เทคนิคลดความดันโลหิตโดยไม่ต้องพึ่งยา

เทคนิคลดความดันโลหิตโดยไม่ต้องพึ่งยา

เทคนิคลดความดันโลหิตโดยไม่ต้องพึ่งยา

     โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่ถือเป็น ‘ภัยเงียบ’ และมีความสำคัญกับสุขภาพของคนไทยในปัจจุบัน คนที่เสี่ยงกับโรคนี้เกินกว่า 50% จะไม่มีอาการใดๆ กว่าจะรู้ตัวก็เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นแล้ว โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจหนา ภาวะหัวใจวาย ภาวะไตวายเรื้อรัง หลอดเลือดสมองตีบหรือแตกเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตตามมาไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้แบบกะทันหัน

     สาเหตุหลักที่ทำให้คนไทยในปัจจุบันมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูงเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันหลายปัจจัย เช่น การกินอาหารมันจัด เค็มจัด และการไม่ดูแลสุขภาพปล่อยให้นํ้าหนักตัวเกินมาตรฐาน จนกลายเป็นโรคอ้วน 

     ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้วิธีการรักษาด้วยการกินยา แต่การเลือกกินยาเพื่อลดความดันโลหิตต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ และข้อจำกัดต่างๆ มากมาย เช่น ต้องทานต่อเนื่อง ต้องไม่ลืมทานยา ต้องไม่ลดขนาดยาเอง ห้ามหยุดยาเอง เพราะจะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนได้

     แต่รู้หรือไม่ว่าโรคความดันโลหิตสูงสามารถรักษาได้โดยไม่ต้องทานยา แค่ปรับพฤติกรรการใช้ชีวิตเพียงไม่กี่ข้อ ดังต่อไปนี้

 1. ลดการทานเกลือ (ลดโซเดียม)
     ด้วยการเลิกเติมเครื่องปรุงที่มีเกลือ เช่น น้ำปลาพริก ในอาหาร และลดการทานอาหารฟาสต์ฟูด และอาหารสำเร็จรูปซึ่งใช้เกลือเป็นส่วนผสมในปริมาณมาก รวมทั้งลดการทานขนมปังและซีเรียลที่ใช้เกลือปรุงรส

2. เปลี่ยนมาทานอาหารพืชเป็นหลัก
     เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลในการลดความดันโลหิตสูงได้เป็นอย่างดี การเลือกทานอาหารพืชเป็นหลักที่อุดมด้วยธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ ผักต่างๆ ที่มีไนเตรทมาก เช่น บีทรูทและผักใบเขียว รวมทั้งมีแมกนีเซียม โปตัสเซียม แคลเซียม ให้มากขึ้น เช่น อะโวกาโด นัท เมล็ดพืช ถั่วต่างๆ และเต้าหู้ หรือทานตามสูตรอาหารเพื่อการลดความดัน (DASH diet)  นอกจากนี้ต้องลดปริมาณน้ำตาลทรายที่ใส่เพิ่มเข้าไปในอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งการลดไขมันอิ่มตัว และไขมันทรานส์เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอาหารที่ผ่านการวิธีผัดและทอด

3. เลือกดื่มเครื่องดื่มอย่างฉลาด
    ด้วยการควบคุมการดื่มกาแฟ ชาเขียว ชาดำ ชาขาว (ไม่ใส่ครีมไม่ใส่น้ำตาล) ในปริมาณพอควร หรือเลือกดื่มน้ำพืชสมุนไพรที่สามารถลดความดันได้ เช่น น้ำทับทิม น้ำบีทรูท โกโก้ ชาฮิบิสคัส เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องลดการดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง

4. ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน
    การปล่อยให้น้ำหนักเกิน ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงกับภาวะความดันโลหิตสูง ดังนั้นต้องพยายามลดน้ำหนักลง ให้ดัชนีมวลกายปกติคือไม่เกิน 25 กก./ตรม. หรือให้เส้นรอบพุงไม่เกิน 50% ของส่วนสูง

5. เลิกสูบบุหรี่
    สารพิษที่มีเป็นร้อยชนิดในบุหรี่ มีความสัมพันธ์กับภาวะความดันโลหิต ยิ่งสูบก็ยิ่งทำให้ความดันยิ่งสูงขึ้น

6. ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ
    ด้วยการเลือกออกกำลังกายหลายแบบ ทั้งการออกกำลังกายแบบฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (เล่นกล้าม) สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และออกกำลังกายแบบแอโรบิกให้ถึงระดับหนักพอควร เช่น เดินเร็ว จ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ) ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละอย่างน้อย 5 ครั้ง หรือออกกำลังกายแบบเร่งให้หนักสลับเบาเป็นช่วงๆ (HIIT - high intensity interval training)

 7. ลดความเครียด
     เพราะความเครียดก็เป็นตัวการที่ทำให้ความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน วิธีลดความเครียดก็ด้วยการรู้จักผ่อนคลายร่างกาย

8. ฝึกสติ และสมาธิ
    พยายามทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะหลักฐานวิจัยบ่งชี้ว่าลดความดันโลหิตได้เช่นกัน

9. หลีกเลี่ยงภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
     เพราะหลักฐานจากงานวิจัยว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดความดันเลือดสูงได้เช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก :

พ็อตเกตบุ๊ก 'สุขภาพดีได้ด้วยตัวเอง Good Health by yourself'  โดย นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์ ศัลยแพทย์หัวใจและผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว

This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy