำอาง
เมื่อทราบถึงสาเหตุของการเกิดปัญหาฝ้าแล้ว คำถามต่อมาที่หลายคนอยากรู้คงหนีไม่พ้นเรื่องวิธีการแก้ปัญหาเรื่องฝ้า ครั้งนี้ MEGA We care ขออาสารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการแก้ปัญหาฝ้าที่ได้รับความนิยม พร้อมทั้งบอกถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีมาให้ได้รู้กัน เพื่อให้คุณได้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจ ทั้งเรื่องความคุ้มค่า ความปลอดภัย และสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองได้
ข้อดี สะดวกสามารถทำเองได้ที่บ้าน ปัจจุบันมีครีมบำรุงที่ช่วยแก้ปัญหาฝ้าให้เลือกหลากหลายยี่ห้อตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในการซื้อส่วนบุคคล โดยส่วนใหญ่ครีมรักษาฝ้าจะมีส่วนผสมของ วิตามินซี อาร์บูติน (Arbutin) กรดโคจิก (Kojic) ที่สามารถทำให้ฝ้าจางลงได้
ข้อเสีย การรักษาฝ้าด้วยครีมบำรุง ต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ ให้ผลลัพธ์ในระยะสั้น ผู้ที่เลือกใช้วิธีนี้หลายรายจะมีปัญหาฝ้าซ้ำได้อีกเมื่อเลิกใช้ครีม และมีความเสี่ยงที่จะเจอครีมรักษาฝ้ายี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีส่วนผสมหลักเป็นสารฟอกขาวที่ทำให้พื้นที่สีเข้มของฝ้าดูจางลง ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้ได้ ที่สำคัญควรเลือกในผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของมอยร์เจอไรเซอร์ร่วมด้วย เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาผิวบาง
ข้อดี เห็นผลลัพธ์รวดเร็วทันใจ เพราะเป็นการฉีดผิวด้วยวิตามินซีเข้าไปในชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้า เพื่อกระจายตัวยาที่ใช้รักษาเข้าสู่เซลล์ผิวหนังที่มีปัญหาได้อย่างตรงจุด
ข้อเสีย เห็นผลลัพธ์ในระยะสั้น ทำให้ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ (ฉีดซ้ำทุกๆ 1-2 สัปดาห์) การรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ฝ้าดูจางลงได้แต่อาจมีผลข้างเคียงตามมา เช่น มีอาการแพ้ ระคายเคือง เกิดการอักเสบ หรือหน้าลอกได้
ข้อดี เห็นผลลัพธ์รวดเร็วทันใจ เพราะเป็นเลเซอร์ที่ใช้พลังงานความร้อนมากระตุ้นเซลล์ผิวให้มีการผลัดเซลล์ผิวได้ไวยิ่งขึ้น และทำให้ส่วนที่เป็นฝ้าถูกผลัดออกไปด้วย
ข้อเสีย ให้ผลลัพธ์ในระยะสั้น และมีผลข้างเคียง คือ อาการใบหน้าบวมแดงหลังจากทำเซเลอร์ ไม่สามารถแก้ปัญหาฝ้าได้อย่างถาวร นอกจากนี้ความร้อนนั้นจากการทำเลเซอร์ยังมีส่วนทำให้เซลล์ผิวอ่อนแอ ไวต่อความร้อน และอาจไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวผิดปกติได้ ทำร้ายชั้นผิวหนังให้อ่อนแอลง มีผลให้กลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม และอาจเป็นมากขึ้นอีกด้วย
ข้อดี การกินยาเพื่อรักษาฝ้าเมื่อออกฤทธิ์จะสามารถยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ที่ใช้สร้างเม็ดสีเมลานินได้ จึงมีผลทำให้ฝ้าจางลง
ข้อเสีย ยาตัวนี้มีผลข้างเคียงที่น่ากังวลหลายประการ เช่น มีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บหน้าอก และยังส่งผลให้เกิดหลอดเลือดฝอยในตาอุดตันจนอาจเสี่ยงต่อการตาบอดได้ อีกทั้งยังไม่มีรายงานด้านความปลอดภัยเมื่อใช้ในระยะยาว
ข้อดี ปลอดภัยเพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวเพราะเป็นการบำรุงจากภายในช่วยต้านอนุมูลอิสระอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปรับการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีของผิวหนังให้เป็นปกติ ช่วยให้เม็ดสีเมลานินกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเซลล์ผิว ช่วยชะลอความเสื่อมและฟืนฟูผิวให้แข็งแรง และยังช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของรังสี UV มีส่วนช่วยให้ผิวทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น
ข้อเสีย ต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 6 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์
มีผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่า การรักษาฝ้าด้วยสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส ชนิดรับประทาน 75 มก./วัน ได้ผลดี มีความเข้มของฝ้าลดลง 2 หน่วย หรือขนาดพื้นที่ฝ้าลดลงมากกว่า 1/3 และไม่ทำให้ฝ้าเกิดขึ้นใหม่ สามารถลดการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ช่วยให้ผิวกระจ่างขาวใสขึ้นและลดรอยฝ้าให้ดูจางลง และสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศสสามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงได้ทุกเซลล์อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังช่วยขับถ่ายของเสียออกจากเซลล์ได้อย่างหมดจด ส่งผลต่อความแข็งแรงของเซลล์ผิว เมื่อผิวแข็งแรงขึ้นก็ทำให้เกิดฝ้าได้ยากขึ้นนั่นเอง (เจาะลึกเรื่องฝ้าและวิธีแก้ปัญหา อ่านเพิ่มเติม)
และทั้งหมดนี้คือข้อมูลดีๆที่จะทำให้คุณรู้จริงเรื่องฝ้า และแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุดมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง ด้วยความห่วงใยจาก_MEGA We care