เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนอยากมี ผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย กระชับ และดูหน้าเด็กไปตลอดกาล แน่นอนว่ามีเคล็ดลับและวิธีการดูแลมากมายในโลกออนไลน์ที่เหล่าคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ได้แนะนำเอาไว้ ซึ่งวิธีส่วนใหญ่ต้องอาศัยความอดทนและความสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดี แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบไม่สามารถทำได้ทุกสเต็ป หรือดูแลได้ครบทุกขั้นตอน การมองหาตัวช่วยที่จะย่นระยะเวลา และแก้ปัญหาจากภายในจึงเป็นทางเลือกที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้มากที่สุด  

     ครั้งนี้ Mega We care จึงได้รวบรวม 3 ตัวช่วยที่จะแก้ทุกปัญหาผิวที่คุณกังวลไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยก่อนวัย หรือผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ที่มีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวพรรณมาแนะนำ ดังนี้

  สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย

  คอลลาเจนสำหรับผิวโดยเฉพาะ ตัวช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างตรงจุด

  บอกลาทุกปัญหาริ้วรอย ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ King of Anti-oxidant

  จบทุกปัญหาความหมองคล้ำด้วย กลูต้าไธโอนจากธรรมชาติ เพื่อผิวขาวใสจากภายใน

3 ตัวช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ หน้าหย่อนคล้อย รอยตีนกา แบบไม่ง้อคลินิก !

คอลลาเจนสำหรับผิวโดยเฉพาะ ตัวช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างตรงจุด

     อย่างที่ทราบกันดีว่า คอลลาเจน (Collagen) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของผิวหนัง ซึ่งจะทำหน้าที่เปรียบเสมือนกาวเชื่อมกับเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้ผิวตึงกระชับ โดยกว่าร้อยละ 90 ของโครงสร้างชั้นผิวหนังทั้งหมด โดยเฉพาะชั้นหนังแท้ (Dermis) ประกอบด้วยคอลลาเจนถึง 70 % และอีลาสตินอีก 5% แต่เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนในผิวหนังจะลดลงโดยอัตโนมัติ โดยเฉลี่ยลดลงปีละประมาณ 1.5% ส่งผลให้ชั้นผิวหนังบางลงและสูญเสียความยืดหยุ่น นำไปสู่ความหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้ในที่สุด นอกจากความเสื่อมตามอายุแล้ว ปัจจัยภายนอกก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวเกิดการสลายตัวได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ การได้รับรังสียูวี รวมไปถึงมลพิษต่างๆ เป็นต้น

     ดังนั้นจึงควรเติมเต็มคอลลาเจนกลับคืนสู่ผิวอยู่เสมอ แต่การบำรุงผิวจากภายนอกเพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ การบำรุงจากภายในด้วยการเลือกทานคอลลาเจนจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่แนะนำ ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดมีคอลลาเจนมากมายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนบำรุงข้อ บำรุงผิว หรือบำรุงได้ทั้งข้อและผิวในหนึ่งเดียว แต่ทราบหรือไม่ว่า ชนิดของคอลลาเจน ในแต่ละส่วนของร่างกายนั้นมีความแตกต่างกัน   

     สำหรับการเลือกคอลลาเจนเพื่อดูแลผิว บำรุงผิว ควรเลือกคอลลาเจนสำหรับผิวโดยเฉพาะ ที่อยู่ในรูปแบบเหมือนโครงสร้างผิวคน มีกรดอะมิโนที่ครบถ้วน หรือที่เป็นรูปแบบพิเศษที่เรียกว่า Bioactive collagen peptide หรือ Verisol® ซึ่งเป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการวิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้คอลลาเจนที่มีขนาดเล็ก มีความยาวสั้นลง ทำให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ร่างกายนำไปใช้ซ่อมแซมเซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวมีคอลลาเจนและอีลาสตินที่ดี ส่งผลให้ผิวยืดหยุ่น คงความกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์เหมือนผิวเด็ก อีกทั้งยังป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ  (คลิกอ่านไขข้อสงสัยเลือกซื้อคอลลาเจนอย่างไรเพิ่มเติมที่นี่ )

 Ref: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/24401291/

บอกลาทุกปัญหาริ้วรอย ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ King of Anti-oxidant

