เมื่อเป็นโรคตับ นอกเหนือจากการงดการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันเซลล์ตับถูกทำลายมากขึ้น การหลีกเลี่ยงทานอาหารที่มีไขมันสูง เค็มจัด และควรทานอาหารที่ปรุงใหม่ๆ แล้ว การพักผ่อนก็ต้องมีมากเพียงพอ รวมถึงต้องออกกำลังกายเป็นประจำแต่ต้องไม่หักโหมจนเกินไป
บำรุงตับ ควรรับประทานอะไรดี?
นอกจากการลด ละ เลิก อาหารที่ไม่มีประโยชน์แล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้ทานสารอาหารที่ช่วย บำรุงตับ ให้ดีขึ้นอย่างเช่น
- Dandelion root extract
ช่วยส่งเสริมการขจัดสารพิษจากตับและถุงน้ำดี ลดผลข้างเคียงจากยาที่ถูกทำลายที่ตับ ป้องกันความบกพร่องของทำงานที่ตับและเพิ่มการไหลเวียนของน้ำดี มีฤทธิ์ส่งเสริมการทำงานของตับให้สามารถหลั่งน้ำดีได้มากขึ้น และการย่อยอาหารประเภทไขมันเกิดได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร อาการเบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย และสามารถกระตุ้นการขับปัสสาวะ จึงช่วยลดการบวมน้ำได้ ในประเทศเยอรมันใช้เป็นยารักษาอาการตับอักเสบเฉียบพลัน
- Apple Vinegar
ประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นหลายชนิด จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการเผาผลาญสารอาหาร ช่วยระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะอาหารประเภทไขมัน และช่วยปรับสมดุลกรดด่างในลำไส้ ส่งผลให้แบคทีเรียก่อโรคไม่สามารถเติบโตได้ จึงลดภาวะการติดเชื้อในลำไส้ได้
- L-methionine
มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และจับกับโลหะหนักที่เป็นพิษต่อตับได้ดี มีข้อมูลแนะนำว่าช่วยลดปฏิกิริยาการทำลายเนื้อตับของยาแก้ปวดพาราเซตามอล และยารักษามะเร็ง (methotrexate) ได้ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีน และสารที่จำเป็นต่อกระบวนการขจัดพิษของตับ เช่น กลูตาไธโอน
- Selenium
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการต้านพิษจากโลหะหนัก โดยจับกับโลหะหนักนั้นแล้วกลายเป็นสารที่ไม่ก่อพิษ สามารถป้องกันการเกิดมะเร็ง และต้านภาวะไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเอ็นไซม์ขจัดสารพิษของตับ คือ enzyme P450 จึงช่วยลดความรุนแรงของปฏิกิริยาที่ก่อให้เกิดพิษต่อตับได้
- Brewer’s Yeast Extract
อุดมไปด้วย สารอาหารบำรุงตับ โดยเฉพาะกลุ่มวิตามินบี โครเมียม และซีลีเนียม ที่มีประโยชนต่อกระบวนการเผาผลาญที่ตับ
- Evening Primrose Oil
เป็นสารต้านอักเสบ ช่วยลดไขมันในเลือด สารสำคัญ (EPO) GLA ใน EPO ยังช่วยจับกับแอลกอฮอล์ จึงช่วยลดภาระ และป้องกันความเสียหายของตับได้
- Inositol
มีฤทธิ์ในการจับกับไขมัน จึงช่วยนำไขมันออกจากตับได้ ทำให้การทำงานของตับ และท่อน้ำดีทำงานดีขึ้นส่งผลดีต่อผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ และโรคตับแข็ง
- Choline
ช่วยป้องกันความเสียหายของตับ และช่วยในขบวนการขนส่งไขมันออกจากตับ รวมถึงช่วยลดการดูดซึมโคเลสเตอรอลที่ลำไส้ จึงช่วยลดความรุนแรงของภาวะไขมันพอกตับได้
- Phosphatidylcholine
ฟอสฟาทิดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) เป็นสารสำคัญที่พบในเลซิติน (Lecithin) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย รวมทั้งเซลล์ตับ นอกจากนี้ฟอสฟาทิดิลโคลีนยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติจากยา แอลกอฮอล์ สารเคมี สารพิษต่างๆ ที่จะทำลายตับ
