เตือน! เล่นโทรศัพท์ทั้งวัน นั่งทำงานนาน ระวัง 7 โรคข้อและกระดูก

โรคข้อและกระดูก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์พกพากลายเป็นสิ่งสำคัญกับชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบันไปแล้ว แต่ถึงเทคโนโลยีเหล่านี้จะสร้างความสะดวกสบาย และมีความจำเป็นต่อชีวิตมากแค่ไหนแต่ถ้าใช้งานเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะ โรคข้อและกระดูก ได้เช่นกัน  


7 โรคข้อและกระดูก ที่ต้องระวัง

1. โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม
ปัจจุบันโรคกระดูกคอ และโรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม เป็นสิ่งที่พบบ่อยได้มากขึ้นในคนวัยทำงาน จากสาเหตุพฤติกรรมการก้มมองหน้าจอนานๆ จนทำให้กระดูกสันหลังส่วนคอได้รับแรงกดส่งผลต่อข้อต่อและหมอนรองกระดูกบริเวณคอทำให้มีอาปวดตึงคอเรื้อรัง และในบางคนมีอาการปวดร้าว หรือชาที่มือและแขนเนื่องจากไปกดทับเส้นประสาท

2. โรค Text Neck Syndrome
อาการเสื่อมของข้อและกระดูก รวมถึงความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ และรวมไปถึงหมอนรองกระดูกคอ โดยอาการเหล่านี้เกิดจากพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นเวลานาน โดย Dr. Akhilesh Yadav รองผู้อำนวยการแผนกกระดูกและข้อของ Max Hospital ในเมือง Vaishali ประเทศอินเดียกล่าวว่า “น้ำหนักของศีรษะคนเราจะมีน้ำหนักเฉลี่ย 4-5 กิโลกรัม การเอนศีรษะไปข้างหน้าเพื่อจ้องจอนานๆ จะเพิ่มน้ำหนักการกดลงบนคอ และถ้าทำบ่อยๆ จนเคยชินจะส่งผลให้เส้นประสาทถูกกดทับ กล้ามเนื้อตึง และมีโอกาสที่กระดูกสันหลังส่วนคอเคลื่อน”

3. โรค RSI
เป็นโรคที่เกิดจากการนั่งทำงาน นั่งเล่นอยู่หน้าเครื่องคอมฯ แบบผิดท่าเป็นเวลานาน สามารถเกิดได้กับทุกส่วนในร่างกาย เช่นแขน ข้อมือ ข้อนิ้ว แผ่นหลัง ต้นคอ หัวไหล่และสายตา หากปล่อยไว้นานๆ อาจต้องผ่าตัดเอ็น โดยอาการจะไล่ตั้งแต่จากน้อยไปหามากตั้งแต่ปวดเมื่อยเพียงเล็กน้อย และปวดรุนแรงขึ้นจนอวัยวะส่วนนี้ใช้งานได้ไม่สะดวก

4. โรคกระดูกพรุนบริเวณกระดูกสันหลัง
หนึ่งในสาเหตุของโรคกระดูกพรุนเกิดได้จากการนั่งเป็นเวลานาน และอยู่ในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะกระดูกสันหลังทำให้กระดูกอ่อนแอ และเปราะหักได้ง่าย การนั่งเป็นเวลานานในท่าทางที่ไม่ถูกต้องมีส่วนที่ทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกดที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้มวลกระดูกบริเวณกระดูกสันหลังลดลงอย่างรวดเร็ว

5. อาการ Thoracic Outlet Syndrome

กลุ่มอาการที่เส้นเลือด และเส้นประสาทถูกกดทับที่หน้าอก ต้นคอ ใต้กระดูกไหปลาร้า และหัวไหล่ด้านหน้าจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ หรือใช้งานกล้ามเนื้อมากจนเกินไป หากใช้คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์พกพาในท่าทางไม่ถูกต้องมีอาจทำให้เกิดอาการปวดคอไหล่ ชาที่นิ้ว และอาการอ่อนแรงในการหยิบจับได้ ยิ่งปล่อยไว้นานอาจส่งผลให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น

6. ปวดหลังส่วนล่าง และหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน
การนั่งทำงานเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการนั่งหลังค่อมหรือไม่มีการรองรับมีส่วนที่ทำให้ปวดหลังส่วนล่างมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน มีโอกาสเกิดอาการชา หรืออ่อนแรงที่ขา และยิ่งไม่มีอุปกรณ์ช่วยพยุงตามหลักสรีรศาสตร์ยิ่งทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

7. นิ้วล็อก
เป็นอาการที่พูดกันติดปากซึ่งเกิดจากการอักเสบของเอ็นที่งอนิ้วจากการจับเมาส์คอมพิวเตอร์ หรือถืออุปกรณ์มือถือเป็นเวลานานมากๆ บางคนจำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพราะมีอาการปวดตึงไม่หาย


แม้ว่าการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัทพ์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จะมีความสำคัญต่อพฤติกรรมชีวิตในปัจจุบัน แต่ถ้าใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้มากเกินไปหรืออยู่ท่าเดิมนานๆ ก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายได้ การปรับท่าทางให้เหมาะสม การจำกัดเวลาในการใช้ หรือละจากการใช้เป็นระยะ รวมทั้งใช้อุปกรณ์ตามหลักสรีรศาสตร์เป็นตัวช่วยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง


นอกจากนี้การทำให้ข้อกระดูกตามส่วนต่างๆ ในร่างกายแข็งแรงก็เป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นออกกำลังกาย การขยับเขยื้อนลุกเดินหรือบริหารร่างกายเบาๆ ระหว่างวัน รวมทั้งการกินอาหารที่มีสารอาหารเพื่อบำรุงข้อกระดูก การเสริมสารอาหารประเภทแคลเซียม วิตามินดี หรือคอลลาเจนบำรุงข้อกระดูกก็เป็นสิ่งที่ควรทำควบคู่กันไป
อ่านต่อ : เช็กลิสต์! คุณมีความเสี่ยง ข้อเสื่อม และกระดูกพรุนหรือไม่ ?

อ้างอิง

1. types of bone issues laptop and mobile usage can cause https://shorturl.asia/2PxSL
2. สำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ สสส
3. ศูนย์กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดลฐานข้อมูล
4. วิตามินและสารอาหาร MEGA We care

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

มารู้จักกลุ่มโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) และวิธีป้องกันง่ายๆ

รู้ให้ละเอียดยิ่งขึั้นกับเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

วิตามินซี และฟ้าทะลายโจร2 สิ่งสำคัญของผู้ติดเชื้อ เมื่อต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้าน