     ริ้วรอยคือหนึ่งในปัญหาผิวที่เป็นเหมือนสัญญาณเตือนเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยจะเริ่มเกิดตั้งแต่อายุ 25 ปี ซึ่งจะเห็นเป็นริ้วรอยตื้นๆ และยิ่งชัดเป็นร่องลึกเมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาริ้วรอยที่หลายคนเลือกใช้ คือการฉีดโบท็อกซ์ และร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้า เพราะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ แต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ลังเลเพราะกังวลในผลข้างเคียงที่อาจตามมา 

     แต่ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาริ้วรอยที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นวิธีการดูแลที่หลายคนไว้วางใจ คือ การดูแลจากภายในด้วย “แอสต้าแซนธิน” หรือที่บางคนเรียกว่า “สารต้านแก่” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงกว่าวิตามินซี วิตามินอี ชาเขียวและเบต้าเคโรทีน จึงถูกขนานนามให้ “King of Antioxdant” ที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งเซลล์ผิว ชะลอความเสื่อม ช่วยยืดอายุเซลล์ผิวให้มีความแข็งแรง บำรุงผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นที่ดี ริ้วรอยลดลง เหมือนได้ย้อนอายุผิวกลับมาอีกครั้ง  และยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากความเสื่อมของผิวได้อีกด้วย

     จากคุณประโยชน์ที่กล่าวไปทำให้ แอสต้าแซนธีน กลายมาเป็นที่ยอมรับกันในวงการเวชศาสตร์การชะลอวัย และในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ที่หยิบเอา แอสต้าแซนธีน มาเป็นองค์ประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ แต่ก่อนเลือกซื้อควรพิจารณาข้อมูลสำคัญอย่างถี่ถ้วน โดยควรเลือกแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์มีงานวิจัยรองรับ และมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานการผลิตยาระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าไร้สารปนเปื้อน  (คลิกอ่านริ้วรอยบนใบหน้า ปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขเพิ่มเติมได้ที่นี่)   

จบทุกปัญหาความหมองคล้ำด้วย กลูต้าไธโอนจากธรรมชาติ เพื่อผิวขาวใสจากภายใน

     ปัญหาผิวหมองคล้ำไม่ใช่แค่เพียงพันธุกรรม เพราะในปัจจุบันคนที่มีผิวขาวก็สามารถเจอปัญหานี้ได้ เนื่องจากความแข็งแรงของเซลล์ผิวและความสามารถในการผลิตเม็ดสีเมลานินในร่างกายไม่สมดุล รวมไปถึงสภาวะแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการถูกรังสียูวีจากแสงแดดเป็นเวลานานจะกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มีสีน้ำตาลในปริมาณที่เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับรังสียูวีมากจนเกินไป ดังนั้นเมื่อผิวมีเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้สีผิวคล้ำหรือดำขึ้นได้

     สำหรับสาวๆที่อยากมีผิวขาวใส หากลองไปค้นหาตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ เชื่อว่าต้องมีชื่อ กลูต้าไธโอน(Glutathione) เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ซึ่งปัจจุบันในท้องตลาดมีกลูต้าไธโอนอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเม็ด หรือการฉีดเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งการฉีดกลูต้าไธโอนมีความเสี่ยง อาจทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง และหากได้รับในปริมาณมากจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ และในขณะเดียวกันได้มีงานวิจัยที่พบว่า การรับประทานกลูต้าไธโอนในรูปแบบเม็ดไม่ได้มีผลดีและมีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะสารกลูต้าไธโอนจะไม่สามารถถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหารแต่จะถูกย่อยสลายและขับออกทางลำไส้ 

     ดังนั้นทั้งการรับประทานกลูต้าไธโอนแบบเม็ด และการฉีดจึงไม่ได้รับประโยชน์และอาจส่งผลทำให้อันตรายถึงชีวิตได้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เลือกรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างกลูต้าไธโอน (Glutathione) ตามธรรมชาติ ซึ่งสารอาหารที่ได้รับการยอมรับว่าดีต่อผิวและช่วยให้ผิวขาวใสได้อย่างปลอดภัย

 3 สารอาหารสูตรธรรมชาติ ให้กลูตาไธโอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ได้แก่

