หัวใจแข็งแรง ด้วยสารอาหารสำคัญ

โรคหัวใจ ดูเเล รักษา

หัวใจแข็งแรง ด้วยสารอาหารสำคัญ

‘หัวใจ’ อวัยวะสำคัญที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพัก มีหน้าที่สำคัญ คือ สูบฉีดเลือดให้ไปเลี้ยงร่างกายและสมอง  ถ้าหัวใจแข็งแรงก็ย่อมส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย ในทางกลับกันถ้าหัวใจทำงานหนัก หรือเกิดความเสียหาย อาจอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะ ‘โรคหัวใจ’ ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย

รู้ทัน ‘โรคหัวใจ’ อันตรายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

     โรคหัวใจ (Heart Disease) คือ โรคที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของหัวใจ สามารถแบ่งได้หลายกลุ่มโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคติดเชื้อบริเวณหัวใจ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจของคนไทยมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกปี โดยจากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน

     แม้ในอดีตโรคหัวใจจะเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันมีรายงานจำนวนมากที่พบว่าคนที่อายุยังน้อยหรือวัยรุ่นก็มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้

สาเหตุสำคัญของ ‘โรคหัวใจ’ (Heart Disease) 

     สาเหตุของโรคหัวใจนั้นเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยหลักด้วยกัน คือ ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนได้ เช่น อายุ เพศ และประวัติสุขภาพของคนในครอบครัว ส่วนอีกปัจจัยหนึ่ง คือ ปัจจัยที่สามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนได้ เช่น การสูบบุหรี่ ภาวะโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดสูง เป็นต้น

     ซึ่งการป้องกันโรคหัวใจควรเริ่มต้นจากการลดความเสี่ยงจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอันดับแรก ควบคู่ไปกับการเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อหัวใจในปริมาณที่เพียงพอ โดยสารอาหารที่ได้รับการยอมรับว่าดีต่อหัวใจ และช่วยบำรุงหัวใจ  ได้แก่

  โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10) 

     ‘โคเอนไซม์ คิวเทน’ มีความสำคัญมากในการสร้างพลังงานพื้นฐานของเซลล์ ทำให้เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำงานเป็นปกติ พบมากในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง โดยเฉพาะหัวใจ หากขาดโคเอนไซม์ คิวเทน จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานไปอย่างมาก ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจลดลง

     จากสรรพคุณของ โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10) หรือ Co Q10 ที่ให้ประโยชน์กับหัวใจในการช่วยผลิตพลังงาน ให้แก่ เซลล์ของอวัยวะต่างๆ แพทย์จึงมีการนำสารอาหารชนิดนี้มาใช้ดูแลบำรุงหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจคั่งเลือด (Congestive Heart Failure) อาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด (Angina Pectoris) โรคความดันโลหิตสูง โดยพบว่ามีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ดียิ่งขึ้น อาการของโรคหัวใจดีขึ้น ความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงลดลง และลดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงให้น้อยลงได้ โดยทั่วไปถ้ามีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง ควรได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน วันละ 100 มิลลิกรัม

  น้ำมันปลา (Fish Oil)

     ‘น้ำมันปลา’ ได้ชื่อว่าเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจอย่างมาก เพราะจัดว่าเป็นกรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty Acid) คือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งประกอบด้วย สารสำคัญ 2 ชนิด คือ EPA และ DHA

     จากรายงานการแพทย์จำนวนมากพบว่า น้ำมันปลามีผลในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากจะช่วยในการลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ป้องกันไม่ให้ไขมันเกาะติดที่ผนังหลอดเลือด รักษาความยืดหยุ่นและป้องกันหลอดเลือดอุดตัน อันเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคหัวใจตามมาในที่สุด    

   สารสกัดกุ้งขนาดเล็ก 

     คริลล์ออย (Krill oil) คือ สารอาหารที่สกัดออกมาในรูปแบบน้ำมันจากกุ้งทะเลขนาดเล็ก (Crustaceans) ที่อาศัยอยู่ในทะเลลึก โดยสารอาหารชนิดนี้จะอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-3 ซึ่งประกอบไปด้วย EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) นอกจากนี้คริลล์ออย (Krill oil)  ยังมีกรดไขมัน Omega-6 และ Omega-9 รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ Astaxanthin

     จากการเอกสารทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือได้พบว่า คริลล์ออย (Krill oil) มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล และไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยดูแลหัวใจและป้องกันหลอดเลือดอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไขมันอุดตันเส้นเลือดหัวใจและสมอง

  สารสกัดจากไขเปลือกอ้อย

     สารสกัดจากไขเปลือกอ้อย “โพลีโคซานอล” ทางเลือกใหม่จากธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการลดไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด 

     จากการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับองค์ความรู้ของการแพทย์ทางเลือก (Alternative Medicine) จนพบว่าสารสกัดจากธรรมชาติกลุ่มโพลีโคซานอล (Policosanol) ที่พบเฉพาะในไขเปลือกอ้อย มีสูตรโครงสร้างคล้ายยาลดไขมันในเลือด กลุ่ม Statin ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดไขมันคอเลสเตอรอลอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยลดระดับของไขมันคอเลสเตอรอลชนิดรวม (TC) และไขมันคอเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-Cholesterol) โดยปรับสมดุลการสร้างไขมันโคเลสเตอรอล และเสริมการทำงานของตับในการเผาผลาญไขมัน ส่งผลให้ระดับของไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง ช่วยสร้างไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-Cholesterol) ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยกระตุ้นตับให้สร้างไขมันคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-Cholesterol) มากขึ้น

     นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยปรับลดการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน ป้องกันภาวะหัวใจ และสมองขาดเลือดเฉียบพลันได้ และสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ถึง 3-4% ลดความเสี่ยงภาวะการอุดตันของเกล็ดเลือดได้ถึง 50 %

  เลซิติน (Lecithin) 

     เลซิติน (Lecithin) คือ สารประกอบระหว่างกรดไขมันจำเป็น ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 2 ตัว ได้แก่ โคลีน(Choline) และอิโนซิตอล (Inositol) สามารถพบเลซิตินได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ สำหรับร่างกายของมนุษย์นั้น จะพบมากในอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับ ไต และสมอง  เป็นต้น

     เลซิติน มีคุณสมบัติช่วยทำให้ไขมันโคเลสเตอรอลและน้ำรวมตัวกันได้ดีขึ้น ส่งผลให้ไขมันโคเลสเตอรอลไม่เกาะติดกับผนังเส้นเลือดจนเกิดการอุดตัน สาเหตุสำคัญของการเกิดหลอดเลือดอุดตัน โรคสมองและหัวใจขาดเลือด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มระบบไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ช่วยป้องกันไขมันโคเลสเตอรอลสูงในเลือด โดยช่วยเพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมันของตับ ส่งผลให้ร่างกายมีการนำไขมันไปใช้เป็นพลังงานได้ดีขึ้น

     นอกจากนั้นเลซิตินยังมีส่วนช่วยลดการดูดซึม และเพิ่มการขับถ่ายไขมันโคเลสเตอรอลทางอุจจาระ  ส่งผลในการช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลได้

  น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil)

     กระเทียม (Garlic) สมุนไพรที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี และเป็นสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมาย ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องและเป็นที่แพร่หลาย แต่บางคนอาจไม่ชอบเนื่องจากมีกลิ่นที่ฉุนหรือรับประทานแล้วทำให้เกิดกลิ่นปาก แต่ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าในปัจจุบันจึงได้มีการนำเอากระเทียมสดมาสกัดเพื่อให้ได้ น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) ที่สามารถรับประทานได้ง่าย สะดวกยิ่งขึ้น และที่สำคัญมีสารประกอบที่ให้คุณค่ากับสุขภาพได้อย่างเข้มข้นมากกว่า

     น้ำมันกระเทียม มีสารประกอบซัลเฟอร์และอัลลิซินที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากระดับไขมันในเลือดสูงที่มีสาเหตุจากไขมันสะสมที่หลอดเลือดมากเกินไป รวมทั้งยังมีส่วนช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด โดยไขมันโคเลสเตอรอลเป็นสาเหตุหลักของการเกิดการอุดตันของเส้นเลือด

     จากการศึกษาวิจัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศพบว่าให้ประโยชน์ในการช่วยลดความดันโลหิตตัวบน (ความดันที่เกิดขึ้นขณะหัวใจบีบตัวไล่เลือดออกจากหัวใจ) ได้ถึง 7.7 มิลลิเมตรปรอท และลดความดันโลหิตตัวล่าง (ความดันของเลือดที่ค้างอยู่ในหลอดเลือด ขณะหัวใจคลายตัว) ได้ถึง 5 มิลลิเมตรปรอท 

     นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ถึง 16-40% ซึ่งได้มาจากผลการวิจัยที่ทำขึ้นกับกลุ่มทดลองของผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 553 คน (ข้อมูจาก :  https://www.spandidos-publications.com/10.3892/etm.2019.8374)

     ‘หัวใจ’ เป็นอวัยวะสำคัญที่มีเพียงดวงเดียว และเชื่อมโยงกับทุกระบบของร่างกาย หากหัวใจหยุดทำงานนั่นหมายถึงการสิ้นสุดชีวิตของเราด้วยเช่นกัน ดังนั้นอย่าปล่อยให้หัวใจเกิดปัญหารีบดูแลและป้องตั้งแต่ยังไม่เกิดโรค อย่ารอให้สายเกินแก้ ด้วยความห่วงใยจาก… Mega We care

ขอบคุณข้อมูลจาก: 
โรงพยาบาลนครธร (https://shorturl.asia/AYJ56)
โรงพยาบาลวิชัยเวท (https://shorturl.asia/chxWN)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้