สีของดวงตาบอกได้ว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคอย่างไร

    ต่อไปนี้คำว่า “ดวงตา คือหน้าต่างของหัวใจ” อาจจะต้องพ่วงไปด้วยประโยคว่า “และสีดวงตา ก็คือสิ่งที่จะบอกความผิดปกติของสุขภาพเราได้”  

1.  เปลือกตามีสีดำคล้ำ : ดวงตาที่มีสีดำคล้ำ สันนิษฐานได้ว่าร่างกายเสี่ยงกับอาการภูมิแพ้ ไซนัส หรือโพรงจมูกอักเสบ เพราะการแสดงออกของร่างกายอย่างหนี่งเมื่อเกิดอาการภูมิแพ้ก็คือ มักจะรู้สึกคันรอบๆ ดวงตา ซึ่งก็เสี่ยงกับการขยี้ตาบ่อยๆ จนทำให้เปลือกตาเกิดการช้ำจนเป็นสีดำคล้ำ

2.  ตาขาวมีสีเหลือง :  อาการตาเหลือง เป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมาบอกว่าร่างกายกำลังเสี่ยงกับความไม่ปกติเกี่ยวกับตับและท่อน้ำดีเสี่ยงเป็นโรคตับอักเสบ ซึ่งเกิดจากสารที่มีชื่อว่า “สารบิลิรูบิน (Bilirubin)” ที่มีอยู่ในร่างกายมากเกินไป พอร่างกายเกิดการสะสมมากขึ้นก็จะกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะที่เยื่อบุตา ทำให้มีอาการตาเหลือง

3.  ตาขาวมีสีแดง : สีของตาขาวที่มีลักษณะแดง สันนิษฐานได้ว่าดวงตาระคายเคืองจากฝุ่น ควัน สิ่งแปลปลอม จนทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบ หรือเกิดการอักเสบภายในร่างกาย รวมถึงการแสดงออกถึงอาการภูมิแพ้ และการติดเชื้อบางชนิด ซึ่งหากมีการติดเชื้อบริเวณดวงตาแล้วแนะนำให้รีบปรึกษาจักษุแพทย์ในทันที

4.  ตาขาวมีจุดเหลืองที่หัวตา : โรคต้อลม คือโรคยอดนิยมของคนที่ทำงานกลางแจ้งซึ่งต้องเจอกับมลภาวะเป็นประจำ เป็นอาการที่เกิดจากส่วนที่เป็นเยื่อบุดวงตาบริเวณตาขาวถูกลมหรือรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดเป็นเวลานานๆ จนทำให้บริเวณที่เยื่อบุตาหนาขึ้นจะมีสีเข้มกว่าเยื่อบุตาบริเวณอื่นที่เป็นสีขาว  นอกจากนี้ถ้าบริเวณรอบดวงตามีจุดสีออกเหลืองตรงหัวตา ยังสามารถบ่งบอกได้อีกว่ากำลังเสี่ยงกับการมีภาวะคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งควรต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อควบคุมระดับของไขมันในเลือด

5.  ตาดำมีสีขาวขุ่น : ต้อกระจก เป็นหนึ่งในโรคตาที่คนไทยสูงอายุเป็นมากที่สุดโรคหนึ่ง เมื่อเป็นต้อกระจกเลนส์ตาจะขุ่นทำให้แสงผ่านเลนส์ตาไปยังจอประสาทตาลดลงทำให้เกิดอาการตามัวขึ้น แต่โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ หากรีบไปปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เริ่มต้นที่สังเกตเห็นว่าที่ตาดำมีสีขาวหรือขุ่น

6.  ตาดำมีสีเขียว : โรคต้อหิน คือโรคเกี่ยวกับดวงตาที่ร้ายแรงซึ่งเสี่ยงกับอาการตาบอดถาวรได้ง่ายกว่าโรคตาชนิดอื่นโรคนี้เป็นกลุ่มโรคเกิดจากขั้วประสาทตาถูกทำลาย และนำไปสู่การมองเห็นที่ลดลงและสูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวรโดยไม่สามารถรักษาให้กลับมามองเห็นได้อีก และโรคต้อหินก็มีความสัมพันธ์กับความดันภายในดวงตาที่สูงมากผิดปกติ

ขอบคุณข้อมูลจาก
1.   รศ. นพ. ศักดิ์ชัย วงศกิติรักษ์ ประธานวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
2.  https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=56
3.  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)