เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมัน อีฟนิ่งพริมโรส

น้ำมัน อีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) ถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่เหมาะสำหรับผู้หญิง และได้รับความนิยมในการเลือกรับประทาน เพราะถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มาจากธรรมชาติที่มีประโยชน์สำหรับสุขภาพร่างกาย และสุขภาพผิวที่ดีของผู้หญิงทุกวัย แต่ก็ยังผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับสารอาหารชนิดนี้

1. ทำไมน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าแห่งการรักษาทั้งปวง

เนื่องจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส มีสรรพคุณที่ดีต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จึงทำให้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสถูกยกให้เป็น The King Cure All หรือ เจ้าแห่งการรักษาทั้งปวง

2. สารสำคัญที่มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ

น้ำมันที่สกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรสจะอุดมไปด้วยไขมันจำเป็นชนิดไม่อิ่มตัว กลุ่มโอเมก้า-6 ที่สำคัญ
คือ กรดแกรมมาไลโนเลนิค (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้จำเป็นต้องได้รับ
จากการรับประทานอาหารเข้าไปเท่านั้น

3. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเหมาะกับผู้หญิงเท่านั้น

ผู้ชายก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ในต่างประเทศมีการศึกษากรณีคนที่มีปัญหาเรื่องผื่นแพ้เรื้อรัง โดยศึกษาทั้งในผู้ชายและผู้หญิงพบว่าสามารถทำให้ผู้ที่มีปัญหาผื่นแพ้เรื้อรังให้อาการดีขึ้นได้ โดยไม่พบอาการข้างเคียงใด ๆ

4.  น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ทำให้เจริญอาหารและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้

เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่กังวล แต่แท้จริงแล้วน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสไม่ได้มีผลทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่กลับช่วยบำรุงให้ผิวเปล่งปลั่ง เต่งตึง อิ่มน้ำ จึงอาจทำให้รู้สึกว่าอวบอิ่มขึ้นได้

5. หากรับประทานอีฟนิ่งพริมโรสอย่างต่อเนื่องจะสะสมอยู่ในร่างกาย และเกิดผลข้างเคียงอันตรายในอนาคต

Omega-6 เป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการ และมีความปลอดภัย จึงสามารถรับประทานได้
ในระยะยาว และหากรับประทานตามขนาดแนะนำในการบรรเทาอาการต่างๆ ได้ผลลัพธ์ตามต้องการแล้ว สามารถรับประทานวันละ 1 เม็ด เพื่อบำรุงต่อเนื่องได้

6. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

เนื่องจากในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นชนิดไม่อิ่มตัว กลุ่ม Omega-6
คือ LA และ GLA ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพในหลายด้าน และหนึ่งในนั้นก็คือ มีส่วนช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล มีส่วนช่วยลดความดันโลหิต และมีส่วนช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ด้วยเหตุผลเหล่านี้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้

7. สารสำคัญในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส มีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน

คนที่เป็นเบาหวานเรื้อรังมีโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ขึ้นได้ เช่น อาการชาบริเวณปลายมือปลายเท้า เยื่อหุ้มของเซลล์ประสาทผิดปกติไป ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการขาดสาร GLA ซึ่งสารดังกล่าวนี้
มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส การรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงมีส่วนช่วยลดโอกาสเสี่ยง หรือบรรเทาอาการของโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้

8. คุณภาพที่ได้จากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจะหมดไป เนื่องจากสารสำคัญถูกทำลายในกระบวนการผลิต

กระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้คุณภาพของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสลดลงได้ เนื่องจากสารสำคัญถูกทำลาย ดังนั้นการเลือกแหล่งผลิตที่มีคุณภาพสูง ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เช่น การสกัดเย็น จะช่วยไม่ให้สารสำคัญถูกทำลายจากความร้อนในขั้นตอนการสกัด

9. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส คือฮอร์โมนชนิดหนึ่ง

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสไม่ใช่ฮอร์โมน แต่เนื่องจากสาร GLA ที่ร่างกายได้รับจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส 
จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสารพลอสตาแกน ซึ่งมีโครงสร้างและส่วนประกอบคล้ายกับฮอร์โมนจึงส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายในหลายด้าน เช่น ลดอาการก่อนมีประจำเดือน บรรเทาอาการของผู้หญิงวัยทอง และช่วยบำรุงผิว
ให้ชุ่มชื้น เป็นต้น

10. คนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารสามารถรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสได้

ในต่างประเทศมีข้อมูลที่น่าสนใจพบว่า “น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสมีส่วนช่วยลดผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารที่เกิดจากการใช้ยาบางชนิดได้อีกด้วย” ดังนั้นคนที่เป็นโรคกระเพาะสามารถรับประทานได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการระคายเคืองกระเพาะอาหาร

11. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดแห้ง

สาร GLA จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ จากการเป็นองค์ประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นขึ้น น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจึงช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดแห้งได้นั่นเอง

12. นอกจากช่วยบำรุงผิวแล้ว น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสมีส่วนช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้

เนื่องจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส สามารถช่วยเพิ่มปริมาณสาร GLA จึงมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ คัน ผื่นแดง ตกสะเก็ด และอาการบวมแดงของผิวได้ ยืนยันด้วยผลการวิจัยจากผู้มีอาการผิวหนังอักเสบ พบว่าอาการดีขึ้นได้หลังได้รับน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสต่อเนื่อง 4-8 สัปดาห์ และยังช่วยให้สามารถลดปริมาณการใช้ยาสเตียรอยด์ลงได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงของการใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน

13. การรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเห็นผลเร็วในระยะเวลาไม่นาน

ตามผลงานการวิจัยการรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสสามารถสังเกตได้ถึงผลลัพธ์ได้ในระยะเวลา เพียง 3 เดือน เท่านั้น หากรับประทานอย่างต่อเนื่อง

14. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน

ถึงแม้จะไม่ได้ออกฤทธิ์ลดปวดในทันที แต่กรณีของผู้หญิงที่ปวดประจำเดือนบ่อยๆ การรับประทานยาแก้ปวดบ่อย ๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายจากผลข้างเคียงของยา ดังนั้นการรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจะเป็นการป้องกันก่อนที่จะมีอาการปวด และเป็นการดูสุขภาพในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย

15. ปริมาณสารสำคัญในน้ำมัน อีฟนิ่งพริมโรส มีผลต่อคุณภาพ

จากผลการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า “สารสำคัญที่ได้รับจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสอย่าง GLA ควรมี 10%” ดังนั้นการมีสารสำคัญตรงตามผลการวิจัยจะยิ่งช่วยยืนยันถึงผลลัพธ์ของคุณภาพได้มากกว่า

16. คนที่เป็นโรคลมชักหรือใช้ยาบางกลุ่มควรหลีกเลี่ยงการทานน้ำมัน อีฟนิ่งพริมโรส

เนื่องจากการรับประทานน้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายเกิดอาการชักเกร็งบ่อยขึ้น หากพบว่ามีประวัติอาการชัก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนเริ่มรับประทาน

17. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจำเป็นในผู้หญิงทุกคนถึงแม้จะไม่มีอาการปวดประจำเดือน

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ไม่ได้แค่ช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนได้ แต่ยังช่วยบำรุงผิว
ให้สุขภาพดี ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคบางอย่างได้อีกด้วย ดังนั้นไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่มีอาการปวดประจำเดือน แต่ผู้หญิงทุกคนที่ต้องการดูแลตัวเองสามารถรับประทานเสริมน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสได้

18. การเลือกน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสต้องพิถีพิถัน

การผลิตน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสแต่ละยี่ห้อมาตรฐานจะแตกต่างกัน ควรต้องพิถีพิถันในการเลือกเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับประโยชน์และสารสำคัญครบถ้วน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียง ด้วยหลักการเลือกดังต่อไปนี้
– เลือกยี่ห้อที่ผลิตด้วยมาตรฐานยาระดับสากล
– ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เช่น ผ่านกรรมวิธีสกัดเย็น ทำให้ได้สารสำคัญในปริมาณสูง
– เลือกยี่ห้อที่มีสารสำคัญในปริมาณที่ตรงตามงานวิจัยทางการแพทย์คือมี GLA 10% ซึ่งเป็นความเข้มข้นตามมาตรฐาน