รู้หรือไม่... องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) แนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กรับประทานน้ำตาลได้ไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือประมาณ 24 กรัมต่อวัน แต่จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า คนไทยกลับมีอัตราในการรับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายมากถึงวันละ 25 ช้อนชา ซึ่งมากกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ถึงกว่า 4 เท่า และการรับประทานมากขนาดนี้ก็มาพร้อมกับปัญหาสุขภาพและโรคภัยต่างๆ มากมาย
1. รับประทานหวานมากๆ แก่เร็ว
น้ำตาล ถือเป็นสิ่งที่กระตุ้นทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและริ้วรอย และก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปอาจทำให้ผิวเสีย หน้าแก่ เพราะน้ำตาลทำปฏิกิริยา เพราะผิวหนังของคนเราจะประกอบไปด้วยโปรตีนคอลลาเจนและอีลาสตินเป็นองค์ประกอบหลัก และเมื่อรับประทานน้ำตาลในปริมาณมากๆ เป็นประจำ น้ำตาลก็จะซึมเข้าสู่กระแสเลือดและเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างของคอลลาเจนทำให้อีลาสตินในชั้นผิวลดลงส่งผลให้ผิวหนังแห้งกร้าน หย่อนคล้อย และเกิดร่องริ้วรอยลึกได้ง่าย ทำให้ผิวหน้าแก่ก่อนวัยอันควร นอกจากน้ำตาลจะทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยแล้ว น้ำตาลยังไปกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมากขึ้น และยังเสี่ยงเป็นสิวได้ง่ายอีกด้วย ในต่างประเทศมีงานทดลองที่ทำให้กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 2,300 คน ได้ผลสรุปออกมาว่า ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มรสหวานเป็นประจำมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวเพิ่มขึ้นสูงถึง 30%
2. น้ำตาลต้นเหตุของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
เมื่อรับประทานน้ำตาลเกินพอดี ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นรูปแบบของไขมัน ซึ่งจะไปสะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ช่องท้อง ท้องแขน เอว หรือต้นขาจนเป็นต้นเหตุของน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นจนเกิดมาตรฐาน สุดท้ายก็กลายเป็นโรคอ้วน และนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน รวมทั้งโรคหัวใจในอนาคต
3. น้ำตาลทำให้สมดุลของเลือดเสียไป
การรับประทานอาหารหวานหรือน้ำตาลมากเกินไป จะไปเร่งกระบวนการทางร่างกายให้ผลิตอินซูลินมากเกินความจำเป็น และตกค้างอยู่ในกระแสเลือด ซึ่งมีผลต่อระบบการไหลเวียนเลือดภายในร่างกายเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดต่างๆ ได้
4. น้ำตาลแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องปาก
สังเกตได้ชัดเจนว่าเด็กที่รับประทานอาหารหวานมากๆ ฟันจะผุ และฟันไม่แข็งแรง ซึ่งมาจากสาเหตุที่ว่าอาหารหวานบางอย่าง เช่น ลูกอม หรือของหวานบางประเภทจะมีส่วนผสมของซูโครส ซึ่งทำให้แบคทีเรียที่อยู่ในช่องปากเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
5. น้ำตาลทำให้ร่างกายเซื่องซึม
ความเชื่อว่าการรับประทานน้ำตาลจะช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวยได้อาจจะไม่จริงเสมอไป ถ้ารับประทานมากจนเกินไป ความกระปรี้กระเปร่าสดชื่นจะกลายเป็นความเซื่องซึมแทน เพราะกรดอะมิโนที่ชื่อว่า ‘ทริปโตฟาน’ จะเข้าสู่สมองมากเกินไปจนทำให้เกิดความเสียสมดุลของฮอร์โมนในสมอง ซึ่งแสดงออกมาทางร่างกายผ่านอาการเหนื่อยล้า ไม่กระฉับกระเฉง
6. น้ำตาลคือต้นตอของโรคร้าย
การรับประทานรสหวานหรือน้ำตาลมากเกินไป ทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานผิดปกติ และเกิดโรคร้ายแรงได้หลายชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก และโรคมะเร็งตับอ่อน (น้ำตาลทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้อย่างรวดเร็ว) อีกทั้งยังทำให้เกิดติดเชื้อรุนแรงในร่างกายได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก
1. โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
2. www.pobpad.com
3. https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/sweet