ตั้งแต่พบการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 ได้กลับมามีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้สามารถแพร่กระจายได้เร็วถึง 70 เท่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้า และสามารถเข้าสู่ระบบร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น และหลบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ที่สำคัญทำให้คนที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้วมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้จากสายพันธุ์โอไมครอนนี้ซ้ำได้อีก
โดยอาการของร่างกายเมื่อรับเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน (omicron) ไม่ได้มีความแตกต่างจากเชื้อสายพันธุ์เดลต้ามากนัก จากการสำรวจผู้ป่วยโอไมครอนในประเทศไทย พบ 8 อาการเบื้องต้นดังนี้ อาการไอ 54 %เจ็บคอ 37%,มีไข้ 29%,ปวดเมื่อกล้ามเนื้อ 15%,น้ำมูกไหล 12%,ปวดศีรษะ 10% ,
หายใจไม่เต็มอิ่ม 5% ,จมูกไม่รับกลิ่น ลิ้นไม่รับรส 2 % และไม่แสดงอาการ 48% เป็นต้น
รับวัคซีนป้องกันโควิดให้ครบตามระยะเวลาที่เหมาะสม
ใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่กับผู้อื่น
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรืออากาศไม่ถ่ายเท
ล้างมือเป็นประจำ ดูแลสุขอนามัย
ประเมินตนเอง หรือตรวจ ATK เป็นประจำ
นอกจากการปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐานแล้ว การมีภูมิคุ้มกันในร่างกายอย่างเพียงพอก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำก็คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ การพักผ่อนอย่างเพียง เพราะการอดนอนหรือนอนดึกจะกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง และควรต้องออกกำลังกายเป็นประจำ รวมทั้งงดพฤติกรรมทำลายสุขภาพโดยเฉพาะการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ WHO หรือองค์กรอนามัยโลกยังแนะนำให้รับประทาน 3 สารอาหารสำคัญเป็นประจำต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างแข็งแรง สามารถต่อสู้กับเชื้อและสิ่งแปลกปลอม ได้แก่
วิตามินซี(Vitamin C) : เป็นวิตามินที่เสริมสร้างการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย
วิตามินดี(Vitamin D) : เป็นวิตามินที่ได้รับการพูดถึงมากขึ้นในช่วงที่มีการระบาดที่ผ่านมา โดยมีบทบาทสำคัญในขบวนการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เม็ดเลือดขาวตอบสนองต่อเชื้อโรค
และสิ่งแปลกปลอมได้ดีและมีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบ
แร่ธาตุสังกะสี(Zinc) : แร่ธาตุสำคัญต่อร่างกายช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น และกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว และมีส่วนช่วยในการป้องกันและยับยั้งเชื้อโรค รวมถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข