คุณคิดว่า... สุขภาพร่างกายของคนวัยทำงานอย่างคุณแข็งแรงแค่ไหน?
วัยทำงาน ช่วงเวลาของการใช้ร่างกายและสมองที่หนักหน่วง บางคนทำงานเกิน 10-15 ชั่วโมงต่อวัน วัยทำงานจึงเป็นช่วงวัยที่เสี่ยงกับการมีปัญหาสุขภาพไม่แพ้วัยสูงอายุ และบางโรคก็พบได้ในวัยทำงานมากกว่าวัยอื่นๆ เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี ทั้งการรับประทานที่ไม่มีประโยชน์ นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน นอนดึก ขาดการออกกำลังกาย สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งความเครียดจากการทำงาน... ปากบอกว่าไหว แต่จริงๆ ร่างกายไม่ไหว!! เมื่อเป็นแบบนี้สุขภาพยังไงก็มีแต่เรื่องสุขภาพที่ทรุดโทรม
การมีสุขภาพดีสำหรับคนวัยทำงาน ถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก เพราะหากป่วยบ่อยจะส่งผลต่อการทำงานที่ไม่สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ ปัญหาสุขภาพในวัยทำงานที่พบเป็นประจำอย่างเช่น
- อ่อนเพลีย
- สมองเบลอ
- ภูมิคุ้มกันลดลง ป่วยบ่อย
- ไม่สดชื่น ไม่กระฉับกระเฉง
- นอนหลับไม่สนิท หรือนอนไม่หลับ
- มีความเครียดสะสมจนกลายเป็นโรคเครียดเรื้อรัง
จากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอย่างร้ายแรง เพื่อลดผลกระทบ และดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงแบบฉบับคนไม่มีเวลา มนุษย์เงินเดือนควรกินวิตามินรวม สูตร C D Zinc และเกลือแร่ ซึ่งเป็นวิตามินพื้นฐานที่จำเป็นต่อร่างกาย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์สำหรับคนวัยทำงาน
วิตามินซี วิตามินดี และแร่ธาตุสังกะสี (สูตรรวม C D Zinc) :
วิตามิน C D Zinc มีส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม และป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
วิตามินบีรวม :
เมื่อเผชิญกับความเครียดจากการทำงาน มีโอกาสที่จะมีอาการมึนงง สมองตื้อ อ่อนเพลีย การเสริมวิตามินบีรวม จึงช่วยป้องกันอาการเหล่านี้ได้ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมองให้ฉับไวมากขึ้นและปลอดโปร่ง สดชื่น ลดอาการอ่อนเพลีย อีกทั้งช่วยลดเครียดได้ด้วย
เกลือแร่จำเป็น :
คนวัยทำงานต้องใช้พลังงานและความคิดเยอะ และรับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอ จึงเสี่ยงสูงต่อการขาดเกลือแร่ อาจมีอาการเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลีย เพราะเกลือแร่ มีบทบาทที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติทุกๆวัน การเสริมด้วยสารอาหารอย่างครบถ้วนนี้จะช่วยป้องกันการขาดวิตามินและเกลือแร่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย พร้อมลุยงานอย่างเต็มที่
1. ออกกำลังกาย : การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายมีระบบเผาผลาญที่ดีขึ้น ช่วยให้สุขภาพจิตดี อารมณ์ดี รวมถึงกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีขึ้นไป
2. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ : แน่นอนว่าร่างกายต้องการสารอาหารต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหาร ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ วิตามิน รวมทั้งน้ำและใยอาหาร จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และกินแต่ละหมู่ให้หลากหลายจึงจะได้สารอาหารที่ครบและเพียงพอ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ : สิ่งสำคัญที่สุดคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การไม่อดนอนและนอนหลับสนิทเพียงพอ จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพ และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
4. ผ่อนคลายความเครียด : หากิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย เช่น ร้องเพลง วาดรูป ปลูกต้นไม้ เป็นต้น