คู่มือการงีบหลับตอนกลางวัน เพื่อบูสท์พลังสมอง

การ ‘งีบหลับ’ ช่วงบ่าย เป็นวิธีธรรมชาติในการเติมพลังงานให้กับร่างกาย โดยเฉพาะหลังมื้อกลางวัน แต่การงีบหลับจะเป็นประโยชน์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการหลับที่ถูกต้องด้วย

5 คู่มือการ ‘งีบหลับ’ ที่ควรรู้

1. จำกัดเวลางีบหลับไม่เกิน 20-30 นาที

การงีบหลับนานเกินไป จะทำให้เข้าสู่ช่วงหลับลึก ส่งผลให้ตื่นมาด้วยความง่วงนอนมากขึ้น การงีบหลับสั้นๆ ไม่เกิน 20-30 นาที จะช่วยเพิ่มสมาธิและปรับปรุงอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น

2. เลือกเวลางีบหลับให้ดี

การงีบหลับกลางวันที่ดีต่อสมองนั้น จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 13.00-15.00 น. ควรหลีกเลี่ยงการงีบหลับหลังเวลา 16.00 น. เพราะอาจรบกวนวงจรการนอนหลับตอนกลางคืน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับอยู่แล้ว

3. งีบหลับเมื่อขาดการนอนหลับเท่านั้น

การงีบหลับควรเป็นการชดเชยการนอนไม่เพียงพอจากคืนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนการนอนหลับเต็มเวลาได้ แต่สามารถช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความตื่นตัวระหว่างวัน แต่หากนอนหลับตอนกลางวันบ่อยๆ อาจทำให้นอนไม่หลับตอนกลางคืนและตื่นกลางดึกได้เช่นกัน

4. หลีกเลี่ยงการงีบหลับทุกวัน

การงีบหลับกลางวันเป็นประจำ จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนล้าหรือรู้สึกอ่อนเพลียเรื้อรังระหว่างวันได้ รวมถึงอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่คาดไม่ถึง เช่น การตื่นกลางดึก การนอนหลับยาก อารมณ์แปรปรวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงจรการนอนหลับและการหลั่งของโกรทฮอร์โมนในตอนกลางคืนได้

5. รอให้อาหารย่อยก่อน

ก่อนที่จะงีบหลับตอนกลางวัน ควรรอให้กระเพาะอาหารย่อยอาหาร อย่างน้อย 30 นาทีหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันกรดไหลย้อนและปัญหาการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ โดยแนะนำให้งีบหลับในท่าเอนหลังมากกว่านอนราบ

ประโยชน์ของการงีบหลับ

การงีบหลับ 20-30 นาทีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ปรับปรุงความจำ ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการเรียนรู้ และทักษะการแก้ปัญหา เหมาะสำหรับคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา หรือ ผู้ที่ต้องการพลังงานเพิ่มเติมระหว่างวัน แต่หากใครที่ไม่มีเวลาว่างงีบหลับในตอนกลางวัน สามารถใช้ตัวช่วยเพิ่มความสดชื่นระหว่างวันได้ เช่น สารสกัดจากโสมเกาหลี หรือ วิตามินบีรวม จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าและรู้สึกสดชื่น บูสท์พลังสมองมากยิ่งขึ้น

📌 สนใจข่าวสารสุขภาพเพิ่มเติมและสอบถามผู้เชี่ยวชาญของ 𝐌𝐄𝐆𝐀 𝐖𝐞 𝐜𝐚𝐫𝐞 ได้ที่ 𝐋𝐢𝐧𝐞@ : @𝐦𝐞𝐠𝐚𝐰𝐞𝐜𝐚𝐫𝐞 หรือ คลิก