รู้ทันปัญหาผิวของแต่ละช่วงวัย

รู้ทันปัญหาผิวของแต่ละช่วงวัย

รู้ทันปัญหาผิวของแต่ละช่วงวัย

     เรื่องปัญหาผิวพรรณ คือสิ่งที่สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้หญิงในทุกช่วงวัย โดยปัญหาผิวของแต่ละช่วงวัยจะมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ซึ่งเกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก

  สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย

  ปัญหาผิวที่มักพบในแต่ละช่วงวัย

  ตัวช่วยแก้ปัญหาผิวจากภายใน

     โดยปัจจัยภายในได้แก่ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง และอายุที่เพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยภายนอกคือ พฤติกรรมบางอย่างที่ทำไปโดยไม่รู้ว่าเป็นการส่งผลร้ายต่อผิว เช่น ความเครียด แสงแดด การแสดงอารมณ์ทางใบหน้ามากเกินไป รวมทั้งการบีบแกะสิว หรือการเลือกดูแลผิวที่ผิดวิธีและไม่เหมาะสมกับสภาพผิว เป็นต้น  จนนำมาสู่ปัญหารอยแผล จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำไม่สดใส และเมื่ออายุมากขึ้นก็จะยิ่งมีปัญหาริ้วรอย ผิวไม่เต่งตึงกระชับ หรือเป็นฝ้าได้

     ดังนั้นการดูแลผิวสามารถจัดการได้ตั้งแต่เมื่อรู้ถึงสาเหตุของปัญหา แล้วหลีกเลี่ยงตัวการดังกล่าว พร้อมๆ ไปกับการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็จะลดปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้นได้

ปัญหาผิวที่มักพบในแต่ละช่วงวัย

1. วัยรุ่น 13-24 ปี

ปัญหาผิวที่พบมาก คือ สิว หน้ามัน และรอยแผลจากสิว

     ปัญหาสิว เกิดจากการอุดตันที่รูขุมขน ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค จนเกิดหัวสิวอักเสบ  ซึ่งเป็นปัญหาที่มาจากฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น ส่งผลต่อต่อมไขมันบริเวณผิว นอกจากนี้การล้างหน้าบ่อยเกินไป ยังเป็นการกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันมากขึ้น เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นการอุดตันที่มากขึ้น ถึงอย่างไรการรักษาความสะอาดก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรทำความสะอาดเพียงวันละ 2 ครั้ง  และต้องทำความสะอาดอย่างถูกต้อง

     นอกจากปัญหาสิวแล้ว รอยแผลและรอยดำที่เกิดจากการบีบสิวก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทิ้งไว้บนใบหน้า ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการบีบแกะสิว แต่เมื่อเป็นสิวให้ใช้เจลแต้มสิว เพื่อช่วยสมานแผลจะเหมาะสมกว่า

teenager-13-24-years-old

2. วัยทำงาน อายุ 25-39 ปี

ปัญหาที่พบมาก คือ ใบหน้าหมองคล้ำ ผิวไม่สดใส ริ้วรอยก่อนวัย

     ช่วงอายุตั้งแต่ 25 ปี เป็นช่วงที่ผิวพรรณกำลังสมบูรณ์ แต่ด้วยสภาวะสิ่งแวดล้อม จึงมีโอกาสทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะแสงแดด แสงสว่างจากหลอดไฟ ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส รวมทั้งภาวะทางอารมณ์ ความเครียด หรือการแสดงสีหน้าอารมณ์ เช่น การขมวดคิ้ว หากทำเป็นประจำก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย ดังนั้นการทาครีมกันแดดและครีมบำรุง ยังเป็นอีกวิธีที่ช่วยดูแลผิวเบื้องต้นได้

working-age-25-39-years-old

3. วัยผู้ใหญ่ อายุ 40-59 ปี

ปัญหาที่พบมาก คือ ริ้วรอย ร่องลึก หน้าหย่อนคล้อย เป็นฝ้า

     เรียกได้ว่าเป็นวัยที่มีความกังวลเรื่องปัญหาผิวมากที่สุด เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจนใต้ชั้นผิวเสื่อมสลายจึงส่งผลต่อโครงสร้างของเซลล์ผิว มีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเดิม รวมทั้งมีริ้วรอยบริเวณร่องแก้มและหน้าผากชัดเจนขึ้น  นอกจากนี้ฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงลดลง ยังส่งผลต่อการสร้างเม็ดสีเมลานินส่งผลทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายมากขึ้น

