นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่วัยทำงาน เป็นวัยที่ต้องใช้ทักษะทางสมองอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ การอ่านหนังสือ การติวข้อสอบ การวางแผนการทำงาน การประเมินสถานการณ์ และการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีมีคุณภาพ จนอาจทำให้มีบางช่วงเวลาที่เราเกิดอาการสมองตื้อ คิดอะไรไม่ค่อยออก เนื่องจากการที่เราใช้สมองไปกับการทำสิ่งต่างๆ อาจทำให้สมองและระบบประสาทเหนื่อยล้าได้นั่นเอง
“สมอง” ของเราก็เปรียบเสมือนเครื่องจักร เมื่อทำงานหนักก็ต้องได้รับการบำรุงที่ถูกวิธี สมองนั้นเป็นส่วนหนึ่งของร่ายกาย ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นส่วนที่จะส่งผลต่อการทำงานในด้านต่างๆ ของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะระบบความคิด ระบบความจำ หากสมองเหนื่อยล้าย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ดังนั้นจำเป็นอย่างมากทีเดียวที่เราจะต้องมีวิธีดูแลบำรุงสมองเพื่อส่งเสริมการทำงานของสมองให้กลับมาปลอดโปร่ง มีความฉับไว จดจำได้แม่นยำ มีความกระฉับกระเฉง เพื่อกลับมาเรียนและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีก
1. พักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนหลับเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการและควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสมองถูกใช้งานตลอดวัน ซึ่งควรนอนอย่างน้อย 8 - 10 ชั่วโมง ก็จะทำให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพดีขึ้น
2. ออกกำลังกายเป็นประจำ : การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน จะส่งผลดีต่อระบบสมอง เนื่องจากหัวใจจะสูบฉีดออกซิเจนไปยังสมองมากขึ้น จึงมีส่วนสำคัญในการทำงานของสมองในส่วนของการตัดสินใจ และความจำ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ดื่มน้ำ : การดื่มจะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานของสมอง และความจำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้สมองมีความชุ่มชื้น เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้อย่างสะดวกราบรื่น ซึ่งปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวันควรอยู่ที่ 6-8 แก้ว
4. บริหารความเครียด : พยายามลดภาวะความเครียด เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ การหากิจกรรมทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม สิ่งเหล่านี้มีผลดีต่อการทำงานของสมองทั้งสิ้น และช่วยให้สมองเกิดการเรียนรู้ และพัฒนากระบวนการคิดให้รวดเร็วขึ้น
5. ลดการทำร้ายสมอง : การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ สารเสพติดทุกชนิด สิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายต่อสมองเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ เพื่อลดการทำร้ายสมองให้เสื่อมประสิทธิภาพเร็วขึ้น
เลซิติน จัดเป็นสารสำคัญที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายระบบและดีต่อ “สมองและระบบประสาท” ซึ่งสารสำคัญที่พบในเลซิติน คือ อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine) หรือสารสื่อประสาทซึ่งสารนี้จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับรู้และความจำ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยดูแลระบบการทำงานของสมองและประสาท เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง (การเรียนรู้ การคิด การจดจำ) จึงเหมาะสำหรับทุกวัยเรียน และวัยทำงานหรือผู้ที่ต้องการดูแลสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันเรียกได้ว่ามีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากเลซิตินออกมาวางจำหน่ายสู่ตลาดมากมาย ดังนั้นหากจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากเลซิตินให้เกิดประโยชน์ที่ครบครันและเต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกเลซิตินที่บริสุทธิ์ต้องสกัดจากถั่วเหลืองและเป็นวัตถุดิบระดับ 'เกรดเอ' ที่ปราศจากการสารฟอกสี การแต่งสี แต่งรส เนื่องจากสารฟอกสีเป็นสารที่มักจะนิยมใช้ในกระบวนการการผลิตเลซิติน ซึ่งเป็นอันตรายก่อให้เกิดภาวะตับอักเสบ และตับแข็งได้ถ้าทานต่อเนื่องในระยะยาว และควรเลือกเลซิตินที่ผลิตภายใต้มาตรฐานการผลิตยาระดับสากลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก GMP ของประเทศไทย, BfArM ของประเทศเยอรมัน และ TGA ของประเทศออสเตรเลีย จึงจะมั่นใจในคุณภาพของเลซิตินว่าได้ผ่านการคัดสรรและขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน จึงทำให้สามารถมั่นใจในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยในการรับประทานในระยะยาว
คงจะได้ทราบถึงสรรพคุณของเลซิตินที่นำมาใช้ในการบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ พัฒนาการเรียนรู้ อย่างไรก็ตามการดูแลสมองให้ปลอดโปร่ง มีความฉับไว จดจำได้แม่นยำ มีความกระฉับกระเฉง เราสามารถบำรุงสมองได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นการ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำ บริหารความเครียด และ ลดการทำร้ายสมอง ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care