‘ชีวิตวิถีใหม่’ ทำให้หลายคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกิจวัตรที่คุ้นเคย ไม่เว้นแม้แต่เด็กวัยเรียน ที่ต้องงดการเข้าเรียนในห้องเรียนแล้วหันมาเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ที่บ้านเป็นการชั่วคราว ซึ่งนับเป็นการปรับเปลี่ยนที่ดีที่จะช่วยให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ในรายวิชาต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่องและลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของไวรัส
แต่ในข้อดีของการเรียนออนไลน์กลับแฝงไปด้วยภัยร้ายที่ทำลายสุขภาพดวงตาของเด็กวัยเรียน หากไม่มีวิธีดูแลดวงตาที่ถูกต้อง อาจทำให้สายตาของนักเรียนและนักศึกษาเสื่อมไปก่อนถึงวัยอันควร
เรียนออนไลน์ทำร้ายดวงตาอย่างไร
การเรียนออนไลน์ เป็นการเพิ่มช่วงเวลาของการอยู่หน้าจอให้ยาวนานขึ้น ประกอบกับข้อมูลจากรายงานผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยปี 2562 ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ระบุว่า กลุ่มของวัยเรียนที่มีอายุน้อยกว่า19 ปี (Gen Z) เป็นกลุ่มที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยสูงถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้เกิดผลกระทบสำคัญต่อความเสื่อมของดวงตาเร็วขึ้น ด้วยสาเหตุหลัก คือแสงสีฟ้าบนหน้าจอนั่นเอง
‘แสงสีฟ้า’ (Blue light) เป็นแสงสีที่มีคลื่นพลังงานสูง พบได้ทั้งจากแสงแดด แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และหลอดไฟ LED แสงสีฟ้าจากดวงอาทิตย์ที่ได้รับในยามเช้าจะช่วยในการกระตุ้นระบบประสาทในส่วนการรับรู้ ช่วยให้ตื่นตัวและกระปรี้กะเปร่า แต่หากได้รับแสงสีฟ้ามากเกินไปอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะแสงสีฟ้าจะเข้าไปยับยั้งการหลั่งสารเมลาโทนินในสมอง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ทำให้นอนหลับไม่สนิท จึงมักได้ยินข้อห้ามหรือคำเตือนไม่ให้ใช้สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ก่อนนอน ยิ่งไปกว่านั้นแสงสีฟ้านี้สามารถทะลุผ่านเข้าไปยังทำลายเซลล์จอประสาทตา โดยในระยะแรกจะทำให้เกิดอาการตาแห้ง คันตา และน้ำตาไหล หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานคลื่นแสงสีฟ้าจะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์ในดวงตาจนเสียหาย ทำให้เซลล์บริเวณดวงตาค่อย ๆ เสื่อมลงและไม่สามารถมองเห็นได้เป็นปกติ
นอกจากนี้แสงสีฟ้าจากการนั่งอยู่หน้าจอนี้ ยังก่อให้เกิดโรคคอมพิวเตอร์วิชชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome : CVS) ซึ่งมีอาการแสบตา ตาพร่ามัว น้ำตาไหล และส่งผลให้ปวดเมื่อยบริเวณคอ หลัง และไหล่อีกด้วย
วิธีดูแลดวงตา
เมื่อความจำเป็นในการเรียนออนไลน์ ทำให้เด็กวัยเรียนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจ้องจอได้ ดังนั้นจึงต้องดูแลและเอาใจใส่สุขภาพตาให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยถนอมดวงตาให้ปลอดภัยจากแสงสีฟ้า มีดังนี้
ปรับแสงสว่างให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นแสงจากหน้าจอหรือแสงสว่างโดยรอบ ควรปรับแสงให้รู้สึกสบายตา ไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป
สวมแว่นกรองแสง การสวมแว่นกรองแสงหรือใช้แผ่นกรองแสงสีฟ้าวางไว้หน้าจอ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากแสงสีฟ้าที่จะมาทำร้ายดวงตา
พักสายตา ในช่วงเวลาที่เรียนออนไลน์หรือทำงานอยู่หน้าจอ ควรหมั่นกระพริบตาให้บ่อยครั้ง หากทำได้ควรพักสายตาทุก 20 นาที ด้วยการมองไกลออกไป 20 เมตร เป็นเวลา 20 วินาที หรืออาจละสายตาคั่นเวลาด้วยการผ่อนคลายกับกิจกรรมอื่น ๆ
ทานผักและผลไม้หลากสี การจ้องจอเป็นเวลานานเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะตาแห้งและโรคตาต่าง ๆ ดังนั้นควรทานอาหารที่มีสารอาหารบำรุงดวงตา เช่น แครอท ไข่ อัลมอนด์ ผักใบเขียว เป็นต้น
เสริมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงดวงตา โดยเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของลูทีน บิลเบอร์รี่สกัด และเบต้าแคโรทีน ซึ่งจะออกฤทธิ์ทำงานร่วมกันเพื่อบำรุงดวงตาอย่างครบถ้วน
ไม่ว่าจะวัยเด็กหรือวัยใด ดวงตาจะยังคงเป็นอวัยวะสำคัญที่มีไว้เพื่อการรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวอยู่เสมอ เพราะช่วยให้คุณมองเห็นและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างสะดวก ดังนั้นหมั่นดูแลและบำรุงดวงตาด้วยสารอาหารสำคัญ เพื่อให้คุณพร้อมก้าวเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ด้วยดวงตาที่สดใสแข็งแรง
ด้วยความห่วงใยจาก iiCare_MEGAWecare