ไขข้อสงสัยเลือกคอลลาเจนผิวอย่างไรให้ผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ไร้ริ้วรอย

ไขข้อสงสัยเลือกคอลลาเจนผิวอย่างไรให้ผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ไร้ริ้วรอย

    ปัจจุบันในท้องตลาดมีการผลิตคอลลาเจนบำรุงผิวในรูปแบบต่างๆ ออกมามากมาย อีกทั้งยังอวดอ้างสรรพคุณที่ดูเกินจริง เช่น ขาวใสภายใน 7 วัน, ไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน, จึงทำให้หลายคนหลงซื้อมาเพื่อหวังผลลัพธ์อย่างที่กล่าวอ้าง ซึ่งทำให้อาจจะต้องพิจารณาการเลือกซื้อให้มากขึ้นกว่าเดิม 

    การเลือกคอลลาเจนสำหรับผิว ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างในการตัดสินใจเลือกซื้อเพราะเป็นสิ่งที่ต้องรับเข้าสู่ร่างกาย ที่สำคัญต้องเลือกคอลลาเจนให้ถูกชนิด เพราะคอลลาเจนมีหลากหลายประเภท ดังนั้นเราต้องดูคอลลาเจนที่เหมาะสมและให้ประโยชน์กับผิวของเรามากที่สุด

   สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย

   คอลลาเจน (Collagen) คืออะไร

   คอลลาเจนมีกี่ชนิด ?

   คอลลาเจน (Collagen) มีความสำคัญอย่างไรกับผิว  ?

  ไม่ใช่คอลลาเจนอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็น “คอลลาเจนสำหรับผิว” โดยเฉพาะ

  3 วิธีการเลือกซื้อคอลลาเจนสำหรับผิว ให้ได้ประโยชน์ครบครันและเต็มประสิทธิภาพ

  คอลลาเจนกินตอนไหนดีที่สุด ?

คอลลาเจน (Collagen) คืออะไร

   คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีมากที่สุดในร่างกายของเรา พบในร่างกายมากถึง 70%คอลลาเจนจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของเนื้อเยื่อต่างๆ มีความเหนียวและแข็งแรง ให้แก่อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย

    นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของผิวหนัง โดยเฉพาะชั้นหนังแท้ (Dermis) พบมากถึง 90% นอกจากนี้ยังพบใน ผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น  ผนังหลอดเลือดดังนั้นหากขาดคอลลาเจนไปเซลล์ในร่างกายจะเชื่อมต่อกับเนื้อเยื่อไม่สมบูรณ์ จึงส่งผลให้อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายอ่อนแอและเสื่อมสภาพลง     

คอลลาเจนมีกี่ชนิด ?

   คอลลาเจนมีหลากหลายประเภทและมีความแตกต่างกันไปตามหน้าที่ในร่างกาย  แต่คอลลาเจนที่สำคัญและพบบ่อยในร่างกายจะมี 2 ชนิด ได้แก่ Type I, II

  คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) เป็นคอลลาเจนที่มีมากที่สุดในร่างกายพบในผิวกว่า 90% และยังพบในเส้นเอ็น และหลอดเลือด คอลลาเจนชนิดนี้มีความสำคัญในการช่วยให้โครงสร้างของผิวแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื้อไม่ให้ฉีกขาด และช่วยสมานแผลบนผิวหนังได้ดี ดังนั้นจึงเป็นคอลลาเจนที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลผิวพรรณ

   คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen type II)  เป็นคอลลาเจนชนิดเดียวกับที่พบในเซลล์กระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อทำหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน และช่วยเพิ่มระดับของกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำหล่อเลี้ยงในข้อ ดังนั้นจึงเป็นคอลลาเจนที่เหมาะสำหรับการบำรุงกระดูกและข้อ 

คอลลาเจน (Collagen) มีความสำคัญอย่างไรกับผิว  ?

    ช่วงวัยอายุ 25ปี จะเป็นช่วงที่มีการสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ และ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการผลิตคอลลาเจนก็จะลดลง ร่างกายก็จะเกิดการเสื่อมสภาพและเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะเรื่องของผิวพรรณ ซึ่งสามารถเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งส่งผลให้ผิวพรรณขาดความกระชับ เกิดความหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และเกิดความหมองคล้ำ

  สำหรับปัจจัยภายใน เกิดจากการทำงานของโครงสร้างผิวหนังที่เสื่อมสภาพและอ่อนแอลง จึงทำให้ชั้นหนังแท้ (Dermis) เริ่มสูญเสียเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแรงและยืดหยุ่นของผิวหนัง จึงทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เกิดริ้วรอย เป็นร่องและไม่เรียบเนียน 

  สำหรับปัจจัยภายนอก เกิดจากแสงแดด มลภาวะ ฝุ่น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ล้วนเป็นตัวทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังและเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ จึงทำให้โครงสร้างผิวเริ่มเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้ผิวหย่อนคล้อยและมีริ้วรอย นอกจาก แสงแดด มลภาวะ ฝุ่น แล้ว ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่จัด หรือแม้แต่การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ก็จะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังถูกทำลาย ผิวจึงหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่นและทำให้ดูแก่กว่าวัย อีกทั้งยังส่งผลให้ผิวแห้ง และสีผิวไม่สม่ำเสมอด้วย

