ในยุคปัจจุบันต้องพบเจอทั้งปัญหาโรคระบาด มลพิษรอบตัว รวมถึงสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป และความเสื่อมที่เพิ่มขึ้นตามอายุ ทำให้หลายคนตระหนักและเห็นความสำคัญในการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีการดูแลสุขภาพที่หลายคนไว้วางใจ คือ การเลือกใช้สมุนไพรธรรมชาติ เพราะมีความปลอดภัยและส่งผลดีต่อร่างกายในระยะยาว ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงสมุนไพรไทย แต่สมุนไพรจากต่างประเทศบางชนิดก็มีสรรพคุณทางยา และมีประสิทธิภาพเทียบเท่าสมุนไพรของไทยเช่นกัน
ครั้งนี้ Mega We care จึงขออาสาพาทุกคนมาเรียนรู้ถึงเรื่องราวและสรรพคุณของสมุนไพรทั้งไทยและเทศแบบเจาะลึก เพื่อเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้รักษาและบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมุนไพรฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่ถูกบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีสารสำคัญคือ สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ลดการอักเสบ ลดไข้ และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย จากสรรพคุณที่กล่าวมาทำให้คนจำนวนมากหาซื้อสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นหนึ่งโรคที่เกิดจากการติดเชื้อบริเวณทางเดินหายใจจนทำให้สินค้าขาดตลาดเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม แม้ฟ้าทะลายโจรจะเป็นพียงสมุนไพรแต่ก็ควรศึกษาก่อนรับประทาน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่มีอาการหวัด เช่น ไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก สามารถรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรให้ได้สารแอนโดรกราโฟไลด์ 60 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันไม่เกิน 3-5 วัน
สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดที่อาการไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการ สามารถรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายให้ได้สารแอนโดรกราโฟไลด์ วันละ 180 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน แต่ต้องระวังการใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และผู้ใช้ยาลดความดันและต้านเกล็ดเลือด
ปัจจุบันในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรหลากหลายยี่ห้อ ก่อนเลือกซื้อควรพิจารณาข้อมูลที่สำคัญให้ถี่ถ้วน โดยควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทลายโจรในรูปแบบแคปซูลที่เป็น ‘สารสกัด’ ดีกว่า ‘ผงบด’ เพราะจะให้ปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ ครบถ้วน และเข้มข้น ทำให้ไม่ต้องรับประทานครั้งละหลายเม็ด และยังมีผลข้างเคียงต่ำกว่า เมื่อเทียบกับแบบผงบด และที่สำคัญควรเลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐาน ระบุปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ไว้อย่างชัดเจน และผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP มาตรฐานยาระดับโลก เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย
ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อสมุนไพรชนิดนี้กันมาบ้างด้วยสรรพคุณทางยาที่สำคัญ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการักษาด้วยงานวิจัยเกือบ 300 ฉบับรวมถึงมีความปลอดภัย ในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เป็นต้น แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า เอ็กไคนาเซีย ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาและป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะโรคหวัด มานานกว่า 100 ปี และเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในแถบทวีปยุโรปและอเมริกา
สมุนไพรเอ็กไคนาเซีย มีฤทธิ์ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการดักจับสิ่งแปลกปลอม เพิ่มการผลิตที-เซลล์ (T-Lymphocyte) เพื่อต่อสู้สิ่งแปลกปลอมมากขึ้น ช่วยลดความรุนแรง ระยะเวลาในการเป็นหวัด และยังลดความรุนแรงของอาการ ไอ เจ็บคอ คันคอ ได้ถึง 24% ซึ่งการเลือกใช้สมุนไพรเอ็กไคนาเซียแทนการใช้ยาปฎิชีวนะ จะช่วยลดการเกิดภาวะดื้อยาและลดผลข้างเคียงต่อการใช้ยา รวมถึงลดโอกาสที่ตับจะถูกทำลายเนื่องจากต้องทานยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
หนึ่งสมุนไพรที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี และเป็นสมุนไพรที่ชาวเอเชียให้การยอมรับและได้รับการขนานนามว่าเป็น “Wonder of drugs” หรือมหัศจรรย์แห่งสมุนไพร เนื่องจากสารสำคัญในขมิ้นชันมีสรรพคุณในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆมากมาย
สารสำคัญ เคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid) ในขมิ้นชัน มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบจึงเป็นที่นิยมในการนำมาใช้เพื่อรักษาแผลในทางเดินอาหาร และลดอาการอักเสบของข้อ นอกจากนี้ขมิ้นชันยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ลดการจับตัวและการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส จึงช่วยลดโอกาสการติดเชื้อรุนแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ รวมถึงยังช่วยชะลอความเสื่อมที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายได้
ด้วยคุณประโยชน์นานัปการ ทำให้มีการนำเอาขมิ้นมาสกัดอยู่ในรูปแบบของไฟโตโซม ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็วกว่ารูปแบบทั่วไป ส่งผลให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารสกัดขมิ้นชันอย่างเต็มประสิทธิภาพ
กระเทียม สมุนไพรคู่ครัวคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากจะนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงประกอบอาหารแล้ว หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ากระเทียมได้ถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรคมานานกว่า 3,000 ปี เพราะกระเทียมอุดมไปด้วยสาระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีแค่เฉพาะในกระเทียมเท่านั้น ไม่สามารถหาจากสมุนไพรชนิดอื่นได้
กระเทียมมีสารสำคัญ อัลลิซิน (Allicin) ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวให้เพิ่มขึ้น เมื่อเม็ดเลือดขาวมีจำนวนมากขึ้นก็สามารถช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาได้ดี จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงส่งผลให้อาการของผู้ที่เป็นหวัดและภูมิแพ้ลดลง นอกจากนี้น้ำมันกระเทียมยังช่วยลดระดับไขมันโคเลสเตอรอลรวมและไขมันโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-cholesterol) โดยไขมันโคเลสเตอรอลเป็นสาเหตุหลักของการอุดตันของเส้นเลือด รวมทั้งยังมีส่วนช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย
แม้จะมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่การรับประทานกระเทียมสดอาจไม่สะดวก เพราะมีกลิ่นฉุน หากกินเยอะอาจทำให้มีกลิ่นปาก ซึ่งในปัจจุบันได้มี ‘น้ำมันกระเทียมสกัด’ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ เพื่อให้รับประทานได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังคงคุณค่าของสารสำคัญได้มากกว่ากระเทียมสดอีกด้วย
แม้สมุนไพรทั้ง 4 ชนิดที่กล่าวไปจะมีประโยชน์และสรรพคุณมากมายต่อร่างกาย แต่อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี คือการใส่ใจดูแลตัวอยู่เสมอ เพราะไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน ล็อกดาวน์หรือคลายล็อกดาวน์ เรายังต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังอย่างเสมอ ควบคู่กับการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพ ด้วยความห่วงใยจาก….Mega We care