แม้จะมีคำกล่าวที่ว่า ‘อยู่ใต้ฟ้า อย่ากลัวฝน’ แต่สำหรับโรคภัยที่มาพร้อมหน้าฝน กลับเป็นสิ่งที่ทุกคนควรระมัดระวังและเตรียมความพร้อมในการรับมือโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะโรคยอดฮิตที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย
โรคที่พบบ่อยในหน้าฝน
โรคหวัด เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ยิ่งสภาพอากาศที่เย็นและมีความชื้นสูงในช่วงหน้าฝน จะส่งผลให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ดีทำให้ความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคหวัดมีสูง อีกทั้งโรคหวัดเป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านสารคัดหลั่งจึงง่ายที่จะติดต่อกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงวัยจะติดโรคหวัดได้ง่ายและมีอาการรุนแรงกว่าช่วงวัยอื่น ๆ ซึ่งโรคหวัดนั้นส่วนใหญ่จะมีอาการ ไอ ระคายคอ อาจมีเสมหะเล็กน้อยหรือมากจนรู้สึกเจ็บคอ มีไข้เล็กต่ำ น้ำมูกไหล และอาจติดเชื้อในลำคอจนเกิดการระคายเคือง หากปล่อยไว้นานอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งจะมีอาการมากขึ้นจนเกิดการอักเสบ ส่งผลให้เจ็บคอ คอแดง ต่อมทอลซิลโต และอาจติดเชื้อจนเกิดหนองในคอ
นอกจากนี้ หากเป็นหวัดคัดจมูกนานกว่า 7-10 วัน จะก่อให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุโพรงอากาศข้างจมูก มีการอุดกั้นของรูเปิดระหว่างจมูกและไซนัส จนเกิดอาการบวม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายผลิตสารคัดหลั่งมาก สารคัดหลั่งจึงคั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวจนเกิดการอุดตันและกลายเป็นหนอง เป็นอีกหนึ่งภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเรียกว่า ไซนัสอักเสบ
โรคภูมิแพ้ สภาพอากาศเย็นชื้นในหน้าฝน ส่งผลต่อคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคภูมิแพ้อากาศหรือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ทำให้อาการต่าง ๆ กำเริบ เช่น คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันจมูกและบางรายอาจมีอาการคันตา แสบตา หรือหูอื้อร่วมด้วย
4 สิ่งที่ควรมีติดตู้ยาในหน้าฝน
เมื่อโรคต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับหน้าฝนเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดก็คือการรับมือกับโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยการเติมตู้ยาประจำบ้านของคุณด้วย 4 ตัวช่วยสำคัญที่จะเป็นเสมือนเกราะป้องกันโรคต่าง ๆ ดังนี้
วิตามินซี เป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย เสริมสร้างความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการกับเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหวัด ภูมิแพ้ และยังมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายให้กลับมาแข็งแรง แต่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีเองได้ จึงรับเข้าสู่ร่างกายโดยการทานเท่านั้น
ทั้งนี้การรับวิตามินซีจากการทานผักและผลไม้จำนวนมากอาจไม่ได้หมายความว่าจะได้รับวิตามินซีมากพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือหากจะให้ได้วิตามินซีเพียงพอก็จะต้องทานผักและผลไม้ในปริมาณที่มากซึ่งตามมาด้วยน้ำตาลในปริมาณสูงที่เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นวิตามินซีในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงเป็นทางเลือกในการเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีซึ่งควรมีติดไว้ในตู้ยาไว้โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ ซึ่งขนาดในการรับประทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันหวัด ภูมิแพ้ คือ 1,000-2,000 มิลลิกรัม
