‘ตาแห้งเรื้อรัง’ เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุที่คนส่วนใหญ่รู้โดยเฉพาะคนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ก็คือ การใช้สายตามากจนเกินไป แต่ยังมีเรื่องที่เชื่อว่าหลายคนคงคาดไม่ถึงว่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน
1. การใช้ยาบางชนิด
หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของคนที่มีอาการตาแห้งคือ อายุและการใช้สายตาที่มากเกินไป
แต่ยังอีกหลายคนไม่ทราบว่า การใช้ยาบางชนิดก็สามารถทำให้เกิดอาการตาแห้งได้เช่นกัน เช่น ยาแก้แพ้ยา ยาลดอาการซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิต และยาลดความอ้วน เพราะยาประเภทนี้จะมีผลข้างเคียงทำให้ดวงตาผลิตน้ำตาได้น้อยลง เมื่อน้ำตาน้อยลงก็ส่งผลให้ดวงตาไม่ชุ่มชื้น และมีปัญหาตาแห้งตามมา
2. การใช้เครื่องสำอาง บริเวณดวงตาทำให้ตาแห้งได้
สิ่งนี้อาจจะไม่ถูกใจบรรดาสาวๆ เพราะสารเคมีจากเครื่องสำอางค์ที่นิยมใช้กับดวงตา เช่น อายไลเนอร์, มาสคาร่า หรืออายแชโดว์ เสี่ยงทำให้ดวงตาก่อให้เกิดอาการระคายเคือง และมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งในระยะยาว นอกจากตาแห้งแล้วอาจะทำให้เกิดการอักเสบ และบวมแดงได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง ใกล้กับดวงตาหรือขนตา
3. อายุของผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคตาแห้งลดลง
จากงานวิจัยเกี่ยวกับโรคตาแห้งเรื้อรังที่เชื่อถือได้ในอดีต อาการของโรคนี้จะพบมากในผู้ชายอายุระหว่าง 50 และ 54 ปี และอัตราการพบก็จะมากขึ้นเป็นสองเท่าในผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 80 ปี
แต่ในปัจจุบันเนื่องจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะการใช้สายตาและเวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ทำให้ค่าเฉลี่ยของอายุในการเสี่ยงเป็นโรคตาแห้งลดลง ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่า นักเรียน นักศึกษา คนทำงานโดยเฉพาะพนักงาออฟฟิศที่อายุเพียงแค่ 30 ต้นๆ ก็เป็นโรคนี้กันเยอะมากขึ้น
4. ยิ่งอยู่หน้าจอนานเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เสี่ยงเป็นตาแห้งเร็วขึ้น
สิ่งที่คาดไม่ถึงในข้อนี้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่ใช้เวลากับการทำงานหน้าจอคอมฯ หรือใช้สมาร์ทโฟนอยู่ในโลกสื่อสังคมออนไลน์วันหนึ่งหลายชั่วโมง เพราะเวลาที่จ้องที่สมาร์ทโฟน จอคอมพิวเตอร์ หรือจอแท็บเล็ตแสงสีฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาเป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ และยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำให้สุขภาพดวงตาแย่ลงเท่านั้น ซึ่งสมาคม Optometric ของอเมริกา ฟันธงไว้อย่างชัดเจนว่า CVS หรือโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมเป็นกลุ่มโรคตาและอาการที่เกิดจากการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไป
5. Omega-3 สามารถช่วยรักษาอาการตาแห้ง
คนจำนวนไม่น้อยยังไม่ทราบว่ากรดไขมันที่มีประโยชน์มากมายอย่าง Omega-3 มีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาได้ มีการวิจัยเกี่ยวกับสมมติฐานเกี่ยวกับกรดไขมัน Omega-3 กับการช่วยป้องกันอาการตาแห้ง ซึ่งศึกษาจากลุ่มตัวอย่างของผู้ที่เป็นโรคตาแห้งเรื้อรังที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
ในกลุ่มที่ 1 ได้รับกรดไขมันชนิดนี้วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกกลุ่มได้รับยาหลอก ปรากฎว่าผู้ที่เป็นโรคตาแห้งเรื้อรังในกลุ่มแรกมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่ง Omega-3 ในธรรมชาติ สามารถหาได้จากอาหารประเภทปลา โดยเฉพาะปลาแองโชวี่และปลาแมคเคอเรล, เมล็ดเชีย และถั่ววอลนัท
เห็นหรือยังว่า... เรื่องเกี่ยวกับโรคตาแห้งยังมีอีกมากที่หลายคนยังไม่รู้ ดังนั้นเมื่อมีความรู้เพิ่มเติมจากเดิมแล้วก็เปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำ เลิกใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมฯ หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานๆ หรือหากจะใช้ยาในกลุ่มเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการเป็นโรคตาแห้งก็ต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด รวมทั้งสารอาหารใดที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันหรือรักษาโรคนี้ก็ต้องทานให้เป็นประจำตามที่ร่างกายต้องการอย่างเพียงพอจะเป็นในรูปแบบของอาหารจากธรรมชาติหรืออาหารเสริมก็ได้ ด้วยความห่วงใย จาก Optivit_MEGA We care
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.healthline.com/health/dry-eye/treating-chronic-dry-eye/unforseen-facts-about-chronic-dry-eye#5