โรคกระดูกพรุน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

โรคกระดูกพรุน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

     โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คือโรคที่เกิดจากความหนาแน่นของเนื้อกระดูกลดลง จนส่งผลให้โครงสร้างของกระดูกมีการเปลี่ยนแปลง และเปราะบาง แตกหักง่าย ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักของร่างกายตามปกติได้ ซึ่งโรคกระดูกพรุนส่วนมากจะพบในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะกับผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนซึ่งมวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยต่างๆ ในปัจจุบันก็สามารถทำให้คนทุกเพศทุกวัยมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้เร็วขึ้น

 

  สนใจหัวข้อไหน...คลิกเลย

        สาเหตุของโรคกระดูกพรุน
       ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน
       อาการของคนเป็นโรคกระดูกพรุน
       วิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน
       3 สารอาหารจากธรรมชาติ ช่วยป้องกันและรักษากระดูกพรุน

 

สาเหตุของโรคกระดูกพรุน

   

       อายุมากขึ้น โดยเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี กระดูกจะบางลง 1-3% ทุกปี 

       ได้รับแคลเซียม วิตามินดี และโปรตีนไม่เพียงพอ 

       ไม่ออกกำลังกาย และเคลื่อนไหวร่างกายน้อย

       สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

       ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ หรือชา มากเกินไป

       กินยาบางชนิด เช่น ยารักษาไทรอยด์ ยาสเตียรอยด์ และยาขับปัสสาวะ

 

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน

     

       ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

       ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

       ผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำ

       ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยมาก หรือมีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 20 กิโลกรัม/ตารางเมต

       ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ต่อเนื่องตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป

 

อาการของคนเป็นโรคกระดูกพรุน

     

       ปวดหลัง และปวดตามข้อกระดูก

       ปวดบริเวณที่กระดูกมีการยุบตัวลง

       ส่วนสูงลดลง หลังค่อมลงเรื่อยๆ

       กระดูกเปราะและหักง่าย

 

วิธีป้องกันโรคกระดูกพรุน

   

       ระมัดระวังเรื่องการหกล้ม

       กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นกินให้ครบ 5 หมู่ และอาหารที่ให้แคลเซียม เช่น นม เต้าหู้ ปลาตัวเล็ก และผักใบเขียว

       งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

       ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนให้น้อยลง

       ออกกำลังกายครั้งละ 30 นาทีอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-4 วัน/สัปดาห์

       ตรวจมวลกระดูกปีละครั้ง

 

3 สารอาหารจากธรรมชาติ ช่วยป้องกันและรักษากระดูกพรุน

 

1. Ossein-Hydroxyapatite Complex (OHC)

     สารอาหารจากธรรมชาติ 100% ที่สกัดจากกระดูกวัว ที่มีส่วนประกอบของแคลเซียม โปรตีน และฟอสฟอรัส ตัวช่วยสร้างความหนาแน่นของเนื้อกระดูก และลดการสลายของเนื้อกระดูก

2.  Vitamin D3

     ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดี และเสริมการสร้างของกระดูก

3.  Vitamin K2

     ช่วยสร้างความแข็งแรงให้มวลกระดูกจากการสร้างโปรตีนที่มีชื่อว่า ออสทีโอแคลซิน (Osteocalcin) ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Vitamin D3 ในการเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก นอกจากนี้ยังลดการเกาะของแคลเซียมหรือหินปูนที่หลอดเลือดแดง โดยนำแคลซียมไปเกาะเนื้อเยื่อกระดูกได้ดีขึ้น

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
Rama Channel

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้