สมุนไพรพ่นคอ ช่วยบบรเทาอาการไอ ระคายคอ เจ็บคอ ทางเลือกใหม่ที่หลายคนเริ่มให้ความสนใจคือ สมุนไพร เพราะว่ามีความปลอดภัยมากกว่าการใช้ยาเคมีในการรักษา แต่บางรายยังคงมีความกังวลเรื่องของรสชาติที่อาจมีความขม Mega we care จึงขอแนะนำทางเลือกใหม่ของสมุนไพรที่อยู่ในรูปแบบสเปรย์พ่นคอ โดยมีส่วนผสมจากธรรมชาติ100% ปราศจากแอลกอฮอล์และยาเคมีอื่นๆ ที่ทำให้รู้สึกขม จึงสามารถใช้ได้บ่อยครั้ง อีกทั้งรูปแบบสเปรย์นั้นมีข้อดี คือ สะดวกในการพกพาและใช้งาน สามารถฉีดพ่นได้ทันทีที่มีอาการไอ ระคายคอ หรือต้องการเพิ่มความชุ่มคอ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ในสเปรย์พ่นคอดังกล่าว เป็นการรวมสมุนไพรมากถึง 7 ชนิดที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการไอ ระคายคอ ช่วยให้ชุ่มคอได้เป็นอย่างดี ช่วยละลายเสมหะ และมีฤทธิ์ซ่าเชื้อ เช่น สารสกัดคาร์โมมายด์ โพรโพลิสซึ่งเป็นสารสกัดจากผิวรังผึ้ง ว่านหางจระเข้ ชะเอมเทศ น้ำผึ้ง เปปเปอร์มินต์และยูคาลิปตัส เรียกได้ว่า เป็นการรวม 7 สมุนไพรที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง
เอ็กไคนาเซีย เป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ทำยาต่อเนื่องกันมานับร้อยปีด้วยคุณสมบัติในการบรรเทาอาการหวัดและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ช่วยลดระยะเวลาและความถี่ในการเกิดโรคหวัด โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหวัดบ่อยหรือเป็นหวัดเรื้อรังที่อาจทำให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น ไซนัส
นอกจากนี้เอ็กไคนาเซียยังประกอบไปด้วยสารที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาโรคหวัดซึ่งเกิดมาจากเชื้อไวรัส จึงสามารถใช้สมุนไพรชนิดนี้เมื่อเริ่มมีอาการหวัด เจ็บคอได้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะที่อาจก่อให้เกิดการดื้อยาและผลข้างเคียงจากยาอีกด้วย จึงนับว่าเอ็คไคนาเซียจึงเป็นยาสมุนไพรที่ควรมีไว้ติดบ้านไว้ดูแลคนในบ้านอย่างยิ่ง
โพรไบโอติกส์ เป็นจุลินทรีย์ที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ซึ่งโพรไบโอติกส์เพื่อสุขภาพจะเป็นกลุ่มแบคทีเรียที่มีชื่อว่า แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) และบิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) เป็นสายพันธุ์เฉพาะที่ระบุชัดเจนว่ามีสรรพคุณช่วยลดอาการภูมิแพ้และบรรเทาอาการของโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึงช่วยในการสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย
โพรไบโอติกส์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างภูมิต้านทานโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่าการทานโพรไบโอติกส์ต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสมเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน จะช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จึงควรทานอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมกับอาการภูมิแพ้ที่มักกำเริบขึ้นในหน้าฝน
ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวช่วยดี ๆ ที่เสริมสร้างความแข็งแรงของคุณและทุกคนในครอบครัว เพื่อการเตรียมตัวรับมือกับโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในหน้าฝน … ดังนั้นอย่าลืมสำรวจตู้ยาของคุณให้อุ่นใจ หาสิ่งจำเป็นเหล่านี้ติดไว้ เพื่อให้หน้าฝนของคุณเป็นฤดูกาลที่แสนสดใสไร้กังวลเรื่องปัญหาสุขภาพ ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care
ขอบคุณข้อมูลจาก :
Vitamin C and Immune Function. Nutrients 2017 Nov; 9(11): 1211.
https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/know-vitamin-c-deeply
https://journals.plos.org/plosmedicine/article/file?id=info%3Adoi/10.1371/journal.pmed.0020168.sd001&type=supplementary
https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=446
https://www.healthline.com/health/allergies/allergies-or-cold#colds-vs.-allergies https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4058675/