เมื่อคนใกล้ตัวเป็นซึมเศร้าเราควรทำอย่างไร

ในเวลาเพียงไม่กี่ปี สังคมปัจจุบันและสื่อต่างๆ มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าที่มากขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่ควรตระหนักว่าโรคซึมเศร้าใกล้ตัวเรากว่าที่คิด แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจถึงโรคซึมเศร้าและยังไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้องหากมีคนใกล้ชิดเป็นโรคซึมเศร้า เพราะนอกจากการรักษาจากจิตแพทย์ การใช้ยา และการบำบัดอย่างถูกวิธีแล้ว ยังต้องอาศัยความเข้าใจของคนใกล้ชิดอีกด้วย

โรคซึมเศร้า ภัยเงียบที่มีจำนวนคนที่เป็นโรคนี้เพิ่มมากขึ้น มีการเผยแพร่ข้อมูลของศูนย์โรคซึมเศร้าไทย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขเมื่อช่วงต้นปี 2565 ระบุว่า คนไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน โดยในจำนวน 100 คน สามารถเข้าถึงการรักษาเพียง 28 คนเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าคนไทยที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากว่า 70% ที่ไม่ได้รับการรักษา และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่าในคน 20 คน จะพบคนที่มีภาวะซึมเศร้า 1 คน 

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้ามาจากความเครียดสะสมจากการทำงานภายใต้ความกดดัน หรือสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน แต่โรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดจากสาเหตุเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย หากร่างกายอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ร่างกายขาดสารอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยร่วมที่สามารถทำให้เกิด โรคซึมเศร้าได้ เพราะการเริ่มเกิดโรคซึมเศร้ามักมีสิ่งกระตุ้นบางอย่าง แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม ผู้ที่มีอาการเข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคซึมเศร้าและบ่งชี้ถึงภาวะความผิดปกตินี้จึงจำต้องได้รับการช่วยเหลือ

โรคซึมเศร้า (Depression) คืออะไร

โรคซึมเศร้า คือโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่งเกิดจากความผิดปกติของสมอง จากการศึกษาทางการแพทย์ในปัจจุบันพบว่า “โรคซึมเศร้ามีความเชื่อมโยงของสารสื่อประสาทในสมองที่ไม่สมดุล 3 ชนิด ได้แก่ เซโรโทนิน (serotonin) นอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) และโดปามีน (dopamine)” ทำให้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรม รวมถึงสุขภาพร่างกาย

10 พฤติกรรมที่เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า

  • รู้สึกหม่นหมองตลอดทั้งวัน
  • มีความทุกข์จนอยากร้องไห้
  • ไม่มีความสุข ไม่สนุกกับสิ่งที่เคยชอบและเคยทำ
  • สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง มองโลกในแง่ร้าย
  • ไม่อยากเจอใคร ไม่เข้าสังคม อยากอยู่คนเดียว
  • รู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า
  • ไม่มีสมาธิในการทงาน
  • เชื่องช้า อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • หลับยาก หลับไม่สนิท หลับแล้วตื่นกลางดึก
  • มีความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

โรคซึมเศร้าสามารถเกิดขึ้นได้หลายระดับ โดยอาการเหล่านี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้สงสัยอาการของตัวเองหรือคนใกล้ชิด ว่ามีอาการของโรคซึมเศร้าหรือไม่ หากมีอาการไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น ควรได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยโรคซึมเศร้านั้นสามารถรักษาหายได้ด้วยการกินยาอย่างน้อย 6-9 เดือน หรือรักษาด้วยจิตบำบัด

มักมีหลายคนที่สับสนระหว่างโรคซึมเศร้ากับโรคแพนิค ซึ่งโรคแพนิคคือโรควิตกกังวลชนิดหนึ่ง หรือที่เรียกว่าโรคตื่นตระหนก มีอาการรู้สึกกลัว มือสั่น ใจสั่น แน่นหน้าอก เหงื่อแตก ตัวชา ตื่นตระหนกแบบไม่คาดคิดมาก่อน เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถเกิดขึ้นได้ซ้ำ ๆ จนบางครั้งกระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยมีปัจจัยมาจากความเครียดสะสม และระดับฮอร์โมนในร่างกาย

การรักษาโรคซึมเศร้าในปัจจุบัน

1. การรักษาด้วยยาเป็นการรักษาวิธีหลัก ช่วยปรับสารสื่อประสาทในสมองให้สมดุล โดยระยะเวลาในการรักษาสำหรับผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าครั้งแรก ผู้ป่วยมักมีโอกาสกำเริบได้ถึง 80% ทั้งนี้การกินยาและระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา

2. การรักษาด้วยจิตบำบัดมักใช้เป็นวิธีการรักษาควบคู่กับการรักษาด้วยยา ในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะเป็นการพูดคุยกับจิตแพทย์ ช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจตัวเองมากขึ้น สามารถบอกสาเหตุที่ทำให้ตัวเองเป็นซึมเศร้า เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมที่สุด

3. การรักษาด้วยอุปกรณ์ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่ใช้ในผู้ป่วยที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผล มีข้อห้ามในการให้ยารักษา หรือมีอาการรุนแรงแบบเฉียบพลันที่มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง

วิธีการดูแลคนเป็นซึมเศร้า

1. เข้าหาและยินดีที่จะช่วยเหลือ พร้อมรับฟังอย่างตั้งใจและเข้าใจ
2. พาไปพบจิตแพทย์และไปเป็นเพื่อนเสมอ เมื่อถึงวันตรวจตามนัด
3. ดูแลให้กินและนอนเป็นเวลาทุกวัน
4. ทำความเข้าใจและหาความรู้เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าให้มากขึ้น
5. ชวนออกกำลังกายและร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน
6. หากผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าบอกไม่อยากมีชีวิตอยู่หรือคิดทำร้ายตัวเอง ไม่ควรปล่อยให้อยู่คนเดียว

โรคซึมเศร้าเป็นการเจ็บป่วยอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ความอ่อนแอทางจิตใจ โดยจะมีความรู้สึกไม่สบายใจ เป็นทุกข์ เศร้า ท้อแท้ และเบื่อหน่าย โรคซึมเศร้าจะเป็นนานหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค แต่โรคซึมเศร้าสารมารถรักษาหายให้ได้ การรักษาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-9 เดือน แต่สิ่งที่สำคัญที่มีส่วนช่วยให้ภาวะซึมเศร้าหายเร็วขึ้นคือ การดูแลด้วยความตั้งใจ เข้าใจ และอดทนจากเพื่อน ครอบครัว และคนใกล้ชิด 
อ้างอิง

ขอบคุณข้อมูลจาก :

1.  สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ 
2.  ศูนย์โรคซึมเศร้าไทย 
3.  กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

มารู้จักกลุ่มโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) และวิธีป้องกันง่ายๆ

รู้ให้ละเอียดยิ่งขึั้นกับเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

วิตามินซี และฟ้าทะลายโจร2 สิ่งสำคัญของผู้ติดเชื้อ เมื่อต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้าน