รู้หรือไม่การตื่นนอนกลางดึกจะส่งผลเสียให้กับสุขภาพของคณมากขนาดไหน?!
บางคนตื่นนอนมากลางดึกแล้วหลับต่อยาก หรือบางคนอาจไม่หลับอีกเลยจนถึงเช้า ปัญหาจากการนอนลักษณะนี้หากสะสมเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบให้กับร่างกายและสมอง ถึงแม้จะสร้างผลเสียให้กับร่างกายได้แค่ไหน แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่แท้ที่จริงแล้วการนอนตื่นกลางดึก หมายความว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณให้รู้ว่ากำลังมีปัญหา
สาเหตุของการตื่นกลางดึก
อาการของการตื่นกลางดึกจริงๆ แล้วมีสาเหตุได้หลายปัจจัย สาเหตุทางกายภาพ เช่น ความเจ็บปวดทางร่างกาย ปัญหาการหายใจ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (ในผู้หญิงช่วงวัยก่อนหมดประจำเดือน) โรคเกี่ยวกับสมอง การปัสสาวะบ่อย นอกจากนี้ยังมีสาเหตุทางจิต เช่น ความวิตกกังวลและความเครียดก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหานี้เช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมก่อนเข้านอนก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
1. การนอนไม่เป็นเวลาเดี๋ยวนอนดึกเดี๋ยวนอนหัวค่ำ
เพราะพฤติกรรมการนอนไม่เป็นเวลาจะทำให้ร่างกายเกิดความสับสนว่าถึงเวลานอนแล้วหรือยัง
2. การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน
เพราะแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านั้น เช่น สมาร์ทโฟน แทบเล็ต โทรทัศน์ และเครื่องคอมพิวเตอร์จะรบกวนการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน
3. การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีนก่อนนอน
เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพราะสารคาแฟอีนจะเป็นตัวกระตุ้นให้สมองมีการตื่นตัว
4. การสูบบุหรี่
สารนิโคตินในบุหรี่ ถือเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ทำให้นอนหลับได้น้อยลง นอกจากนี้คนสูบบุหรี่หลายคนตื่นเช้าเกินไป เนื่องจากร่างกายมีความต้องการอยากสูบบุหรี่
5. สภาพแวดล้อมของห้องนอน
ทุกอย่างมีผลต่อการนอนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นที่นอน หมอน อากาศที่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป เสียงรอบตัว และแสงภายในห้อง
6. ดื่มน้ำก่อนนอนมากเกินไป
การดื่มน้ำก่อนนอนมากเกินไปก็ทำให้มีโอกาสตื่นกลางดึกได้เนื่องจากต้องตื่นมาปัสสาวะ ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งมีโอกาสตื่นมาบ่อยยิ่งขึ้น
7. การทานอาหารบางประเภท
มีประเภทของอาหารมากมายที่สามารถรบกวนการนอน และทำให้มีโอกาสทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย และเสี่ยงเป็นกรดไหลย้อน จนทำให้ต้องตื่นกลางดึก เช่น ของทอด อาหารไขมันสูง และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
แก้ปัญหาตื่นกลางดึกแค่ปรับพฤติกรรม
แก้ปัญหาการตื่นกลางดึก เพียงแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่เคยทำจนคุ้นชินก็สามารถทำให้ปัญหาตื่นนอนกลางดึกบรรเทาได้ แต่หากยังไม่ดีขึ้นสมุนไพรช่วยให้นอนหลับสนิทหลับตลอดคืนสารสกัดจากรากวาเลอเรี่ยนก็เป็นตัวเลือกที่เห็นผลและปลอดภัย ไม่ติด
สมุนไพรบางชนิดก็ช่วยให้หลับสนิท
การใช้ยานอนหลับเพื่อรักษาอาการนอนหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึก หรือนอนหลับยาก เป็นวิธีที่คนทั่วไปคิดถึงเป็นอันดับแรก แต่ข้อเสียจากการใช้ยานอนหลับก็มากมายจึงมีความจำเป็นที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพราะใช้ยานอนหลับที่เกินขนาดสามารถออกฤทธิ์กดการทำงานของสมองที่ควบคุมระบบการหายใจเสี่ยงให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อีกทั้งยานอนหลับบางชนิดก็ยังส่งผลให้เมื่อตื่นนอนบางคนจะยังรู้สึกตาหนัก ง่วงนอน อ่อนเพลีย หรือมึนงง สมองเบลอได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นการใช้ยานอนหลับยังต้องมีการระวังเป็นพิเศษในคนที่มีปัญหาสุขภาพและโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไต โรคปอดรวมทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ให้นมบุตร
