เส้นผม และเล็บ ถือเป็นส่วนหนึ่งของผิวหนังประกอบด้วยเซลล์ของหนังกำพร้าที่กลายรูป และเต็มไปด้วยสารโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นผิวหนังที่ตายแล้ว และไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยง หากไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ หรือขาดการบำรุงอย่างเหมาะสมอาจทำให้เล็บเปราะ หักง่าย หรือเล็บเหลืองไม่น่ามอง รวมไปถึงผมที่เสีย และขาดหลุดร่วงง่ายจากการทำสี ยืด หรือดัดด้วยสารเคมี
ปัญหาเล็บไม่แข็งแรง และผมขาดหลุดร่วงง่ายอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ การสูญเสียความสมดุลของฮอร์โมน โรคภัยไข้เจ็บ ความเครียด และการดูแลเส้นผมที่ไม่ถูกวิธี การขาดสารอาหารประเภทโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ เช่น
การที่ร่างกายขาดซิงค์หรือแร่ธาตุสังกะสีเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติได้หลายอย่างที่สังเกตได้
เช่น บาดแผลหายช้า ภูมิคุ้มกันลดลงส่งผลให้ติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น เบื่ออาหาร การรับรู้รสชาติอาหารลดน้อยลง มีอาการซึมเศร้า หงุดหงิด ขาดสมาธิ เหม่อลอย เป็นต้น อีกทั้งยังส่งผลให้เล็บ และเส้นผมมีความอ่อนแอลง โดยสามารถสังเกตได้ ดังนี้
แร่ธาตุสังกะสี (Zinc) เป็นแร่ธาตุจำเป็นที่ร่างกายต้องใช้ในขบวนการทางเคมีมากมาย โดยมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์กรดนิวคลิอิก (Nucleic acid) และโปรตีนเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 200 ชนิด โดยเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม และเล็บ ดังนี้
ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงส่วนใหญ่จะตรวจพบปริมาณแร่ธาตุสังกะสีในเลือดน้อยกว่าปกติ จากการศึกษาในผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านที่ทำการรักษาด้วยแร่ธาตุสังกะสีในรูปแบบซิงค์ซัลเฟต (Zinc Sulphate) 5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน (เทียบเท่ากับปริมาณแร่ธาตุสังกะสีอิสระที่ควรได้รับต่อวันอยู่ที่ 50-80 มิลลิกรัม) ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน พบว่าแร่ธาตุสังกะสีช่วยให้เส้นผมงอกใหม่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน และสามารถลดหลุดร่วงได้หลังการรักษา
คนที่มีปัญหาผมหลุดร่วงจึงควรเสริมซิงค์ เพื่อช่วยการเจริญเติบโตของเส้นผม และช่วยให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้น
เนื่องจากซิงค์มีส่วนสำคัญในขบวนการสร้างกรดนิวคลีอิค (Nucleic acid) ทั้งดีเอ็นเอ (DNA) และอาร์เอ็นเอ (RNA) โดยเฉพาะในระยะที่ร่างกายต้องการสร้างเซลล์ใหม่ เช่น หลังผ่าตัด ร่างกายเกิดบาดแผล หรือการอักเสบ เป็นต้น
ซิงค์ช่วยในการปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยควบคุมการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดทีลิมโฟไซต์ (T-lymphocyte) ให้ทำงานป้องกันเชื้อโรคแปลกปลอมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซิงค์มีความจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธุ์ และปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย จากการศึกษาพบว่า การรับประทานซิงค์หรือแร่ธาตุสังกะสีวันละ 24 มิลลิกรัมต่อเนื่อง 45-50 วันช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายรวมถึงจำนวน และการเคลื่อนไหวของอสุจิได้อย่างชัดเจน จึงช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรสำหรับผู้ชายที่มีบุตรยากได้
ซิงค์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลของปริมาณไขมันในผิวหนัง จึงช่วยลดปัญหาการเกิดสิวอุดตันจากไขมัน และช่วยให้เซลล์สามารถนำวิตามินเอไปใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้เซลล์ผิวที่ถูกสร้างขึ้นใหม่มีสุขภาพดี และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวได้ด้วย
เนื่องจากร่างกายของเราไม่สามารถสร้างซิงค์ขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องบริโภคจากอาหารเท่านั้น ซึ่งแหล่งอาหารตามธรรมชาติที่มีซิงค์หรือสังกะสีในปริมาณสูง ได้แก่ หอยนางรม เนื้อแดงปลา อาหารทะเล ถั่วและธัญพืช รวมถึงซิงค์ในรูปแบบอาหารเสริม โดยปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ
นอกจากการรับประทาน Zinc และโภชนาการที่ครบถ้วนแล้ว การดูแลเส้นผม และเล็บจากภายนอกก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นเดียวกัน โดยการดูแลรักษาความสะอาด การบำรุงผมและเล็บด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
-