Adult-age-40-59-years-old

ตัวช่วยแก้ปัญหาผิวจากภายใน

แก้ปัญหาสิวจากต้นเหตุ

     ปัญหาสิวที่เป็นๆ หายๆ อาจเกิดจากสาเหตุเลือกวิธีรักษาที่ไม่ตรงจุด การรักษาที่ดีที่สุด ควรแก้ที่ต้นเหตุ ควบคู่กับการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดซ้ำ วิตามินและสารสกัดจากธรรมชาติช่วยรักษาปัญหาสิวจากภายในอย่างได้ผลและปลอดภัย ประกอบไปด้วย แร่ธาตุสังกะสีและโครเมี่ยม ที่ช่วยปรับสมดุลความมันบนใบหน้า ช่วยลดการอักเสบของสิว และช่วยสมานรอยแผลเป็น (หน้าใสไร้สิวใครว่าเป็นไปไม่ได้  อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) 

ผิวกระจ่างใส ไม่หมองคล้ำ

     แนวคิดใหม่เพื่อให้ผิวขาวที่ปลอดภัย และได้ผลซึ่งเป็นที่ยอมรับในแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็คือ การเลือกใช้ สารตั้งต้นของกลูต้าไธโอน เช่น แอล ซีสเทอีน (L-Cysteine) ที่ช่วยให้กลูต้าไธโอนที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมกับการเสริมด้วยสารสกัดเมล็ดองุ่นและวิตามินซี (ไขความลับผิวขาว อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

‘แอสตาแซนธิน’ สารต้านแก่ หนึ่งเดียวในศาสตร์ชะลอวัย 

     แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) สารสกัดจากสาหร่ายสีแดง ที่จัดเป็น King of Antioxidant มีคุณสมบัติฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ผิว สามารถช่วยชะลอวัย คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวเรียบเนียนไม่หยาบกร้าน ลดเลือน และป้องกันการเกิดริ้วรอย ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและยืดอายุเซลล์ผิวให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวีได้ (คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

ผิวดูอิ่มฟูด้วยคอลลาเจนสำหรับผิวโดยเฉพาะ

     ผิวของคนเรามีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักถึง 70% ดังนั้นการเสริมด้วยคอลลาเจนสำหรับผิวโดยเฉพาะ หรือ คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen peptide) ในรูปแบบพิเศษ Bio-active ที่ผ่านขบวนการทางวิทยาศาสตร์ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ในการสร้างคอลลาเจนให้เซลล์ผิวได้โดยตรง ซึ่งมีส่วนช่วยให้โครงสร้างของผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นการเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ช่วยให้ดูเต่งตึง คงความกระชับและเรียบเนียน ให้ผิวหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย (เคล็ดลับหน้าใส อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

ลดเลือน และป้องกันการเกิดฝ้าซ้ำด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ

     วิธีการรักษาฝ้าอย่างปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียง คือการฟื้นฟูบำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยสารอาหารจากธรรมชาติที่เป็นเหมือนสารต้านอนุมูลอิสระ นั่นก็คือ การใช้ สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส (French Maritime Pine Bark) ช่วยปรับสมดุลการทำงานของเซลล์เม็ดสีผิวทำให้สร้างเม็ดสีได้เป็นปกติ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น

     ในต่างประเทศมีผลวิจัยอย่างชัดเจนว่า “การรับประทานสารสกัดจากเปลือกสน วันละ 75 มก.ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 สัปดาห์  มีความเข้มของฝ้าลดลง 2 หน่วย หรือขนาดพื้นที่ฝ้าลดลงมากกว่าหนึ่งในสาม” (เจาะลึกเรื่องฝ้าและวิธีแก้ปัญหา อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่) 

     การดูแลผิวพรรณในแต่ละช่วงวัยที่ดีที่สุดคือ ควรหลีกเสี่ยงแสงแดด ที่เป็นตัวการที่ทำลายผิว ทาครีมกันแดดเป็นประจำ และควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตเพื่อให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน โดยเลือกรับประทานที่ดีและมีประโยชน์ช่วยบำรุงผิว ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หากปฎิบัติได้ตามนี้ปัญหาผิวก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลย

 

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้