Search

เสริมสร้างความแข็งแรงให้ ‘ตับ’ เพื่อสุขภาพที่ดี

บำรุงตับ


ในปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคตับอักเสบมากถึง 7 ล้านคนในไทย และมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนมากขึ้นในทุกปี หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งตับและเสียชีวิตในที่สุด เพราะตับ (Liver) เป็นอวัยวะที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าสมองหรือหัวใจ หากสูญเสียตับไปจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะตับทำหน้าที่ควบคุมสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะที่เป็นปกติ ช่วยกำจัดเชื้อโรคและสารพิษในเลือด และยังช่วยในการดูดซึมไขมันและวิตามินที่ละลายในไขมันอีกด้วย

5 อาการป่วยเกี่ยวกับตับที่ควรระวัง


ในทางการแพทย์มีอาการป่วยมากมายที่ส่งผลต่อตับโดยตรง และมีอยู่ 5 โรคที่ร้ายแรงและควรต้องรักษาโดยทันที

  1. ตับอักเสบ
    เป็นสภาวะความเจ็บป่วยของตับที่เกิดจากโรคตับชนิดต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบ การดื่มสุรา ไขมันพอกตับ และการติดเชื้อจากการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่น ๆ หากปล่อยไว้โดยไม่ปรึกษาแพทย์อาจเกิดตับอักเสบเฉียบพลันและอันตรายถึงชีวิตได้ หรือหากปล่อยทิ้งไว้จนเป็นตับอักเสบแบบเรื้อรังก็อาจนำไปสู่โรคมะเร็งตับได้ในที่สุด
  2. ตับแข็ง
    โรคนี้เกิดจากเนื้อเยื่อบริเวณตับถูกทำลายจนอักเสบหรือเกิดแผลจากโรคตับชนิดต่าง ๆ เมื่อแผลบริเวณนั้นหายไปจะเกิดเนื้อเยื่อชนิดหนึ่งมาทดแทนเรียกว่า พังผืด ไปรัดหรือกดทับเส้นเลือดในตับ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ในที่สุดตับจะไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง การเกิดภาวะตับอักเสบที่นำพาจนกลายมาเป็นภาวะตับแข็ง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การดื่มสุรา การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือจากภาวะไขมันพอกตับ
  3. การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ
    โรคไวรัสตับอักเสบมีหลายชนิด ทั้งชนิด A B C D และ E ซึ่งไวรัสตับเหล่านี้มีการแพร่ระบาดอยู่ในประเทศไทย โดยมีประชากรกว่า 3 ล้านคนเป็นพาหะของโรค ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบจะมีอาการอ่อนเพลีย จุกเสียด แน่นท้อง และปัสสาวะสีเข้มกว่าปกติ ที่สำคัญโรคนี้สามารถติดต่อกันผ่านทางการสัมผัสใกล้ชิด ทางโลหิต และการมีเพศสัมพันธ์ได้ด้วย
  4. ภาวะไขมันพอกตับ
    อีกหนึ่งโรคตับที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันมากเกินไปต่อเนื่องเป็นเวลานาน เมื่อตับไม่ได้ย่อยสลายหรือนำไขมันเหล่านั้นไปใช้ก็จะเกิดการสะสมที่ตับกลายเป็นไขมันพอกตับ หรือบางกรณีอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง โดยทั่วไปโรคนี้จะไม่แสดงอาการทางร่างกายหรือมีอาการน้อยมากจนไม่ทันสังเกต จะรู้ว่าเป็น ไขมันพอกตับ หรือไม่ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยเข้ารับการตรวจสุขภาพหรือตรวจหาโรคอื่นๆ ที่ต้องมีการเจาะเลือด
  5. มะเร็งตับ
    หนึ่งในโรคมะเร็งที่มีอัตราผู้เสียชีวิตสูง และความน่ากังวลใจคือ ผู้ป่วยมะเร็งตับจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น กว่าที่ผู้ป่วยจะรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้หรือได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก็มักอยู่ในระยะท้าย ๆ หรือลุกลามจนไม่สามารถรักษาได้ โรคมะเร็งตับจึงเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

9 สารอาหารป้องกัน ไขมันพอกตับ ช่วยบำรุงตับให้แข็งแรง


สารอาหารบำรุงตับ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สำคัญในการปกป้องตับให้แข็งแรง และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับ รวมถึงช่วยขับสารพิษและบำรุงตับ ตัวอย่างสารอาหารที่เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการดูแลตับควรเป็นสารอาหารสำคัญในการบำรุงตับ ดังนี้

  1. บริเวอร์ยีสต์ (Brewer’s Yeast)
  2. แอล เมไธโอนีน (L-Methionine)
  3. สารสกัดจากรากต้นแดดิเลียน (Dandelion Root Extract)
  4. ซีลิเนียม (Selenium Methionine Complex)
  5. โคลีน (Choline)
  6. ไอโนซิทอล (Inositol)
  7. สารสกัดแอปเปิล (Apple Vinegar Powder)
  8. เลซิติน (Lecithin)
  9. น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil)

นอกจากนี้ อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคตับ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ลดความถี่ในการรับประทานอาหารสำเร็จรูปที่มีการใส่สารกันบูด และไม่ซื้อยาทานเองติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพื่อปกป้องตับของคุณให้แข็งแรงได้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยความห่วงใยจาก MEGA We care

อัลบั้มภาพ

ข่าวสุขภาพอื่นๆ

โรคตับ

ดูแลสุขภาพ ‘ตับ’ ให้แข็งแรงด้วยสารอาหารที่สำคัญ

บำรุงตับ

เสริมสร้างความแข็งแรงให้ 'ตับ' เพื่อสุขภาพที่ดี

บำรุงตับ

อ่านแล้วรู้ทันที... อะไรคือสารอาหารที่ดีสำหรับตับของคุณ