เมื่อต้องออกเดินทางไปท่องเที่ยว หรือไปยังสถานที่ซึ่งไม่คุ้นชิน มักจะเกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่างที่ไม่คาดคิด ทำให้ทริปการเดินทางที่แสนสนุก กลับต้องหยุดชะงัก ซึ่งหนึ่งปัญหาสุขภาพที่คนเดินทางส่วนใหญ่มักจะเจอคือ อาการท้องเสียเฉียบพลันหรือ ‘โรคท้องเสียระหว่างเดินทาง’ (Traveler’s Diarrhea) ฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ
ถึงแม้อาการท้องเสียจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย ยิ่งหากเกิดท้องเสียระหว่างการเดินทาง ท่ามกลางรถติด จากปัญหาท้องเสียธรรมดาอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของวันได้ และคงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากต้องแวะเข้าห้องน้ำตลอดการเดินทาง
ปัญหาท้องเสียระหว่างเดินทาง โดยส่วนใหญ่เกิดจาก “การติดเชื้อในลำไส้” ซึ่งมีสาเหตุจากการรับประทานอาหารและน้ำที่ไม่สะอาดหรือปนเปื้อนเชื้อโรค รวมถึงการล้างมือไม่สะอาดหลังเข้าห้องน้ำ เมื่อหยิบจับอาหารหรือดื่มน้ำอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และขั้นตอนการปรุงอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยกว่าร้อยละ 90เป็นได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิต ซึ่งท้องเสียจากการติดเชื้อมักเป็นอาการท้องเสียแบบเฉียบพลัน
อาการท้องเสียระหว่างเดินทาง หรืออุจจาระร่วงเฉียบพลัน เป็นอาการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำมากกว่าปกติ โดยติดต่อกันสามครั้งขึ้นไปต่อวัน และมักจะมีอาการปวดบิดในท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย หากมีอาการตามที่กล่าวไป สามารถรักษาตัวเองเบื้องต้นได้ ดังนี้
จิบน้ำผสมผงเกลือแร่ (ORS) เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
ควรรับประทานอาหารประเภทอ่อน รสไม่จัด และย่อยง่าย เพื่อลดการทำงานของลำไส้
พักผ่อนให้เพียงพอ และงดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก ๆ
แต่ในกรณีที่ถ่ายเหลวเป็นมูกเลือด หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และมีไข้สูงเกินกว่า 38.5 องศาเซลเซียส ควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
อย่างที่ทราบกันดีว่าปัญหาท้องเสียระหว่างการเดินทาง โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ดังนั้นการเลือกรับประทานที่ถูกหลักอนามัย เป็นปัจจัยสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องเสีย
เลือกรับประทานอาหารจานร้อน หรืออาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ
ดื่มน้ำจากขวดที่ปิดสนิท ไม่ดื่มน้ำดื่มจากก๊อกสาธารณะ หรือจากขวดที่ไม่แน่ใจเรื่องความสะอาด
ล้างมือให้สะอาดหลังการเข้าห้องน้ำ และก่อนรับประทานอาหาร
เลี่ยงอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ และอาหารที่ไม่คุ้นเคย
แต่อย่างไรก็ตามในการเดินทางอาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากการระมัดระวังอาการท้องเสียด้วยตัวเองแล้ว ควรมีตัวช่วยที่ป้องกันและรักษาอาการท้องเสียพกติดตัวไว้ ซึ่งในปัจจุบันมีทางเลือกในการป้องกันและรักษาที่ปลอดภัย และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันด้วยการใช้ “โปรไบโอติกส์ ยีสต์” หรือจุลินทรีย์ชนิดดี ที่เป็นมิตรกับระบบขับถ่าย และที่สำคัญมีความปลอดภัยกว่าการใช้ยาอีกด้วย
โปรไบโอติกส์ ยีสต์ (Probiotic Yeast) หรือ โปรไบโอติกส์ กลุ่มแซคาโรไมซิส (Saccharomyces boulardii) มีคุณสมบัติเฉพาะในการรักษาอาการท้องเสียเฉียบพลัน และสามารถป้องกันการเกิดท้องเสียระหว่างเดินทาง (Traveler’s diarrhea prevention) ซึ่งจะทำหน้าที่ต่อต้านเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสียช่วยให้ลำไส้ต่อสู้กับเชื้อโรค หรือลดการอักเสบและความเสียหายต่อลำไส้ ซึ่งมีความปลอยภัยกว่าการใช้ยาปฎิชีวนะ และสามารถใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย แนะนำให้รับประทาน โปรไบโอติกส์ ยีสต์ ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง 5 วัน จะช่วยป้องกันปัญหาท้องเสียระหว่างเดินทางได้
เห็นแล้วว่าปัญหาสุขภาพระหว่างการเดินทาง สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอาการ “ท้องเสีย” แต่ความกังวลใจจะลดลงได้ หากเรารู้จักเตรียมพร้อมและป้องกันในขณะเดินทางอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากการใส่ใจในเรื่องสุขอนามัยแล้ว การมี “โปรไบโอติกส์ ยีสต์” ติดตัวไว้ก็เป็นทางเลือกที่จะช่วยลดอาการท้องเสียระหว่างเดินทางให้เบาบางลง รวมทั้งป้องกันการเกิดอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทริปท่องเที่ยวของคุณเต็มไปด้วยความสนุก และประสบการณ์ที่น่าจดจำ ด้วยความห่วงใยจาก…Mega We care