ต่อมลูกหมากโต โรคสำคัญของผู้ชายวัย 50+

ต่อมลูกหมากโต โรคสำคัญของผู้ชายวัย 50+

ต่อมลูกหมากโต โรคสำคัญของผู้ชายวัย 50+

     ผู้ชายยิ่งเมื่ออายุเพิ่มขึ้นก็จะพบกับความเสื่อมถอยต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงการลดลงของฮอร์โมนก็มากขึ้นไม่ต่างกับผู้หญิง ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา  มีการบันทึกสถิติเกี่ยวกับโรคในผู้ชายที่มีอายุมากขึ้นพบว่า โรคที่ผู้ชายไทยเป็นกันมากก็คือ ‘โรคต่อมลูกหมากโต’

  สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย

  ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostate Hyperplasia) คืออะไร?

  ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostate Hyperplasia) เกิดขึ้นได้อย่างไร

  อาการแบบไหนบ่งบอกว่า... กำลังเป็นโรคต่อมลูกหมากโต

  แนวทางการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

  สมุนไพร Saw Palmetto คืออะไร?

  สรรพคุณของสารสกัดจาก Saw Palmetto

ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostate Hyperplasia) คืออะไร?

     ต่อมลูกหมาก (Prostate gland) เป็นหนึ่งในต่อมไร้ท่อในเพศชาย อยู่ลึกบริเวณโคนอวัยวะเพศบริเวณอุ้งเชิงกราน โดยโรคต่อมลูกหมากโต เป็นโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของผู้ชาย เป็นภาวะของโรคที่ต่อมลูกหมากซึ่งอยู่บริเวณใต้กระเพาะปัสสาวะล้อมรอบท่อปัสสาวะมีขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติจนไปบีบท่อปัสสาวะให้ตีบแคบลง ส่งผลให้การปัสสาวะไม่ปกติ และหากมีอายุเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่โอกาสที่ผู้ชายจะเป็นโรคนี้ก็มากขึ้นตามไปด้วย

ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostate Hyperplasia) เกิดขึ้นได้อย่างไร

     แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถสรุปถึงสาเหตุของโรคนี้ แต่ก็สันนิษฐานว่าโรคนี้น่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับอายุของผู้ชายที่มากขึ้น จากหลักฐานและสถิติที่ทำการวิจัยพบว่า ผู้ชายกว่า 50% ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตจะมีอายุอยู่ในช่วง 60 ปีขึ้นไป

อาการแบบไหนบ่งบอกว่า... กำลังเป็นโรคต่อมลูกหมากโต

     โรคต่อมลูกหมากโต คือโรคในเพศชายที่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ ดังนั้นอาการที่ชัดเจนว่ากำลังเสี่ยงเป็นโรคนี้ก็จะแสดงออกมาผ่านความผิดปกติเกี่ยวกับการปัสสาวะ โดยเฉพาะอาการดังต่อไปนี้

  1.  ปัสสาวะขัด
  2.  ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน
  3.  กลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือต้องเบ่งปัสสาวะจนกว่าจะออก
  4.  ปัสสาวะไม่พุ่ง สะดุดเป็นช่วง ๆ มีปัสสาวะหยดเมื่อใกล้จะสุด ปัสสาวะไม่สุด
  5.  ปัสสาวะไม่ออกเฉียบพลัน
  6.  ปวดปัสสาวะรุนแรงมาก

Benign-Prostate-Hyperplasia

แนวทางการรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

     ถึงแม้โรคต่อมลูกหมากโตจะไม่สามารถชี้ถึงสาเหตุการเกิดขึ้นได้ชัดเจน แต่เมื่อเป็นโรคนี้แล้วผู้เชี่ยวชาญก็แบ่งแนวทางการรักษาเอาไว้ ดังนี้

1. การเฝ้าดูสังเกตอาการ

     ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกใช้วิธีนี้กับกรณีที่ต่อมลูกหมากโตแต่ยังไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่มาก และยังไม่มีอาการแทรกซ้อน สามารถใช้การรักษาแบบเฝ้าดูอาการเพื่อประเมินว่าต่อมลูกหมากที่โตนั้นได้สร้างปัญหาต่อสุขภาพมากเท่าไหร่ แล้วจึงค่อยเลือกวิธีการรักษาในวิธีอื่นต่อไป

2. การรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน

     เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยไปจนถึงปานกลาง  และต้องแน่ใจว่าไม่ได้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก  มีอยู่ 2 ชนิด ได้แก่

  • ยาที่ลดขนาดต่อมลูกหมาก

     ได้แก่ กลุ่มยาต้านเอนไซม์ 5-alpha reductase ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากมีขนาดโตขึ้น เมื่อให้ยาต้านเอนไซม์ชนิดนี้ก็อาจจะมีผลทำให้ต่อมลูกหมากมีขนาดเล็กลง แต่ยาในกลุ่มนี้อาจมีผลข้างเคียงเกี่ยวกับเรื่องความต้องการทางเพศลดลง นอกจากนี้อาจมีผลลดระดับสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากในเลือด (PSA หรือ Prostate Specific Antigen)  ทำให้ปิดบังภาวะมะเร็งต่อมลูกหมากได้

