‘โรคหลอดเลือดสมอง’ ความสยองในโลกของความจริง!!

    ‘โรคหลอดเลือดสมอง’ ความสยองในโลกของความเป็นจริง!!
         ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยหลายคนยังคงมองว่า ‘โรคหลอดเลือดสมอง’ เป็นเรื่องที่ไกลตัวจึงไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับโรค ส่งผลให้ผู้ป่วยหลายรายได้รับการรักษาช้ากว่าที่ควรจะเป็น เพิ่มความเสี่ยงที่จะพิการและเสียชีวิต ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจุบันโรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญทั่วโลก
ในแต่ละปีมีผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นประมาณ 15 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตกว่า 5 ล้านคน เฉลี่ยทุกๆ 6 วินาที มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 1 คน ที่เหลือส่วนใหญ่ก็กลายเป็นผู้พิการ สำหรับในประเทศไทยพบผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองเสียชีวิตเฉลี่ยประมาณ 5 หมื่นคนต่อปี พิการ 2.5 แสนคนต่อปี ปัจจุบันถือเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในเพศหญิง รองจากอุบัติเหตุและมะเร็ง และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ  คาดว่าในปี พ.ศ. 2563 นี้จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรจะรู้วิธีป้องกัน รวมถึงการรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา
(ข้อมูลจาก https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/admin/article_files/1256_1.pdf)

**  นอกเหนือจาก 4 สัญญาณข้างต้น ยังมีอาการอื่นๆที่ไม่ควรมองข้าม เช่น ตามัวไม่เห็นชั่วขณะสองข้างหรือข้างใดข้างหนึ่ง มีอาการชาเป็นซีก ตามองภาพซ้อน เดินเซ ปวดศีรษะเฉียบพลันรุนแรงอย่างทีไม่เคยเป็นมาก่อน อ่อนแรงครึ่งซีกเป็นเวลา 10 นาที มีอาการเป็นๆหายๆ หายพบว่ามีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ อย่านิ่งนอนใจ

  วิธีป้องกันและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง
         แน่นอนว่าป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าแก้ โรคหลอดเลือดสมองหากรู้วิธีที่ถูกต้องสามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 90 ปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันได้ คือ ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ภาวะไขมันสูง ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผ่อนคลายความเครียด ควบคุมระดับน้ำตาลสะสมให้น้อยกว่าร้อยละ 6.5 รับประทานอาหารที่มีประโยชน์หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจสุขภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
         สำหรับร้อยละ 10 ที่เหลือมาจากปัจจัยเสี่ยงที่ป้องกันไม่ได้ ได้แก่  'อายุ' โดยโรคนี้สามารถเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยแรกเกิด แต่ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น รวมถึงโรคทางพันธุกรรมบางชนิด เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : https://bit.ly/36xYXhI