  แอล-ซีสเทอีน (L-Cysteine) กรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างการสร้างเองได้ แต่มีปริมาณน้อย และสามารถได้เพิ่มจากการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ชีส กระเทียม หัวหอม เป็นต้น

  มีหน้าที่สร้างกลูต้าไธโอน  ที่ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้

  กระตุ้นการสร้างเม็ดสีฟีโอเมลานิน (เม็ดสีที่พบในคนผิวขาว)

  ยั้บยั้งการทำงานเอ็มไซม์ไทโรซิเนส (หากทำงานมากเกินไปจะทำให้สีผิวดูเข้มขึ้น)

  Amla extract (สารสกัดมะขามป้อม) เป็นแหล่งที่อุดมด้วย “วิตามินซีสูง”มากกว่าผลไม้หลายชนิด มีบทบาทเป็นสารต้านอนุมุลอิสระที่เป็นที่รู้จักและนิยมกันดี 

  ยั้บยั้งการทำงานเอ็มไซม์ไทโรซิเนส (หากทำงานมากเกินไปจะทำให้สีผิวดูเข้มขึ้น)

  เสริมประสิทธิภาพการทำงานของ L-Cysteine

  Grape seed extract (สารสกัดเมล็ดองุ่น) มีสาระสำคัญที่ชื่อ โอลิโกเมอริค โปรแอนโธไซยานิน (oligomeric proanthocyanidin) หรือ OPC ซึ่งเป็นกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงและให้ประสิทธิภาพสูง

  ยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน โดยลดปริมาณเอ็นไซม์ไทโรซิเนส
  ปกป้องผิวจากการรังสียูวี ซึ่งมีผลต่อการสร้างเม็ดสีเมลานิน
  ยับยั้งเอ็นไซม์คอลลาจิเนส(collaginase) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจน
  เพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน

(คลิกอ่านไขความลับสู่ผิวขาวอย่างปลอดภัยเพิ่มเติมได้ที่)

     และทั้งหมดนี้คือ 3 ทางลัดในการดูแลผิวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากที่สุด เพราะไม่ต้องเจ็บตัว มีความคุ้มค่า ทั้งยังมีความปลอดภัยต่อร่างกายในระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม พื้นฐานการดูแลตัวเองยังคงเป็นสิ่งคัญที่ควรทำอยู่เสมอ ได้แก่

  นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  อย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง เพราะในขณะที่นอนหลับป็นช่วงเวลาที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง และหลังฮอร์โมนที่สำคัญ โดยเฉพาะโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูและซ่อมแซมสภาพผิวที่เสียหายในแต่ละวัน

  ดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว  ช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวให้เต่งตึง ไม่แห้งเหี่ยวและหย่อนคล้อย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงเซลล์ผิวได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวดูเลือดฝาดอมชมพู

  รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ รวมถึงผักและผลไม้หลากสี เพราะอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มากมาย ซึ่งมีประโยชน์ในการชะลอความแก่ได้ดี โดยควรทานผักให้ได้อย่างน้อยวันละ 4 ขีด หรือในแต่ละมื้อควรมีผักเป็น 2 ใน 4ของจาน

  ทาครีมบำรุงเป็นประจำ ซึ่งควรเน้นไปที่กลุ่มมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิว ฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน โดยควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิว รวมทั้งทาครีมกันแดดทุกวัน โดยควรทาก่อนออกแดดประมาณครึ่งชั่วโมงและทาซ้ำ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี แนะนำให้เลือกซื้อครีมกันแดดที่มี SPF ไม่น้อยกว่า 30

  หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว  เช่น การแสดงสีหน้าอารมณ์มากเกินไป การลอกหรือขัดผิวบ่อยๆ การอยู่กลางแจ้งโดยไม่ปกป้องผิว เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย และผิวหมองคล้ำได้โดยไม่รู้ตัว

     เห็นแล้วว่าสุขภาพผิวที่ดีต้องมาจากการดูแลทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไป หากทำได้อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน คุณก็สามารถมีสุขภาพผิวที่ดีได้อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสเน่ห์และความมั่นใจ ให้คุณดูดีน่ามองอยู่ตลอดเวลา ด้วยความห่วงใยจาก….Mega We care