  “ เพราะสุขภาพผิวที่ดีต้องเริ่มมาจากสุขภาพภายในที่ดี ” ดังนั้นวิธีที่จะทำให้ผิวพรรณกลับคืนสู่ความวัยเยาว์ กระชับ เต่งตึง ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และไร้ริ้วรอย ก็คือการเพิ่ม “คอลลาเจน” ให้กับผิว  

ไม่ใช่คอลลาเจนอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็น “คอลลาเจนสำหรับผิว” โดยเฉพาะ 

    คอลลาเจนที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับสำหรับการดูแลผิวโดยเฉพาะ ควรเป็น คอลลาเจนไฮโดรไลเซต (Collagen Hydrolysate) หรือ เรียกอีกอย่างว่า คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen peptide)ที่ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีขนาดและความยาวสั้นลง ซึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลใกล้เคียงคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังของมนุษย์มากที่สุด  ซึ่งโครงสร้างคอลลาเจนในผิวของมนุษย์นั้น จะประกอบด้วยกรดอะมิโนเรียงตัวต่อกัน 3 ชนิด หรือที่เรียกกันว่า ไตรเปปไทด์ และเรียงต่อกันเป็นสายเกรียวยาวๆ (Poly-peptide) จนเกิดเป็นชั้นคอลลาเจนและชั้นหนังแท้ตามมา 

   นอกจากนี้ คอลลาเจนไฮโดรไลเซตมีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดี จึงช่วยให้ร่ายกายดูดซึมและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างของผิวให้แข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

3 วิธีการเลือกซื้อคอลลาเจนสำหรับผิว ให้ได้ประโยชน์ครบครันและเต็มประสิทธิภาพ

  เลือกคอลลาเจนชนิด “คอลลาเจน ไฮโดรไลเชต” คอลลาเจน ไฮโดรไลเชต ที่อยู่ในรูปแบบเหมือนโครงสร้างผิวคน มีกรดอะมิโนที่ครบ หรือที่เป็นรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Bioactive collagen peptide จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี จึงช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

  เลือกคอลลาเจน ที่มีผลการวิจัยรับรองทางการแพทย์ การเลือกคอลลาเจนที่มีผลการวิจัยทางการแพทย์รองรับ มีผลการศึกษาวิจัยด้านผิวพรรณโดยเฉพาะ จะทำให้มั่นใจในประสิทธิภาพของการบำรุงผิวด้วยคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ และทราบถึงปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงระยะเวลาที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประโยชน์ตามที่ต้องการ

ตัวอย่างผลการศึกษาของคอลลาเจน ไฮโดรไลเซต ที่มีต่อผิว
   E. PROKSCH และคณะศึกษาประสิทธิภาพของ คอลลาเจน ไฮโดรไลเซต (VERISOL®) เมื่อรับประทาน วันละ 2.5 กรัม ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานในผู้หญิงอายุ 45-65 ปี จำนวน 114 คน พบว่า การรับประทาน VERISOL® 2.5 g.  วันละ 1 ครั้ง จะช่วยลดริ้วรอย เพิ่มปริมาณคอลลาเจนและอีลาสตินได้อย่างมีนัยสำคัญ

  ดังนั้นการรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจไม่จำเป็น เพราะปริมาณคอลลาเจน ไม่ได้บ่งบอกถึงประสิทธิภาพ แต่ควรเลือกคอลลาเจนที่มีการรองรับทางการแพทย์ตามปริมาณที่เหมาะสม

  เลือกคอลลาเจน ที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล ควรเลือกคอลลาเจน ที่ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน เพราะจะมีการควบคุมคุณภาพ ความบริสุทธิ์ของวัตถุดิบที่ใช้ การควบคุมสารปนเปื้อน แต่หากเป็นโรงงานผลิตที่ไม่ได้มีการควบคุมคุณภาพ นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์จากการรับประทานแล้ว อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ได้

คอลลาเจนกินตอนไหนดีที่สุด ?

   ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับประทานนั้นไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการดูดซึม แต่จะมีผลดีเมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน และเลือกในรูปแบบที่เหมาะสม ดังเช่นตามงานวิจัยระบุว่า ควรเลือกในรูปแบบพิเศษ หรือ Bioactive collagen peptide รับประทานอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

  จะเห็นได้ว่าคอลลาเจนมีอยู่ทั่วร่างกาย และมีความสำคัญต่อระบบต่างๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะด้านผิวดังนั้นการเสริมคอลลาเจนให้กับผิวจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถช่วยฟื้นฟูและชะลอวัยผิวให้กลับมามี ประสิทธิภาพ และดูอ่อนเยาว์ในแบบที่เคยเป็น  

   คงจะได้ทราบหลักการเลือกซื้อคอลลาเจนบำรุงผิวที่ถูกต้องกันเป็นอย่างดีแล้ว อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ลดเครียด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นกินผักผลไม้ที่มีกากใย ดื่มน้ำให้มากขึ้น ควบคู่กับการรับประทานคอลลาเจน ก็จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพให้ดีมากยิ่งขึ้น เพียงแค่นี้คุณก็จะมีสุขภาพผิวที่ดี กระชับ เต่งตึง ไร้ริ้วรอย ชุ่มชื้น แลดูอ่อนเยาว์เหมือนที่เคย เรียกได้ว่าสุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอก ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.fordays.co.th/r-and-d/collagen.html
https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0727/collagen
https://shorturl.asia/6Gu98 
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24401291/
https://www.healthline.com/nutrition/how-much-collagen-per-day#dosage

            

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้