จากผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศพบว่า การทำงานที่บ้าน (Work from home) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกสับสน วิตกกังวล บริหารจัดการเวลาไม่ได้ รวมทั้งยังมีสิ่งเร้าอื่นๆ รอบตัวที่ส่งผลให้ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่ทำได้เหมือนปกติ ซึ่งหลายสิ่งที่ประกอบกันเหล่านั้นถือเป็นปัจจัยหนึ่งของอาการสมาธิสั้น หรือที่เรียกว่า "โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่"
โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ ADHD (Attention Deficit Hyperactivity Disorder) เกิดจากสารในสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรมและสมาธิมีการทำงานที่น้อยกว่าปกติ โดยลักษณะอาการของผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นที่สังเกตได้ มีดังนี้
1. ไม่สามารถจัดการกับเวลาได้ เช่น ทำงานเสร็จไม่ทันเวลา มักพลัดวันประกันพรุ่ง มาสายประจำ
2. มีปัญหากับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ เช่น วอกแวกง่าย ฟังและจับใจความอะไรไม่ค่อยได้
3. กลายเป็นคนหุนหันพลันแล่น เช่น พูดแทรกหรือพูดไม่ค่อยคิดจนอาจมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานได้
4. รู้สึกเบื่อง่าย เช่น มีความรู้สึกอึดอัดหรือกระวนกระวายใจเมื่อต้องประชุมเป็นเวลานานๆ
5. มีปัญหาเรื่องการจัดการอารมณ์ เช่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล
นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้ว โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าควรหมั่นสังเกตอาการของตนเองและคนใกล้ชิดว่าเข้าข่ายผู้มีอาการสมาธิสั้นหรือไม่ พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารในประเภทกลุ่มวิตามินโดยเฉพาะ ‘วิตามินบี’ เพราะมีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองได้ ช่วยให้ร่างกายและสมองสามารถจัดการและรับมือกับความเครียด รวมถึงความวิตกกังวลได้ดีขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคสมาธิสั้นได้