วิตามินซีแบบชง ดื่มง่าย ประโยชน์เยอะ

เทรนด์เรื่องการดูแลสุขภาพกำลังมาแรง มีคนจำนวนไม่น้อยหันมาใส่ใจสุขภาพดูแลตัวเองกันมากขึ้น นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้พอแล้ว อีกหนึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงของคนในปัจจุบันที่เลือกทำอย่างแพร่หลายก็คือ การทานวิตามินและอาหารเสริม หากจะพูดถึงวิตามินที่ถือว่าเป็นวิตามินพื้นฐานและจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งได้รับความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่งก็คงจะหนีไม่พ้น วิตามินซี (Vitamin C)

เป็นที่รู้กันว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย ทั้งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายไม่ป่วยบ่อย และยังมีคุณสมบัติที่ถูกใจสาวๆ ในการช่วยผิวพรรณให้กระจ่างใส ไม่โทรมอีกด้วย แต่เนื่องจากวิตามินชนิดนี้ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ต้องรับเข้าสู่ร่างกายด้วยการรับประทานเท่านั้น และถ้าหากร่างกายได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ ก็จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ซึ่งในปัจจุบันมีวิตามินซีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบเม็ด แบบเยลลี่ แบบเม็ดฟู่ แบบน้ำ และวิตามินซีในแบบผง ซึ่งเป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอยู่ในขณะนี้

ความแตกต่างที่โดดเด่นของ วิตามินซีแบบชง

ปัจจุบันในท้องตลาดมีวิตามินซีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด แบบเยลลี่ แบบเม็ดฟู่ แบบน้ำ รวมถึงวิตามินซีในแบบผงสำหรับชงดื่ม ซึ่งวิตามินซีในแต่ละรูปแบบก็มีความเหมาะสมกับช่วงวัยและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่คาดหวังว่าจะได้จากวิตามินซีในรูปแบบนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน หรือเรื่องผิวพรรณความสวยความงาม และรวมไปถึงความสะดวกที่จะทาน เช่น บางคนมีปัญหาเรื่องการทานยาเม็ด กังวลเรื่องความระคายเคืองกระเพาะอาหาร ก็อาจเลือกวิตามินซีรูปแบบผงเพราะชงดื่มง่าย และไม่มีความเป็นกรดเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้บริโภคแต่ละคน

วิตามินซีแบบชง ที่ตอบโจทย์คนเป็นโรคกระเพาะ

ปัจจุบันมีสถิติของคนไทยที่ป่วยเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนต้น หรือโรคกระเพาะเพิ่มมากขึ้นทุกปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณปีละ 80,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเมือง พนักงานออฟฟิศ ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักมาจากวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลา ทำให้รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การงดมื้ออาหาร รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ รวมไปถึงภาวะเครียดต่างๆ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เอง ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมามากมาย และโรคกระเพาะก็คือหนึ่งในโรคยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย ที่คงไม่มีใครอยากเป็น เพราะถึงแม้ว่าจะฟังดูไม่อันตราย แต่ความจริงแล้วโรคดังกล่าวมีโอกาสที่จะลุกลามและเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นได้หากปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง
ดังนั้นผู้ป่วยเป็นโรคกระเพาะจึงต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารเป็นพิเศษ เพื่อลดความรุนแรงของโรค เพิ่มคุณภาพชีวิต และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

แต่ถึงแม้จะรู้ว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ทั้งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันหวัด และลดความรุนแรงของหวัด ภูมิแพ้ บำรุงผิวให้สุขภาพดีจากภายใน และคุณประโยชน์อื่นๆ แต่ผู้เป็นโรคกระเพาะหรือมีแผลในกระเพาะอาหารส่วนใหญ่ไม่กล้ารับประทานวิตามินชนิดนี้ เนื่องจากเป็นวิตามินที่มีความเป็นกรด หลายคนจึงเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่า ทานวิตามินซีแล้วจะระคายเคืองกระเพาะอาการ ทำให้แสบท้อง จึงเลือกที่จะไม่ทานวิตามินซี ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะขาดวิตามินซี หรือมีภูมิคุ้มกันที่ถดถอยลงได้ง่าย

แต่อย่าลืมว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ เป็นโรคกระเพาะก็ใช่ว่าจะดูแลตัวเองไม่ได้ เพราะในปัจจุบันมีวิตามินซีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบ สำหรับวิตามินซีที่ตอบโจทย์ของคนเป็นโรคกระเพาะมากที่สุดในตอนนี้คือ วิตามินซีที่ไม่เป็นกรด หรือ วิตามินซีที่อยู่ในรูปแบบ Calcium ascorbate ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะทั้งหลาย ผู้ที่กังวลเกี่ยวกับการกรด สามารถรับประทานวิตามินซีตัวนี้ได้อย่างสบายใจ และได้รับคุณประโยชน์จากวิตามิซีอย่างครบถ้วน คนเป็นโรคกระเพาะสามารถรับประทานได้ ไม่ระคายเคืองกระเพาะ และสามารถรับประทานได้ขณะท้องว่าง อีกทั้งชงดื่มง่าย และพกพาได้สะดวก

วิตามินซีแบบผงที่ดีต่อคนเป็นโรคกระเพาะเป็นอย่างไร?

1. ต้องไม่มีความเป็นกรด เพื่อไม่ให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
2. ต้องให้วิตามินซีสูงเทียบเท่ารูปแบบเม็ด
3. ต้องมีไบโอฟลาโวนอยด์ปริมาณสูง เพื่อช่วยในการดูดซึมและอยู่ในร่างกายได้นานกว่า
4. ต้องสามารถรับประทานได้ต่อเนื่องโดยไม่มีผลข้างเคียง (อ่านเพิ่มเติมเรื่องวิธีรับประทานวิตามินซี คลิกที่นี่)

วิตามินซีแบบชง ตัวช่วยเสริมภูมิต้านทานสำหรับผู้สูงอายุ

นอกเหนือจากที่ผู้สูงอายุจะต้องดูแลร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เน้นผักผลไม้ ออกกำลังกายอย่างเพียงพอแบบไม่หักโหมและต้องเลือกวิธีการออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดแล้ว ในวงการแพทย์ยังแนะนำให้บรรจุวิตามินซีไว้เป็นสารอาหารที่ต้องทานเป็นประจำทุกวัน

วิตามินซี (Vitamin C) เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง จึงต้องรับเข้าสู่ร่างกายด้วยการรับประทานเท่านั้น อาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ผักและผลไม้ชนิดต่างๆ ส้ม ฝรั่ง มะนาว บล็อกโคลี่ ผักคะน้า มะละกอ มะเขือเทศ ฯลฯ ดังนั้นในแต่ละมื้ออาหารจึงจำเป็นที่จะต้องรับประทานเป็นประจำและในปริมาณที่มากพอกับความต้องการ

แต่ในความนิยมในการรับประทานวิตามินซีจะมีให้รูปแบบของวิตามินซีแบบเม็ด แต่นั่นอาจจะไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุมากนัก ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำทางเลือกที่สะดวกขึ้นเป็นวิตามินในรูปแบบผงที่ชงผสมกับน้ำ ด้วยเหตุผล 4 ข้อคือ

1. ไม่มีความเป็นกรด จึงไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
2. มีไบโอฟลาโวนอยด์ ทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้ดีมากขึ้น
3. เหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ และมีปัญหาในการรับประทานยาเม็ดได้ยาก
4. ให้ประโยชน์เทียบเท่าวิตามินซีแบบเม็ด ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย