สาวๆ หลายคนต้องการมีหุ่นผอมเพรียวดุจนาฬิกาทราย ความคิดที่ว่ายิ่งผอมเท่ากับการมีหุ่นดีหลายคนจึงเลือกลดความอ้วนแบบผิดวิธี ด้วยการอดอาหาร แทนการควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย ผลที่ได้ก็คือร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดสารอาหาร และอาจนำไปสู่โรคต่างๆได้ รวมไปถึงภาวะผมร่วงเช่นกัน
ทำไมการ ลดน้ำหนักผิดวิธี จึงทำให้ผมร่วง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ‘การขาดสารอาหาร’ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมหลุดร่วง นั่นเพราะเส้นผมยังต้องการวิตามินและสารอาหารอย่างเพียงพอที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของรากผม โดยเฉพาะจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ที่มีส่วนช่วยให้เซลล์ผมมีการเจริญเติบโตได้ดี จึงไม่แปลกเลยที่จะเกิดปัญหาผมร่วงได้ง่ายกับคนที่กำลังลดความอ้วน นั่นก็เพราะเลือกวิธีลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี เช่น อดอาหาร งดมื้ออาหารในแต่ละวัน จำกัดปริมาณแคลอรี่มากเกินไป บ้างก็เลือกกินแบบอาหารเดิมๆซ้ำๆ ไม่มีความหลากหลายของอาหาร ซึ่งวิธีปฏิบัติเหล่านี้ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น รวมไปถึงสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผมด้วย ผู้เชี่ยวชาญเผยถึงความสัมพันธ์กันระหว่างการลดความอ้วนกับปัญหาผมร่วงไว้ว่า
ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนมุ่งมั่นกับการลดน้ำหนักมากจนเกิดภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัว บ้างก็เกิดภาวะวิตกกังวลในการเลือกทานอาหารเพื่อหวังว่าจะลดน้ำหนักให้เร็วๆ และนั่นทั้งความเครียดวิตกกังวลจะเป็นอีกตัวการหนึ่งที่กระตุ้นทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน
อ่านต่อ : เครียด ผมร่วง แก้ปัญหาได้ด้วยสารอาหารบำรุงผม
7 เคล็ดลับ ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี
อยากลดความแบบไม่ต้องกลัวผมร่วงทำได้ง่ายๆ แค่เลือกกินอาหารที่ไม่ทำให้อ้วน ด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ที่สำคัญไม่อดอาหารและไม่กินเพียงแค่อาหารชนิดเดียว ควรทานให้หลากหลายภายใต้แคลอรี่ที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เพียงแค่นี้ก็จะทำให้ร่างกายได้สารอาหารอย่างเพียงพอ ลดน้ำหนักได้อย่างมีคุณภาพตามเป้าหมาย แถมยังช่วยบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดี ไม่แห้งเสีย หรือหลุดร่วงอีกด้วย อาหารอะไรบ้างที่คนอยากลดความอ้วนควรเลือกทาน และต้องปฏิบัติตัวอย่างเพื่อให้ได้หุ่นดีตามที่ตั้งใจ ตามไปดูพร้อมกัน

- เติมเต็มด้วยมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้าสำคัญที่สุด เพราะเป็นมื้อที่ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอสำหรับทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน และส่งผลดีต่อสุขภาพผม เพราะหลังจากตื่นนอนในตอนเช้าร่างกายต้องกายพลังงานเพื่อทำไปใช้ในการสร้างเซลล์เส้นผม แนะนำให้เลือกอาหารเช้าที่มีคุณภาพครบถ้วนทางด้านสารอาหารหรือครบทุกหมู่จะดีมาก
- กินโปรตีนให้เพียงพอ
เพราะโปรตีน เป็นโครงสร้างหลักของเส้นผม ช่วยให้เส้นผมมีการงอกที่ดีและเส้นผมหนาขึ้น ดังนั้นในการลดความอ้วนที่ดีคือ เลือกกินอาหารประเภทโปรตีนที่มีไขมันต่ำ ในปริมาณที่เพียงพอต่อแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับ อาหารที่ให้โปรตีนอย่างมีคุณภาพ เช่น อกไก่, เนื้อปลา ไข่ขาว ถั่ว ควินัว เต้าหู้ และอะโวคาโด เป็นต้น
- ดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ
ในช่วงที่ลดความอ้วนและออกกำลังกาย ร่างกายจะขาดน้ำได้ง่ายขึ้น จึงควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ หากร่างกายขาดน้ำ นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลทำให้หนังศีรษะแห้ง มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม วิธีสังเกตเมื่อร่างกายขาดน้ำคือ ปากแห้ง ผิวแห้ง หนังศีรษะแห้ง
- เลือกรับประทานกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
แหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่รู้จักกันก็คือแป้ง และการรับประทานแป้งมากๆ จะทำให้เกิดการสะสมของน้ำตาลและเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมได้มากขึ้น นั่นคือต้นเหตุของความอ้วน แต่การเลือกทานอย่างถูกวิธีคือ เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จะช่วยให้ลดความอยากอาหารและให้ไฟเบอร์ ช่วยให้อิ่มท้องและช่วยระบบขับถ่ายได้อีกด้วย อย่างเช่น ขนมปังโฮลวีต แครกเกอร์ธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ซ้อมมือ ข้าวโอ๊ต มันเทศ ฟักทอง แอปเปิ้ล กล้วย เป็นต้น
- เลือกรับประทานไขมันดี
การพยายามลดความอ้วนด้วยการอดอาหารจะทำให้หิวจนรู้สึกทรมาน และเมื่อร่างกายทนไม่ได้ก็จะกลับมารับประทานมากกว่าเดิมท้ายที่สุดการลดความอ้วนก็จะล้มเหลว เราสามารถทานอาหารที่มีไขมันต่ำ โดยแหล่งไขมันที่ทานได้คือไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอะโวคาโด หรือเนยถั่ว
- เสริมผักผลไม้อย่างเพียงพอ
แน่นอนว่าเราควรเลือกกินผักผลไม้ชนิดที่ไม่มีน้ำตาลสูงจนเกินไป แต่เพื่อไม่อยากให้ร่างกายขาดวิตามินและแร่ธาตุ ควรเลือกรับประทานหลากหลาย เช่น
6.1 ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้เส้นผม ทำให้ผมยาวเร็วนั่นเอง เช่นกลุ่มส้ม ฝรั่ง กีวี่ มะละกอสุก
6.2 ผักใบเขียว แหล่งของธาตุเหล็ก เพราะธาตุเหล็กเป็นอีกหนึ่งที่ช่วยให้มีการงอกของเส้นผมได้ดี ร่างกายควรได้รับอย่างเพียงพอ และเมื่อเราจำกัดการทานเนื้อสัตว์อย่างเนื้อแดง ซึ่งเป็นแหล่งของธาตุเหล็กนั้น ทางเลือกที่เหมาะสมในการลดน้ำหนักคือการเลือกทานผักเยอะๆ โดยเฉพาะผักที่มีสีเขียว
- ออกกำลังกายอย่างพอดี
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการออกกำลังกายอย่างหนักและหักโหมจะช่วยลดความอ้วนได้ แต่ความจริงแล้วมันไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเลย แต่การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมคือการออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่งควบคู่กับแบบคาร์ดิโอ (เช่น การเดินหรือการวิ่งเหยาะๆ การปั่นจักรยาน รวมถึงการว่ายน้ำ) ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน เพียงแค่นี้จะทำให้การลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเลยแถมให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย