ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้รับความสนใจจากคนทั่วไปมากขึ้น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่เพียงดูแลปกป้องเราโรคระบาดเท่านั้น แต่ภูมิคุ้มกันจะช่วยป้องกันเราจากโรคทุกโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อตามฤดูกาล โรคภูมิแพ้ โรคเรื้อรังต่างๆ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด วิธีการดูแลป้องกัน (Prevention) เพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกท่านกล่าวเน้นย้ำเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “การป้องกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะการฟื้นฟูจากการเจ็บป่วย โรคบางโรคอาจจะไม่สามารถทำให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงให้เหมือนเดิมได้” ซึ่งวิธีการป้องกันโรคที่ได้รับคำแนะนำกันมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากาก การล้างมือ การเว้นระยะห่าง รวมทั้งการฉีดวัคซีน อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการดูแลร่างกายในวิกฤตสุขภาพอีกต่อไป

     นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำวิธีการในการเพิ่มภูมิคุ้มกันเพื่อเป็นการดูแลร่างกายโดยผ่านพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพราะการมีภูมิคุ้มกันที่ดีจะเปรียบเสมือนเป็นเกราะกำบัง โดยทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรายไม่ให้เข้ามาทำอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งทำได้ง่ายๆ ด้วย 6 วิธี ดังนี้

1.  นอนหลับให้เพียงพอ
     การนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละวันให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยคืนความสดชื่นให้ร่างกาย การอดนอน หรือนอนน้อย เป็นพฤติกรรมจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง และมีโอกาสป่วยจากการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

2.  ลดความเครียด
     ฮอร์โมนแห่งความเครียด หรือคอร์ติซอล (Cortisol) เป็นสาเหตุสำคัญของความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ยิ่งเครียดภูมิคุ้มกันยิ่งลดลง

3.  การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
     การออกกำลังกายเพียงวันละ 30 นาที 3-4 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันทำให้เม็ดเลือดขาวมีความแข็งแรงจัดการกับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เล็ดลอดเข้าสู่ร่างกายได้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น และช่วยให้กล้ามเนื้อ หัวใจ และปอดแข็งแรงขึ้น

4.  เปลี่ยนแปลง และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายภูมิคุ้มกัน
     พฤติกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่คุ้นชินหลายอย่างมีส่วนทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงโดยไม่รู้ตัว นอกเหนือจากการอดนอนแล้ว การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบุบหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือที่มีแคลอรี่สูง การปล่อยให้น้ำหนักเกินมาตรฐาน ฯลฯ

5.  หมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ
     ปัญหาสุขภาพบางอย่างไม่แสดงอาการที่ชัดเจนกว่าที่จะรู้อาการก็รุนแรงแล้ว เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง หรือไขมันในเลือดสูง ฯลฯ ดังนั้นต้องหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อให้ได้รู้ถึงความผิดปกติของร่างกาย และทำการรักษาได้ทันท่วงที

6.  รับประทานอาหารมีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
     การจะสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้ร่างกาย การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์คือสิ่งที่สำคัญดังนั้นในแต่ละมื้อต้องพยายามรับประทานสารอาหารที่มีคุณค่ากับร่างกาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ให้ครบ แต่หากรับประทานอาหารจากธรรมชาติไม่เพียงพอในปัจจุบันก็สามารถรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารสำคัญอย่างครบถ้วนได้

4 สารอาหารสำคัญที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

1.  วิตามินซี (Vitamin C)
     เป็นวิตามินพื้นฐานที่สำคัญมากต่อร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ต้องได้รับจากอาหารในธรรมชาติเท่านั้น เช่น ผักและผลไม้เท่านั้น เป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยไปช่วยเสริมความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว ทำให้เม็ดเลือดขาวกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมและการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย

2. วิตามินดี (Vitamin D)
     เป็นวิตามินที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้เมื่อผิวหนังได้รับแสงแดด ทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และมีประโยชน์ในการส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในการช่วยทำให้เม็ดเลือดขาวตอบสนองต่อเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมได้ดียิ่งขึ้น
     แต่คนไทยมากกว่า 45.2% มีวิตามินชนิดนี้ในร่างกายไม่เพียงพอ เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดด การทาครีมกันแดด และการทำงานอยู่ในร่มตลอดเวลา รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการที่จะได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอจะต้องอยู่ในรูปแบบของการรับประทานอาหารเสริมเพิ่ม หรือต้องรับประทานอาหารประเภท นมถั่วเหลือง ไข่แดง ตับ เห็ด หรือปลาแซลมอน ในจำนวนที่มากพอที่ร่างกายต้องการ

3.  วิตามินบี (Vitamin B)
     เมื่อร่างกายเกิดความเครียดนอกเหนือจากจะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลงอย่างมากแล้ว วิตามินบีในร่างกายจะลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ถึงแม้ในวิตามินบีประเภทต่างๆ จะมีความสำคัญกับร่างกายแตกต่างกัน แต่ก็มีความเกียวข้องสัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันเช่นกัน โดยความสำคัญของวิตามิน B1 จะมีหน้าที่ควบคุมการหลั่งสารภูมิคุ้มกัน  ส่วนวิตามิน B2 จะควบคุมสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน วิตามิน B3 จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการทำลายเชื้อโรค วิตามิน B6 จะช่วยควบคุมปริมาณเม็ดเลือดขาวในร่างกาย และวิตามิน B12 จะช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้เต็มที่

4.  แร่ธาตุสังกะสี (Zinc)
     สังกะสี หรือ ซิงค์ เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นที่ต้องได้รับเพิ่มอย่างเพียงพอ แร่ธาตุสังกะสีมีประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยให้รักษาสมดลุของระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างปกติ และช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย รวมถึงกระตุ้นและเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาว ( T- Cell ) ให้มีความแข็งแรงและมีความสามารถต่อการปกป้องร่างกายให้พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรค และมีการเคลื่อนไหวในการกำจัดเชื้อโรคได้เร็วขึ้น เพื่อช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส และสิ่งแปลกปลอมไม่ให้ทำอันตรายต่อร่างกายได้

ขอบคุณข้อมูลจาก

1.  โรงพยาบาลสุขุมวิท https://www.sukumvithospital.com/healthcontent.php?id=3501