ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน ส่งผลให้อัตราผู้ป่วยด้วยโรคทางสายตาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพดวงตาให้แข็งแรง ห่างไกลโรค การกินวิตามินบำรุงสายตาจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งนี้ควรเลือกกินวิตามินให้ตรงกับความต้องการเพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด
สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย
สาเหตุและปัจจัยที่ทำร้ายดวงตา
ความผิดปกติทางสายตาแบบนี้ ควรเสริมวิตามินบำรุงสายตาแบบไหน
เคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยคุณดูแลสุขภาพดวงตา
ใช้สายตาจดจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือนานเกินไป
ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ใช้สายตาในที่มืดมากเกินไป
ขับขี่รถในระยะไกล
อายุที่มากขึ้น
ความเครียดสะสม
ได้รับวิตามินและสารอาหารไม่เพียงพอ
1. สายตายังปกติ แต่เริ่มมีความเสี่ยงจะเกิดปัญหา
คือกลุ่มคนมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เป็นเวลานาน ติดการดูซีรีส์ รวมถึงสายเล่นเกมออนไลน์ เพื่อบำรุงและลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านสายตา แนะนำให้กินลูทีน ซีแซนทีน บิลเบอร์รี่สกัด และเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทดวงตา และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้
2. Computer Vision Syndrome (CVS) และจอประสาทตาเสื่อม
คือความผิดปกติที่เกิดจากการใช้สายตามองจอต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป จนทำให้มีอาการล้า ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัดชั่วขณะ ปรับโฟกัสได้ยาก และดวงตาสู้แสงลำบาก ซึ่งลักษณะอาการดังกล่าว ควรบำรุงด้วย ลูทีน ซีแซนทีน และแอสต้าแซนธิน ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับจอประสาทตา และลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อสายตาได้ดี โดยควรกินลูทีนในปริมาณ 10 มก. ซีแซนทีนในปริมาณ 2 มก. และแอสตาแซนทีน 6 มก.ต่อวัน
3. ตาแห้ง วุ้นในตาเสื่อม รวมถึงโรคอื่นๆ เกี่ยวกับดวงตา
คือความผิดปกติด้านสายตาที่รุนแรง จนเกิดเป็นภาวะต่างๆ เช่น ตาแห้ง แสบตา มองเห็นเป็นจุดดำ มีหยากไย่ลอยไปมา และลุกลามไปถึงขั้นตามัว มองเห็นไม่ชัด จนนำไปสู่การเป็นต้อกระจก หากมีอาการดังกล่าว แนะนำให้บำรุงด้วยมิกซ์แคโรทีนอยด์จากธรรมชาติ ได้แก่ ลูทีน ซีแซนทีน เบต้าแคโรทีน น้ำมันปลา และสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง ได้แก่ สังกะสี วิตามินอี วิตามินซี ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าสามารถช่วยลดการกำเริบของโรคเกี่ยวกับดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กำหนดระยะห่างระหว่างสายตากับจอคอมพิวเตอร์ 40-50 ซม. และให้จุดกึ่งกลางของหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ต่ำกว่าระดับสายตา
อ่านหรือเขียนหนังสือโดยมีแสงสว่างอย่างเพียงพอ
พักสายตาเป็นระยะ ทุกๆ 20 นาที นอกจากนี้ให้หมั่นกะพริบตาบ่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
สวมแว่นกันแดด หรือสวมหมวกทุกครั้งเมื่อออกแดดจ้า
ตรวจวัดสายตาหรือพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง
กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นไปที่ผักและผลไม้ โดยเฉพาะตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากกลุ่มของแคโรทีนอยด์ที่บำรุงดวงตา
ขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาล BNH
ฐานข้อมูล MEGA We care