2 ตัวช่วยหมดปัญหากระดูกและข้อ

2 ตัวช่วยหมดปัญหากระดูกและข้อ

2 ตัวช่วยหมดปัญหากระดูกและข้อ

     โรคกระดูกพรุน และ โรคข้อเสื่อม เป็น 2 โรคที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ควรละเลย เพราะกระดูกและข้อ คือ อวัยวะที่สำคัญต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย เมื่ออายุขึ้นเลข 3 เซลล์ต่างๆ ในร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ เสียความสมดุลในร่างกาย ดังนั้นการดูแลกระดูกและข้อให้แข็งแรงในวัย 30 จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่จะตามมา

  สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย

  โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

  สาเหตุของโรคกระดูกพรุน

  วิธีการป้องกันโรคกระดูกพรุน

  แคลเซียมตัวช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

  โรคข้อกระดูกเสื่อม

  สาเหตุของโรคข้อเสื่อม

  วิธีป้องกันโรคข้อเสื่อม

  การเลือกซื้อคอลลาเจนและแคลเซียมให้เหมาะสมกับกระดูกและข้อ

โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)

     โรคกระดูกพรุน คือ โรคที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกน้อยลง หรือมีการสูญเสียมวลกระดูกจนทำให้กระดูกเปราะบางสามารถแตกหักได้ง่ายหากเกิดอุบัติเหตุ โดยโรคกระดูกพรุนสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่มักจะพบมาในผู้หญิงที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป เนื่องจากการลดลงของฮอร์โมเพศหญิง จะส่งผลทำให้การดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูกลดลง ความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนก็จะมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การรับประทานอาหารก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน หากร่างกายไม่ได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายขาดแคลเซียม จนต้องไปดึงเอาแคลเซียมที่สะสมไว้ในกระดูกออกมาใช้ ทำให้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย

สาเหตุของโรคกระดูกพรุน

1. อายุ

     เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการเจริญเติบโตของร่างกายจะทำงานช้าลง ยังรวมไปถึงระดับฮอร์โมนต่างๆ ที่ลดลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศ จะมีผลต่อการสะสมของแคลเซียมที่กระดูก

2. กรรมพันธุ์

     หากคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับพันธุกรรมของโรคกระดูกพรุนมากขึ้น

3. พฤติกรรมการบริโภค

     การรับประทานอาหารให้แต่ละมื้อ หากมีปริมาณแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในการสร้างมวลกระดูก หรือรับประทานอาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ น้ำอัดลม ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ติดต่อกันปริมาณมากเป็นเวลานาน ก็ส่งผลให้มีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนได้

วิธีการป้องกันโรคกระดูกพรุน

     1. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรเป็นการออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน กระโดดเชือก เต้นแอโรบิก หรือการรำมวยจีน จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกได้

     2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

     3. ออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าหรือตอนเย็น วันละ10-15 นาที จะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีได้ดีขึ้น

     4. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอย่างสม่ำเสมอ เช่น นม ผักใบเขียว ถั่วต่างๆ

แคลเซียมตัวช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

     แคลเซียม (Calcium) สารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างมวลกระดูก อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นม  เต้าหู้ กุ้งฝอย ปลาตัวเล็ก ถั่วต่างๆ และผักใบเขียวอย่าง ผักคะน้า ผักกระเฉด ตำลึง เป็นต้น การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงจะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับคือ 800-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองการรับประทานแคลเซียมเสริมก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สะดวกและประหยัดเวลา นอกจากจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนแล้ว ยังช่วยคงระดับแคลเซียมในกระแสเลือด เพื่อรักษามวลกระดูกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย

 

normal-bone-and-osteoporosis

 

โรคข้อกระดูกเสื่อม

     เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่ควรละเลย มักจะพบมากในผู้สูงอายุและผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยจะมีอาการปวดข้อเข่าขณะกำลังเคลื่อนไหว มีเสียงกร๊อบแกร๊บ ไม่สามารถเหยียดขาได้สุด งอเข่าไม่ได้ รู้สึกฝืดๆ หรือมีอาการติดขัดบริเวณข้อ ซึ่งมีผลทำให้การเคลื่อนไหวของข้อลดลง เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวกระดูกอ่อนบริเวณข้อตามกาลเวลา เมื่อผิวกระดูกอ่อนข้อเกิดการสึกหรอ กระดูกข้อจะมาชนกันจนทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง หากปล่อยเอาไว้เป็นเวลานาน จะยิ่งทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น ข้อเข่าผิดรูป ขาโก่งงอ และไม่สามารถเดินใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สาเหตุของโรคข้อเสื่อม