แต่ในปัจจุบันมีการค้นพบสมุนไพรอยู่ชนิดหนึ่งที่ใช้ในการแก้ปัญหาการตื่นกลางดึก การนอนหลับยาก และการนอนไม่หลับ ซึ่งได้รับการยอมรับและแพร่หลายในต่างประเทศ สมุนไพรดังกล่าวเรียกว่า ‘รากจากต้นวาเลเรี่ยน’ (Valerian Root)
‘วาเลเรี่ยน’ (Valerian) เป็นสมุนไพรมีต้นกำเนิดอยู่แถบยุโรปและเอเชียตั้งแต่ 2000 ปีที่แล้ว ซึ่งดอกวาเลอเรี่ยนจะมีลักษณะเป็นดอกเล็กสีขาวและม่วง ในศตวรรษที่ 18 ได้เริ่มนำรากของวาเลอเรี่ยนมาสกัดใช้เป็นสมุนไพรเพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับและคลายความวิตกกังวลกันอย่างจริงจัง ในปัจจุบันได้มีการยอมรับให้ขึ้นทะเบียนเป็นยาสมุนไพรเพื่อช่วยการนอนหลับ ในประเทศเยอรมนี เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อเมริกา และอิตาลี โดยในรากวาเลอเรี่ยนจะสารสำคัญที่ช่วยให้แก้ปัญหาการตื่นกลางดึก การนอนหลับยาก และการนอนไม่หลับ 2 กลุ่มใหญ่ก็คือ
น้ำมันระเหยในกลุ่ม monoterpenes
1. สารกลุ่ม iridoids
ซึ่งออกฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม benzodiazepines โดยไปเพิ่มสารสื่อประสาทส่วนกลางที่ทำให้นอนหลับ และยังมีฤทธิ์คลายวิตกกังวลได้ ดังนั้นการใช้สมุนไพรดังกล่าวจึงช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ และคนที่นอนไม่หลับเนื่องจากความเครียด และวิตกกังวล
มีผลการวิจัยในอดีตเมื่อปี 1996 พบว่าการใช้สารสกัดจากรากวาเลอเรี่ยน วันละ 450 มิลลิกรัม กับกลุ่มตัวอย่างผู้ที่มีปัญหาการนอนไม่หลับติดต่อกันอย่างน้อยเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยทานเป็นระยะเวลา 14-28 วัน จะช่วยเพิ่มคุณภาพของการนอน ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ไม่ตื่นนอนกลางดึก และเกิดอาการง่วงซึมหลังจากตื่นนอนน้อยมาก ที่สำคัญมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายานอนหลับมาก กลุ่มตัวอย่างที่ได้ใช้ไม่มีอาการเบลอ มึนงง หรืออ่อนเพลียหลังการตื่นนอนเหมือนการใช้ยานอนหลับ และยังรู้สึกสดชื่นอีกด้วย และจากระยะเวลาการวิจัยตลอดเกือบ 1 เดือนยังสามารถสรุปได้ว่าการใช้สารสกัดนี้ปลอดภัย และทำให้กลุ่มตัวอย่างสามารถค่อยๆ ปรับคุณภาพการนอนให้ดีขึ้น
ทีนี้พอจะทราบหรือยังว่าแค่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่เคยทำจนคุ้นชินแค่ไม่กี่อย่างก็มีโอกาสทำให้ปัญหาการตื่นกลางดึก การนอนหลับยาก และการนอนไม่หลับบรรเทาลงและทำให้คุณภาพการนอนดีขึ้นได้ เริ่มทำตามที่ MEGA We care ได้นำเสนอตั้งแต่คืนนี้ รับรองว่าทุกคืนต่อจากนี้ทุกคนจะนอนหลับสนิทไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกอีกต่อไป ด้วยความปรารถนาดีจาก Mega We care
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.henryford.com/blog/2016/09/middle-night-insomnia
https://www.unlockmen.com/stop-waking-up-in-the-middle-of-the-night/
http://infographic.in.th/infographic/ภัยร้าย-ตื่นกลางคืน-ฝืนhttps://www.medicalnewstoday.com/articles/325294#sleep-apnea
https://www.honestdocs.co/cause-of-waking-up-during-night-cannot-sleep
https://www.si.mahidol.ac.th/th/tvdetail.asp?tv_id=451#:~:text=ดังนั้นการใช้ยานอน,ขับรถหรือทำงานกับ