ฝ้าบนหน้าจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

     กว่า 40% ของผู้หญิงไทยที่อายุเกิน 25 ปี มักจะประสบกับปัญหาหรือความกังวลใจเรื่องฝ้า แม้บางคนอาจเห็นว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ก็ทำให้สูญเสียบุคลิกภาพและบั่นทอนความมั่นใจ

     มีคนจำนวนไม่น้อยคิดว่า ‘แสงแดด’ คือ ปัจจัยหลักของการเกิดฝ้า ปัจจุบันมีการยืนยันแนวความคิดใหม่ว่า สาเหตุของการเกิดปัญหาเรื่องฝ้า คือ การที่เซลล์ผิวอ่อนแอลงด้วยปัจจัยจากทั้งภายในร่างกาย ซึ่งได้แก่ วัยที่เพิ่มขึ้น ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย และการขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และเมื่อถูกกระตุ้นซ้ำด้วยปัจจัยจากภายนอก เช่น แสงแดด ความร้อน มลภาวะ ส่งผลให้เซลล์เม็ดสีที่ผิวหนัง มีการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้ผิวหมองคล้ำ หรือเกิดรอยฝ้าขึ้น

รู้จักฝ้าให้มากกว่าเดิมกับฝ้า 3 ประเภท

       ฝ้าชนิดตื้น
            ฝ้าชนิดนี้จะมีความเข้มของสีมากกว่าฝ้าชนิดลึก เพราะจะอยู่แค่บริเวณชั้นหนังกำพร้า  สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนตามบริเวณโหนกแก้ม จมูกหรือหน้าผาก โดยมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม

       ฝ้าชนิดลึก
            ฝ้าชนิดนี้มีความลึกของเม็ดสีอยู่ในชั้นหนังแท้ ทำให้ตอบสนองการรักษาช้า จึงใช้ระยะเวลาในการรักษานานกว่าฝ้าตื้น เพราะบริเวณที่เป็นฝ้าชนิดนี้มักสังเกตเห็นไม่ชัดเจน หรืออาจจะมองเห็นเป็นสีจางๆ เช่น สีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นฝ้าชนิดนี้อาจเข้าใจผิดว่าเป็นฝ้าเพียงเล็กน้อยและรักษาง่าย

       ฝ้าชนิดผสม
            ฝ้าชนิดนี้จะมีทั้งฝ้าชนิดตื้นและชนิดลึก เกิดอยู่ร่วมกันในบริเวณต่างๆ ในขณะรักษาฝ้าชนิดตื้นก็จะจางหายไปก่อนฝ้าชนิดลึก

 วิธีป้องกันรอยฝ้า

       ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และใช้ครีมกันแดด โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี อย่างสม่ำเสมอ และมีค่า SPF อย่างต่ำ 25 ขึ้นไป เพราะจะช่วยปกป้องผิวได้นานยิ่งขึ้น

       พักผ่อนให้เพียงพอ

       หลีกเลี่ยงความเครียดและเลือกรับประทานอาหาร โดยให้ทานอาหารที่หลากหลายและครบถ้วน

       หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมทำลายผิวหน้า ได้แก่ สารที่ทำให้หน้าขาว เช่น สารปรอท โฮโดรควิโนน เป็นต้น

     ปัจจุบันมีแนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหาเรื่องฝ้าจากภายในอย่างตรงจุด และได้ผลดี ด้วยกลุ่มวิตามิน และสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิดที่จำเป็นสำหรับการปรนนิบัติผิว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้คัดสรรอย่างพิถีพิถัน เมื่อผสมผสานกับเทคโนโลยีการผลิตเอกสิทธิ์เฉพาะ จะช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรงและผิวปรับสมดุลการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีให้เป็นธรรมชาติ ช่วยลดความเข้มของเม็ดสีเมลานิน อันเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดรอยฝ้า ด้วยคุณสมบัติต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด และปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดดหรือไอความร้อนต่างๆ  

     แนวคิดนี้เป็นการแก้ปัญหาฝ้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีผลการวิจัยทางการแพทย์สนับสนุนว่าเป็นวิธีที่ได้ผล ผู้ใช้มีความพึงพอใจในผลที่ได้รับ และมีความปลอดภัยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่มีผลข้างเคียงอื่นๆ เมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาฝ้าด้วยวิธีอี่นๆ

6 สารอาหารแก้ปัญหาฝ้าที่ต้องหามาทาน

       สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส
            มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ปรับการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีให้เป็นปกติ เสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว เพิ่มการบำรุงและการกำจัดของเสียจากการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนัง โดยผลการวิจัยทางการแพทย์ พบว่า สามารถแก้ปัญหาเรื่องฝ้าได้ดี ในขนาดรับประทานวันละ 80 มิลลิกรัม ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 เดือน

       วิตามินอี
            มีคุณสมบัติต้านสารอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ชะลอความเสื่อมและเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว และช่วยเสริมการทำงานกับสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศสและวิตามินซี

       วิตามินซี
            มีคุณสมบัติในการต้านสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถชะลอความเสื่อมและเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว  เสริมการทำงานกับสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศสและวิตามินอี

       สารสกัดจากสาหร่าย ดี ซาลีนา
            อุดมไปด้วยสารกลุ่มคาร์โรทีนอยด์และเบต้า คาร์โรทีน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว ปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด เสริมการทำงานกับสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส วิตามินอี และวิตามิน ซี

       สารสกัดจากข้าว
            ช่วยลดการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่าง ขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลขึ้น

       สารสกัดจากมะเขือเทศ
            อุดมไปด้วยสารไลโคพีน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว ปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยแสงแดด ทำให้ผิวทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น เสริมการทำงานร่วมกับเบต้าคาร์โรทีนจากสาหร่ายดี ซาลีนา