  • กลุ่มยาต้าน alpha

     เป็นยาลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบในเนื้อต่อมลูกหมาก ทำให้ความตึงตัวของต่อมลูกหมากลดลง จะทำให้การถ่ายปัสสาวะที่ดีขึ้น  แต่ยาในกลุ่มนี้อาจมีผลข้างเคียงทำให้ความดันโลหิตต่ำลง

3. การผ่าตัด

     แพทย์จะเลือกใช้วิธีการผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีอาการมากหรือมีภาวะแทรกซ้อน ซึ่งวิธีการผ่าตัดมีหลายแบบ แต่วิธีที่นิยมมากที่สุด คือการใส่เครื่องมือเข้าทางท่อปัสสาวะ และตัดต่อมลูกหมากออกทางปัสสาวะด้วยไฟฟ้า วิธีนี้เรียกว่า Transurethral resection of the prostate (TUR-P) หากต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่มาก จำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดผ่านหน้าท้อง

4. การรักษาโดยใช้ความร้อน

     ทำเพื่อให้เกิดความร้อนต่อเนื้อเยื่อของต่อมลูกหมาก โดยความร้อนจากแหล่งต่างๆ ได้แก่ คลื่นไมโครเวฟ  คลื่นวิทยุ (Radio Frequency) คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) หรือเลเซอร์ ความร้อนมีผลทำให้ต่อมลูกหมากเหี่ยวเล็กลง และท่อทางเดินปัสสาวะกว้างขึ้น เสียค่าใช้จ่ายสูง ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

5. การรักษาด้วยยาสมุนไพร 

     ในช่วงที่ผ่านมาการเลือกใช้ยาสมุนไพรบางชนิดมารักษาโรคต่อมลูกหมากโตเริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายมากยิ่งขึ้น เพราะถึงแม้ว่ายาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาจะมีประสิทธิภาพที่ดี แต่ก็ยังคงมีผลข้างเคียงสำคัญอยู่หลายอย่างต่อผู้ที่เป็นโรคนี้ เช่น ทำให้สมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงทำให้ความดันโลหิตต่ำ ดังนั้นจึงได้มีการนำยาสมุนไพรที่เรียกว่า Saw Palmetto ที่มีหลักฐานการศึกษาวิจัยทางการแพทย์มาใช้รักษาผู้ที่มีปัญหาต่อมลูกหมากโต

สมุนไพร Saw Palmetto คืออะไร?

     Saw Palmetto หรือที่เรียกในชื่อของ ‘ต้นปาล์มใบเลื่อย’ คือสมุนไพรที่ใช้สำหรับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตโดยเฉพาะ และเป็นสมุนไพรเก่าแก่ชนิดหนึ่งที่มีการศึกษามานานกว่า 200 ปี ได้รับการบรรจุในตำรายาสมุนไพรทั้งของอเมริกาและยุโรปได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมากที่สุด จากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ พบว่า มีประสิทธิภาพดีเทียบเท่ากับยาแผนปัจจุบัน มีความปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อคุณภาพชีวิต

สรรพคุณของสารสกัดจาก Saw Palmetto

  1.  ช่วยให้ผู้ที่มีภาวะต่อมลูกหมากโต ที่มีอาการน้อยหรืออาการปานกลาง มีอาการดีขึ้น และช่วยลดอาการถ่ายปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะออกได้ดีขึ้น ลดความถี่ในการต้องลุกขึ้นถ่ายปัสสาวะตอนกลางคืน
  2.  ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
  3.  มีความปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
  4.  ไม่มีผลต่อระดับสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากในเลือด
  5.  ไม่มีผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพและความต้องการทางเพศ
  6.  ไม่ทำให้ความดันเลือดต่ำ

Saw-Palmetto

     เมื่อทราบถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาปัญหาของภาวะต่อมลูกหมากโตไปแล้ว ดังนั้น ‘ต่อมลูกหมาก’ จึงเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่ผู้ชายควรจะต้องเอาใจใส่ หมั่นสังเกตความผิดปกติของการปัสสาวะ รวมถึงเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไปก็ควรจะต้องไปตรวจระบบทางเดินปัสสาวะกับแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจหาความผิดปกติ รวมถึงความเสี่ยงของภาวะต่อมลูกหมากโต เพื่อเป็นการป้องกัน และหากพบความเสี่ยงก็จะได้ทำการรักษาตั้งแต่ต้น เพื่อไม่ให้ลุกลามมากขึ้น...ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care

                                      

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้