1. อายุ

     เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เซลล์กระดูกอ่อน มีการสร้างโปรตีนคอลลาเจนลดลง จนทำให้กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพลง

2. น้ำหนัก

     น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะเพิ่มแรกกดทับที่ข้อเข่ามากขึ้น ส่งผลทำให้เซลล์กระดูกอ่อน และเซลล์กระดูกเสื่อมเร็วขึ้น

3. การใช้งานอย่างหนัก

     เช่น ยกของ เล่นกีฬาอย่างหนัก ใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งผลให้กระดูกอ่อนมีการสัมผัสหรือเสียดสีกันและยังเป็นการเพิ่มแรงกดทับ ทำให้เกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บ หรือปวดข้อขณะที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่

วิธีป้องกันโรคข้อเสื่อม

การควบคุมน้ำหนัก

     การลดน้ำหนักจะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคข้อเสื่อมและชะลอไม่ให้โรคข้อเสื่อมเป็นมากขึ้นกว่าเดิม โดยข้อที่ต้องรับน้ำหนัก ได้แก่ ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อกระดูกสันหลัง และข้อสะโพก

ออกกำลังกายและบริหารร่างกาย

     การออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง มีส่วนช่วยลดอาการเจ็บปวด และทำให้การทำงานของข้อดีขึ้น หรือในตอนเช้ามีการยืดข้ออย่างช้าๆ ซึ่งเป็นการกายภาพอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะช่วยป้องกันข้อติดและทำให้การเคลื่อนไหวของข้อเป็นไปได้อย่างปกติ

การรับประทานคอลลาเจนที่ช่วยบำรุงข้อกระดูกอ่อน

     คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ เมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ การรับประทานคอลลาเจนเสริมจะเป็นเหมือนทางลัดที่ช่วยให้ข้อกระดูกอ่อนแข็งแรงขึ้น โดยคอลลาเจนจะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของข้อกระดูกอ่อน และช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์เซลล์ใหม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงข้อกระดูก สามารถช่วยลดอาการปวดข้อและข้อยึด ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

 

osteoarthritis

 

การเลือกซื้อคอลลาเจนและแคลเซียมให้เหมาะสมกับกระดูกและข้อ

คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II)

     คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type II) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่พบในเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ หากต้องการรับประทานคอลลาเจนเพื่อบำรุงและเสริมสร้างกระดูกอ่อนผิวข้อโดยเฉพาะ ควรเลือกเป็น ‘ไฮโดรไลเซต คอลลาเจน’ (Hydrolysate Collagen) ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีขนาดและความยาวสั้นลง ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีขึ้น โดยมีผลการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่าสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาโรคข้อเสื่อมได้ เพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปในกระดูกอ่อน ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกอ่อนให้มีจำนวนมากขึ้น เพิ่มน้ำเลี้ยงข้อ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอบริเวณกระดูกข้อได้

แคลเซียม (Calcium)

     แคลเซียม คือ แร่ธาตุหลักของโครงสร้างกระดูก ใน 1 วัน ร่างกายควรได้รับแคลเซียม ประมาณ 800-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมควรเลือกเป็นแคลเซียม ชนิดแคลเซียมคาร์บอเนตที่บรรจุอยู่ในรูปแบบแคปซูลนิ่ม ที่ให้ปริมาณแคลเซียมอิสระมากกว่าแคลเซียมรูปแบบอื่นๆ และเพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น ควรเป็นแคลเซียมที่มีส่วนผสมของวิตามินดี เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุนได้

     การออกกำลังกายควบคู่กับการรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างคอลลาเจนและแคลเซียม จะช่วยป้องกันโรคข้อเสื่อมและโรคกระดูกพรุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากต้องการเสริมคอลลาเจนแคลเซียมก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มารตรฐานเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและคนที่คุณรัก…ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : 

https://www.nonthavej.co.th/Orthopedic-in-the-elderly.php
https://www.bumrungrad.com/th/treatments/treatment-of-osteoarthritis  
https://amprohealth.com/magazine/collagen-type-ii/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4970562/
https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-714/collagen-type-ii-native
https://www.bumrungrad.com/th/conditions/knee-osteoarthritis
https://www.bangkokinternationalhospital.com/th/health-articles/diseases-and-treatments/osteoarthritis-and-how-to-care

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้