ความแตกต่างระหว่าง COVID-19 กับไข้หวัดใหญ่

     ตลอดทั้งปี 2563 วิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ทำให้คนไทยตระหนักและมีความรู้ในการดูแลร่างกายเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อร้าย แต่เมื่อมีการระบาดของโควิดระลอกใหม่ในประเทศไทยในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 เชื้อไวรัสในการระบาดครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าเป็น ‘โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ GH’ ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียก่อนกระจายเข้าสู่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศไทย อีกทั้งยังแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ดังนั้นเชื้อไวรัสนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มียาปฏิชีวนะตัวไหนที่สามารถรักษาให้หายได้โดยตรง

     โดยทั่วไปเมื่อติดเชื้อร่างกายจะแสดงอาการเหมือนเป็นไข้หวัดทั่วไป ตั้งแต่อาการป่วยเล็กน้อย เช่น มีไข้สูง ไอแห้ง เจ็บคอ แต่อาการที่แสดงว่าติดเชื้อ COVID-19 มีเพิ่มเติมคือ หายใจลำบากขึ้น เหนื่อยหอบ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรู้รสชาติ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตัวและอ่อนเพลียอย่างชัดเจน แต่ทั้งนี้การติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ GH จะมีการแสดงอาการที่น้อยกว่าสายพันธุ์เดิม ซึ่งผู้ติดเชื้อจะไม่รู้ตัว หรือเข้าใจผิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา จึงทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติส่งผลกระทบให้เป็นการแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

     ผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์ G จะมีปริมาณเชื้อบริเวณลำคอค่อนข้างมาก เพราะสายพันธุ์ G เจริญเติบโตได้ดีในระบบทางเดินหายใจ ทำให้ผู้ติดเชื้อมีไวรัสสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก และสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น แต่การกลายพันธุ์มาเป็นสายพันธุ์ G นี้ ไม่ได้ส่งผลให้ความรุนแรงของโรคเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใดเพียงแต่ทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อได้มากขึ้นเท่านั้น

     การระบาดระลอกใหม่ของสายพันธุ์ G ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์อาจต้องใช้เวลานานขึ้นเพื่อต่อสู้กับไวรัสที่เจริญเติบโตในร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้การรักษาอาจต้องใช้เวลานานกว่าเดิม การกลายพันธุ์ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการเสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเป็นการป้องกันโอกาสการติดเชื้อไวรัสแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงการติดโรคอื่นๆ ที่จะตามมาได้อีกด้วย

     แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแนะนำวิธีการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องออกไปที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยในช่วงที่มีการระบาดระลอกใหม่นี้ให้เน้นทานอาหารในแต่ละมื้อให้สารอาหารประเภท วิตามินซี วิตามินดี และแร่ธาตุสังกะสีเป็นหลัก เพื่อเป็นการเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงสามารถต่อต้านเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้ดียิ่งขึ้นเป็นสองเท่า

ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/health/2001707
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/138908
https://www.sanook.com/health/20609/
http://www.nsm.or.th/other-service/664-online-science/knowledge-inventory/sci-article/sci-article-science-museum/4543-covid19-spike-protein-g.html