เทรนด์สุขภาพประจำเดือนพฤศจิกายน 2564

เทรนด์สุขภาพประจำเดือนพฤศจิกายน 2564

     การออกกำลังกาย (Exercise) ในทุกประเภทถือเป็นกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อสุขภาพให้กับคนเรามากมาย เช่นเดียวกับเมื่อออกกำลังกายด้วยการวิ่ง (Running) ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินและเซโรโทนินออกมา ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่มีคุณสมบัติช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น แพทย์และผู้เชี่ยวชาญในการวิ่งยืนยันว่าการออกกำลังกายด้วยการวิ่งเป็นประจำ (ในระดับปานกลางหรือเข้มข้น) นอกจากจะสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้แล้ว ยังสามารถปรับปรุงเรื่องสุขภาพจิต ลดความเครียด และยังช่วยเพิ่มความจำ รวมทั้งความสามารถในการเรียนรู้ได้ดีขึ้น

ประโยชน์ของการวิ่ง

     การวิ่ง (Running) เป็นประจำจะช่วยเพิ่มความรู้สึกมีความสุขโดยรวมได้อย่างสม่ำเสมอ การวิ่งเป็นวิธีที่ทำให้ร่างกายและจิตใจให้รู้สึกดีขึ้น การวิ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของคุณดังต่อไปนี้:

1.  ช่วยลดความเครียด
     หลังจากการวิ่งสาร ‘เอนโดแคนนาบินอยด์’ (endocannabinoids) จะหลั่งอออกมาภายในร่างกาย และเมื่อสารนี้หลั่งออกมาก็จะถูกนำสู่กระแสเลือดและเคลื่อนเข้าสู่สมอง ซึ่งส่งผลดีโดยตรงก็คือช่วยความเครียดได้

2.  ช่วยเพิ่มอารมณ์ของคุณ
     การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ทำให้การไหลเวียนของโลหิตไปยังสมองเพิ่มขึ้น โดยจะไปกระตุ้นสมองในส่วนที่ตอบสนองต่อความเครียดและอารมณ์ได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

3.  ช่วยให้เรื่องปัญหาสุขภาพจิต
     มีงานวิจัยเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและวิตกกังวลในต่างประเทศพบว่า การวิ่งสามารถช่วยบรรเทาแก้ปัญหาโรคซึมเศร้าได้เทียบเท่ากับการใช้ยา แต่ที่ดีกว่าก็คือ มีความปลอดภัย และเป็นการลดจำนวนการใช้ยารักษาโดยไม่จำเป็น

4.  ปรับปรุงการนอนหลับ
     แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับ แนะนำให้ผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับเป็นประจำลองหันมาวิ่งออกกำลังกาย เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่าสารเอ็นดอร์ฟินและเซโรโทนินที่ร่างกายหลั่งออกมาระหว่างและหลังการวิ่ง จะสามารถส่งผลให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้นอนหลับสนิท

5.  การวิ่งทำให้ปอด และหัวใจแข็งแรง
     การวิ่งเพียง 30 นาทีต่อวัน ด้วยความเร็วปานกลางสามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับปอด ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในระบบหายใจ และที่สำคัญเมื่อการไหลเวียนของโลหิตที่ได้รับการสูบฉีดที่ดีก็ทำให้หัวใจแข็งแรงด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้

 

เคล็ดลับออกกำลังกายด้วยการวิ่ง

     สิ่งที่หลายคนไม่อยากวิ่งไม่ว่าจะวิ่งตอนเช้าหรือตอนเย็นคือ ‘ความขี้เกียจ’ หลายคนมีปัญหาในการกำหนดกิจวัตรการวิ่งหรือรู้สึกไม่มีแรงจูงใจที่จะวิ่ง แต่รู้หรือไม่... สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการมีร่างกายที่แข็งแรง และสุขภาพจิตที่ดีขึ้นก็คือ การเคลื่อนไหวร่างกายให้มากที่สุดไม่ใช่การวิ่งที่หักโหม

1.  การเริ่มต้นที่ดีไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วยการวิ่ง
     ผู้เชี่ยวชาญการวิ่งในต่างประเทศแนะนำว่า การเคลื่อนไหวโดยไม่จำเป็นต้องวิ่ง คือการเริ่มต้นวิ่งที่ดีอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลายคนล้มเหลวในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันหากเริ่มต้นด้วยการวิ่งทันที การเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการเดินช้า แล้วค่อยขยับไปสู่การเดินเร็วให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และทำด้วยความสม่ำเสมอ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการจุดประกาย
การเริ่มต้นวิ่งจริงจังได้ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่ากำหนดเป้าหมายการเคลื่อนไหวร่างกายในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอดีกว่าการวิ่งที่เข้มข้น

2.  หาเพื่อนออกกำลังกาย
     การหาเพื่อนมาวิ่งด้วยกันมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดความรับผิดชอบต่อเป้าหมายในการวิ่งมากกว่าการวิ่งเพียงคนเดียว

3.  ให้เวลาตัวเอง อดทนและไม่ท้อแท้
     การออกกำลังกายทุกประเภทต้องใช้เวลาที่จะเริ่มต้น และต้องอาศัยวินัยในตัวเอง ดังนั้นคนที่เริ่มต้นคิดจะออกกำลังกาย ด้วยการวิ่ง ต้องมีความอดทน ไม่ควรท้อแท้ เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านการวิ่งบอกว่าเราอาจใช้เวลา 4-8 สัปดาห์ ในการจัดระเบียบวินัยในตัวเอง เพื่อให้การวิ่งเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ

4.  รู้จักดูแลอวัยวะสำคัญของร่างกาย
     แน่นอนว่าการออกกำลังกายในทุกประเภท การเคลื่อนไหวของร่างกายย่อมมีมากกว่าการทำกิจกรรมปกติอย่างอื่นในชีวิตประจำวัน และสำหรับการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ‘ข้อกระดูก’ โดยเฉพาะข้อเข่า และข้อเท้าย่อมเป็นอวัยวะสำคัญที่ถูกใช้งานหนักมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ที่คิดจะออกกำลังกายด้วยการวิ่งจึงควรที่จะมีความรู้ในการดูแลกระดูก ข้อเข่า และข้อเท้าควบคู่ไปด้วย สารอาหารที่จำเป็นอย่าง ‘แคลเซียม’ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องมีอย่างเพียงพอในร่างกายเพื่อเป็นการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้มีนักวิ่งมือใหม่และมืออาชีพจำนวนมากนิยมบำรุงข้อกระดูก โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อเท้าด้วยการรับประทานคอลลาเจนสำหรับข้อกระดูกโดยเฉพาะกันมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการลดโอกาสในการเกิดปัญหาข้อเสื่อมจากการใช้งานข้อกระดูกอย่างหนักจากการวิ่งที่มีโอกาสจะตามมาในอนาคต

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

1.  https://www.webmd.com/fitness-exercise/how-running-affects-mental-health#2
2.  American College of sports medicine

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้