การทำงานที่บ้าน (Work from home) พฤติกรรมทำสมาธิสั้นในผู้ใหญ่

การทำงานที่บ้าน (Work from home) พฤติกรรมทำสมาธิสั้นในผู้ใหญ่

     เมื่อพูดถึง "โรคสมาธิสั้น" หลายคนมักจะคิดว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในเด็กเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโรคนี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงวัย รวมไปถึงวัยรุ่นและวัยทำงานก็มีโอกาสเป็นโรคสมาธิสั้นได้เช่นกัน หากมีปัจจัยมากระตุ้น

     จากผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศพบว่า การทำงานที่บ้าน (Work from home) ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกสับสน วิตกกังวล บริหารจัดการเวลาไม่ได้ รวมทั้งยังมีสิ่งเร้าอื่นๆ รอบตัวที่ส่งผลให้ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่ทำได้เหมือนปกติ ซึ่งหลายสิ่งที่ประกอบกันเหล่านั้นถือเป็นปัจจัยหนึ่งของอาการสมาธิสั้น หรือที่เรียกว่า "โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่"

     โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ ADHD  (Attention Deficit Hyperactivity Disorder) เกิดจากสารในสมองส่วนหน้าที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรมและสมาธิมีการทำงานที่น้อยกว่าปกติ โดยลักษณะอาการของผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นที่สังเกตได้ มีดังนี้

     1.  ไม่สามารถจัดการกับเวลาได้ เช่น ทำงานเสร็จไม่ทันเวลา มักพลัดวันประกันพรุ่ง มาสายประจำ
     2.  มีปัญหากับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ เช่น วอกแวกง่าย ฟังและจับใจความอะไรไม่ค่อยได้
     3.  กลายเป็นคนหุนหันพลันแล่น เช่น พูดแทรกหรือพูดไม่ค่อยคิดจนอาจมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานได้
     4.  รู้สึกเบื่อง่าย เช่น มีความรู้สึกอึดอัดหรือกระวนกระวายใจเมื่อต้องประชุมเป็นเวลานานๆ
     5.  มีปัญหาเรื่องการจัดการอารมณ์ เช่น หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า เครียด วิตกกังวล

     นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้ว โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าควรหมั่นสังเกตอาการของตนเองและคนใกล้ชิดว่าเข้าข่ายผู้มีอาการสมาธิสั้นหรือไม่ พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการสมาธิสั้นได้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารในประเภทกลุ่มวิตามินโดยเฉพาะ ‘วิตามินบี’ เพราะมีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองได้ ช่วยให้ร่างกายและสมองสามารถจัดการและรับมือกับความเครียด รวมถึงความวิตกกังวลได้ดีขึ้น ทำให้ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคสมาธิสั้นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก :

กรมสุขภาพจิต :https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=31082

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้